ฉากที่แปลกประหลาดอย่างนี้ ยิ้มที่ชั่วร้าย
ทำให้ในสมองของเย่เซิ่งเทียนระเบิดตูมออกเสียงหนึ่ง หนังหัวชาขนลุกขนพอง!
นี่คือฉากสมัยโบราณของเมื่อก่อน
แต่เขามองเห็นหนุ่มที่เหมือนกับตัวเองมากคนหนึ่งแล้ว
ยิ่งไม่มีวิธีที่จะอธิบายก็คือ เขารู้สึกว่าคนนั้นก็คือตัวเขาเอง
ความรู้สึกชนิดนี้ไม่ใช่การคาดเดาแต่เป็นความรู้สึกที่เป็นไปตามเหตุผลชนิดนี้
ก็ควรจะเป็นตัวเขาเอง
นั่นเป็นปฏิกิริยาสนองตอบของธรรมชาติชนิดหนึ่ง
แต่ปฏิกิริยาสนองตอบที่ยืนยันชนิดนี้ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวในใจ
ดังนั้นถึงถูกทำให้ตกใจแล้ว
เขาไม่รู้เพราะอะไรถึงเป็นอย่างนี้ ก็ไม่เข้าใจ
ยากที่จะอธิบายได้
นั่นเป็นเรื่องที่พูดไม่ชัดเจนชนิดหนึ่ง เป็นการพูดเชื่อมต่อที่ไม่เข้าใจ
แต่ตามมาติด ๆ เขามองเห็นอีก คนหนุ่มที่อยู่ในโลงศพดำยังคงนอนอยู่เงียบ ๆ บนหน้าของเขาใส่หน้ากากหยกขาวอยู่
“อ๊ะ?นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”
เย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยใบหน้าที่สงสัย
เมื่อกี้เห็นชัดว่าเขามองเห็นตัวเองในโลงศพดำแล้ว ยังนั่งขึ้นมายิ้มอย่างแปลกประหลาดให้กับตัวเองแล้ว
แต่ตอนนี้ศพนั่นที่อยู่ในโลงศพดำยังคงนอนอยู่ บนหน้าก็ใส่หน้ากากอยู่เดิมทีก็ไม่ได้เปิดเผยโฉมหน้าออกมา
ก็เหมือนทั้งหมดเมื่อกี้ ต่างก็เป็นภาพลวงตาของเขา
“ไม่มีทางเป็นภาพลวงตาได้ เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”
เย่เซิ่งเทียนย่นคิ้ว ฉากนั้นเมื่อกี้เขาแยกไม่ชัดเจนเล็กน้อยว่าเป็นภาพลวงตาหรือเรื่องจริง
แปลกประหลาดมากแล้วจริง ๆ
หัวหน้าทำพิธีที่ใส่หน้ากากทองยังคงเต้นรำบูชาอย่างแปลกประหลาดอยู่รอบ ๆ โลงศพ
สองดวงตาของเย่เซิ่งเทียนจ้องมองมหาปุโรหิตทองอยู่นิ่ง ๆ นี่เป็นฉากโบราณของเมื่อก่อนสรุปแล้วกำลังถ่ายทอดข้อมูลแบบไหน?
แต่ไม่นานสีหน้าของเย่เซิ่งเทียนก็เปลี่ยนไปมาก เหงื่อเย็นโผล่มาเลยทันที
ด้านหน้ามีโลงศพดำอะไรที่ไหน มีศพอะไรที่ไหนก็มีเพียงมหาปุโรหิตทองคนหนึ่ง ถ่องบทสวดคาถารอบ ๆ ดาบเล่มหนึ่งอยู่
บนดาบพอมีเลือดสดหยด
“ก็เปลี่ยนอีกแล้ว!สรุปแล้วฉากอันไหนถึงเป็นความจริง?”
เย่เซิ่งเทียนกลับสูดอากาศเย็นเฮือกหนึ่ง อยากที่จะออกไปกลับพบว่าสองขาของตัวเองขยับเขยื้อนไม่ได้
เขาไม่รู้ตัวเองมาถึงที่นี่ได้ยังไง รู้อยู่ว่าทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาหนึ่ง
แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่ให้กับเขามันผิดปกติจากเรื่องจริง เขาไม่รู้ควรจะกลับไปยังไง!
“คุณมาแล้ว?”
เย่เซิ่งเทียนมึนงงแล้วอย่างสิ้นเชิง
คิดว่านี่ยังเป็นภาพความฝันไม่งั้นเหล่าจู่ตระกูลเซียวและเซียวเทียนเฉิงจะหายตัวไปในความว่างเปล่าอย่างนี้ได้ยังไง ตัวเองจะปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไงอีก
“พี่เทียน!”
“เด็กน้อย!”
จู่ ๆ ปรากฏสองเสียงขึ้นมา ทำให้เย่เซิ่งเทียนมีสติหลอนเล็กน้อย เขาส่ายหน้าแล้ว
คือเกิดหูฝาดแล้วแน่นอน ไม่งั้นจะได้ยินเสียงของเย่ว์อิ่นหลงและปู่หอคอยได้ยังไง?
เย่ว์อิ่นหลงวิ่งมาถามอย่างตื่นเต้น“พี่เทียน คุณก็มาที่สนามรบเทพได้ยังไง?”
สนามรบเทพ?
เย่เซิ่งเทียนตะลึง สองคนที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าก็คือเย่ว์อิ่นหลงและปู่หอคอย!
เขาสับสนเล็กน้อยแล้วอย่างสิ้นเชิง นี่เกิดเรื่องอะไรอีก?
เป็นใครที่พาตัวเองมาถึงที่นี่แล้ว?
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากที่เลือนรางนั่นขึ้นมา
ซีเอ๋อร์ร้องไห้หันเดินมาทางเขาเรียกชื่อของเขาอยู่……
ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็กระตุกเป็นระยะ เจ็บปวดมาก
ในสมองของเขาผลิตการคาดเดาที่น่ากลัวหนึ่ง
หรือว่าเป็นซีเอ๋อร์ที่ช่วยตัวเองแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...