มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1516

“อย่างนั้นเหรอ? ขอแสดงความยินดีกับคุณที่มีความก้าวหน้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพที่แท้จริงในช่วงเวลานี้ถึงสองครั้งด้วย!” ออเรียล ฮอฟฟ์แมนจากตำหนักเทพยดาแสดงความยินดี ขณะที่เธอยิ้มเล็ก ๆ “เฮ้อ… ก่อนหน้านี้ตระกูลของเรามีคนในขั้นสูงสุดของระดับเทพที่แท้จริงสิบสี่คนเช่นเดียวกับเผ่าของคุณ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เรามีคนที่ก้าวเข้าสู่ชั้นสูงสุดเพิ่มอีกหนึ่งคน ดังนั้นตอนนี้เรามีกันสิบห้าคนแล้ว!”

เห็นได้ชัดว่าออเรียลโอ้อวดความจริงราวกับว่าเธอกำลังบอกอีกฝ่ายว่า ตำหนักเทพยดาของพวกเธอแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ตำหนักนภาได้กลับถดถอยลง ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องตกลำดับลงเล็กน้อยในอนาคต

กริฟเฟนด์ แลงลีย์ไม่อยากถูกเหน็บแนม จึงประกาศความแข็งแกร่งของเผ่าของตน “ฮ่าฮ่า… บังเอิญจริง ชนเผ่าของเราก็มีคนที่บรรลุถึงขั้นสูงสุดของระดับเทแท้จริงอีกสองคนเช่นนั้น และด้วยสิ่งนั้น เราจึงมีคนเพิ่มจากสิบสี่เป็นสิบหกคนแล้ว ดูเหมือนว่าเผ่าของเรามีผู้อาวุโสในขั้นสูงสุดของระดับเทพที่แท้จริงมากขึ้น!”

สีหน้าของโจเอลมืดมน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยแสดงความคิดเห็นว่า “การมีนักสู้ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงจะมีประโยชน์อะไร? ผมคิดว่าสัตว์อสูรอาจอยู่ในระดับเทพสูงสุด ไม่เช่นนั้นพวกมันคงไม่แข็งแกร่งขนาดนี้ ซึ่งหมายความว่าเจ็ดจุดอันตรายมีความลับในการบรรลุเข้าสู่ระดับพลังยุทธในระดับเทพสูงสุดอย่างแน่นอน มันอาจจะเป็นผลไม้วิญญาณหรือหญ้าวิญญาณก็เป็นได้!”

เควนตินขมวดคิ้วขณะที่เขาคิดทฤษฎีนี้ “ทุกคน ผมมีสมมติฐานที่ดูเป็นไปได้ ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่สัตว์อสูรจะออกมา เพราะสมาชิกจากวิหารแห่งทวยเทพและราชาทำให้สัตว์อสูรที่ทรงพลังไม่สบอารมณ์ หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเจ็ดจุดอันตราย? สัตว์อสูรเหล่านี้อาจมีความฉลาดทางจิตวิญญาณค่อนข้างสูง หากพวกมันเกือบจะอยู่ในระดับเทพสูงสุดแล้ว เป็นไปได้ไหมที่พวกมันมาที่นี่เพื่อล้างแค้นมนุษย์”

“คุณเพิ่งตั้งสมมติฐานขึ้นมานั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสทั้งหกของเราคงไม่ตาย!” โจเอลยังคงรู้สึกอกหักเมื่อนึกถึงผู้อาวุโสทั้งหกของเขา นี่ต้องเป็นความโกลาหลครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

แนช นายท่านตระกูลวู๊ดรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้ เขาแสดงสีหน้าแปลก ๆ ดูเหมือนว่าเฟนด์จะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมาก

“ผมไม่คิดว่าเราต้องกังวล จริงอยู่ว่าถ้าพวกเขาต้องการเอาชนะพวกเราทีละคนมันอาจจะง่าย แต่ที่นี่พวกเรามีกันมากมาย ทั้งแปดตระกูลชั้นสูงและสามชมเผ่าโบราณ แม้ว่าจะมีสมาชิกระดับเทพสูงสุดสองถึงสามคน แต่พวกเขาคงจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอกจริงไหม? เว้นแต่พวกเขาจะมีสมาชิกในระดับเทพสูงสุดหนึ่งถึงสองโหลนั่นแหละ” ชายผู้หนึ่งจากตระกูลชนชั้นสองให้ความเห็น ทั้งยังขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด

แนชและเฟนด์สบตากันด้วยความกังวล พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมสมาชิกจากวิหารแห่งทวยเทพและราชาถึงมาหาพวกเขาในเวลานี้

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักเทพยดาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดกับผู้คนที่อยู่ที่นั่นว่า “เป็นไปได้ไหมว่าสมาชิกของพวกเขายังไม่กลับมาและพวกเขาคิดว่าเราไม่รู้ว่าพวกเขาเข้าไปในพื้นที่อันตรายแล้ว จึงแสร้งทำเป็นว่ามาจะเข้าไปในเจ็ดจุดอันตรายกับเราด้วย?”