วัยรุ่นพูดอย่างเหยียดหยาม“นี่ยัยแก่ รู้ไหมว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน?อีกทั้งสงครามเพนนินซูล่าในตอนนั้น พูดกันตามตรงเราเป็นผู้รุกราน อเมเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมต่างหาก อีกอย่าง อาวุธในตอนนั้น ถ้าไม่เป็นเพราะอเมมีความเมตตา คนพวกนั้นเนี่ยนะ จะมีประโยชน์อะไร?ฉันเกาสงไม่ต่อต้านพวกสมองมีปัญหาที่ชอบดูหนังแนวนี้ แต่เข้าใจไหมว่านี่เป็นการทำลายประวัติศาสตร์?”
คำพูดนี้ดึงดูดความไม่พอใจของผู้คนจำนวนมาก
คิดไม่ถึงว่ายังมีคนแบบนี้อยู่ด้วย
เกาสงยิ้มเยาะด้วยความรู้สึกอยู่เหนือกว่า“ผมไม่ได้ว่าพวกคุณนะ หนังประเภทเทพแบบนี้ มีแต่คนสมองกลวงอย่างพวกคุณเท่านั้นแหละที่ชอบดู ถ้าว่างไม่มีอะไรทำก็หัดเอาหนังสือมาอ่านบ้าง มันเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณนะ”
หลี่หลานพูดอย่างขุ่นเคือง“นายว่าไงนะ ทำไมนายถึงไม่มีจิตสำนึก ยังพูดจาขวานผ่าซากแบบนี้อีก นายยังเป็นคนอยู่ไหม??”
เกาสงยิ้มเยาะ“ผมขอร้องให้พวกเขาปกป้องผมหรอ?ผมจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากพวกเขางั้นหรอ?”
สีหน้าของเย่เซิ่งเทียนขรึมลง“พูดจบรึยัง?”
สหายของเขาจำนวนมาก ต้องเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องบ้านเมืองนี้เอาไว้
แต่ภายในประเทศคนแบบนี้มีไม่น้อย แต่ละคนรู้สึกว่าพระจันทร์ของเมืองนอกกลมกว่าภายในประเทศ
ยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่พบเจอกับแอลัน คนแบบนั้น
แต่ละคนยกย่องเชิดชูตะวันตกคิดว่าสูงส่งกว่าคนอื่น วิจารณ์แสดงความรู้สึกเหนือกว่า
เป็นสุนัขที่รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า
สงสัยคงคุกเข่านานเกินไปไม่ยอมลุกขึ้นมา
ถ้าเขากับเหล่าสหายพวกนั้น ปกป้องคนกลุ่มนี้ สู้ฆ่าพวกมันให้ตายเหมือนเศษขยะดีกว่า
ไม่คู่ควรจริงๆ
เกาสงพูดอย่างไม่รู้สึกผิด“ทำไม แกคิดจะทำร้ายฉันหรอ ถ่ายหนังแบบนี้ออกมาแถมยังไม่ให้คนอื่นวิจารณ์อีกงั้นหรอ?”
เพี๊ยะ
เย่เซิ่งเทียนตบไปที่หน้าของเขาฉาดใหญ่
“คุณแม่ครับ เศษขยะแบบนี้ ไม่ต้องไปเสียเวลาเถียงด้วยหรอกครับ ตบไปเลยดีกว่า”
เกาสงกุมหน้าชาของตัวเองเอาไว้ แล้วก่นด่าว่า“กะ แกกล้าทำร้ายฉัน?”
“ขอโทษนะครับ ที่รบกวนการดูหนังของทุกคน ดูหนังกันต่อเถอะครับ อย่าให้ขยะแบบนี้มาทำให้ทุกคนเสียอารมณ์เลย”
เย่เซิ่งเทียนพูดกับคนที่อยู่บริเวณโดยรอบ
“เพื่อน นายไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเราสนับสนุนนาย”
“คนแบบนี้สมควรโดนตบ”
ในที่สุด เหตุการณ์วุ่นวายก็จบลง
รอจนหนังจบลง หลี่หลานก็พูดเบาๆว่า“เซิ่งเทียน จากนี้ไประวังหน่อยนะ จากตัวตนของนาย ลงมือทำร้ายคนประเภทนี้ เป็นสิ่งที่หยามเกียรติของนาย อีกทั้งคนพวกนั้นยังถนัดเรื่องทำเรื่องขาวให้เป็นดำ มันจะกระทบต่อชื่อเสียงของนายนะ เมื่อกี้นายไม่น่าทำร้ายเขาเลย ควรให้ฉันลงมือเอง ดูสิว่าฉันจะข่วนหน้ามันให้แหกไหม ฉันลงมือไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอกนะ เมื่อกี้ฉันเตรียมจะข่วนหน้าเขาแล้ว ฉันไม่กลัวคนแบบนี้หรอกนะ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างขำๆ“คุณแม่ครับ ไม่จำเป็นหรอกครับ คราวหน้าถ้าเจอขยะแบบนี้อีก ให้โทรหาเวินเฉินเลยนะครับ ให้พวกเขาไปอยู่คุก ห้องขังในคุกเป็นที่อยู่ที่เหมาะกับพวกเขาที่สุด”
คนทั้งครอบครัวหัวเราะคิกคัก แล้วเดินออกจากโรงหนัง
แต่แล้วขณะที่พึ่งเดินออกมาจากโรงหนัง ก็มีวัยรุ่นเจ็ดแปดเข้ามารุมล้อม หัวหน้าของคนกลุ่มนี้ก็คือเกาสง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...