มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1792

"หึ ไว้ชีวิตคุณ? คุณฆ่าคนของเราไปมากมาย ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องบอกให้ตัวเองไว้ชีวิตคุณ! ถ้าตอนนี้เราเอาชนะคุณไม่ได้ ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะไว้ชีวิตพวกเราหรอก!”

เฟนด์ยิ้มเย็นราวกับว่าเขากำลังฟังเรื่องตลก เขาพลิกฝ่ามือก่อนที่ดาบสีดำจะปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาขว้างดาบออกไปฆ่าผู้หญิงคนนั้นทันที

“จากนี้ไป ในตอนที่เรารวบรวมของที่ริบมาจากสงคราม เราต้องหาแหวนยุทธของผู้ที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดเท่านั้น ถ้าไม่ได้มีของที่เราต้องการก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมา ปกติแล้ว แหวนยุทธของคนในระดับเทพสูงสุดจะมีของมากกว่าอยู่แล้ว เราต้องใช้เวลาให้น้อยลงเพื่อจะได้ช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น!”

หลังจากที่เฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกทุกคนว่า “นอกจากนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เผ่ากระหายเลือด ได้ส่งศิษย์เข้ามาในป่าแห่งนี้มากขึ้น หากเรามัวชักช้า อีกไม่นานจะมีศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดมาหาเรามากขึ้นกว่านี้!”

เคนเนธพูดด้วยรอยยิ้ม “เราต้องกลัวอะไรล่ะ? ถ้าพวกเขากล้ามาเราก็จะฆ่าพวกเขาซะ ฮิฮิ!"

“แค่นั้นไม่พอหรอก เราจะประมาทไม่ได้ ถ้านักสู้ของเขาเจอพวกเราเข้าเราจะลำบาก” อเล็กซานเดอร์ กล่าว “แล้วถึงแม้ว่าเฟนด์จะมีพลังยุทธที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเราที่เหลือก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าได้!”

แนชก็พยักหน้าเช่นกัน “นายท่านคาเบลโลพูดถูก ระดับการบ่มเพาะของเราไม่สูงมากนัก เราจำเป็นต้องตระหนักในตัวคู่ต่อสู้ของเราก่อนที่เราจะเคลื่อนไหว และเราก็ไม่ควรให้ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงกว่าเจอเราได้ อีกอย่างเรามีเวลาไม่มาก จำนวนคนของเราก็น้อยลงเรื่อย ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการที่เราจะเข้าร่วมการต่อสู้สักหนหนึ่ง จึงจะเป็นการดีที่สุดหากเราเข้าไปสู้เพราะต้องการช่วยชีวิตใครบางคน เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การฆ่าศิษย์จากเผ่ากระหายเลือด แต่เราฆ่าพวกเขาเพราะเราช่วยคนอื่น!”

เคนเนธตอบด้วยรอยยิ้มเคอะเขิน “ใช่แล้ว วันนี้ผมมัวแต่สนุกอยู่กับการฆ่า ผมมัวแต่ไปคิดว่าจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่า ใครกันแน่ที่เหนือกว่ากัน ผมก็เลยคิดน้อยเกินไป!”

"ไปกันเถอะ!"

เฟนโบกมือแล้วรีบพาทุกคนออกไป

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป ชายชราผมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

เคนเนธโกรธมาก เขารู้สึกสิ้นหวังในขณะที่เฝ้าดูเหล่าสมาชิกจากตำหนักเทพยดาและตำหนักอินทรีทะยานถูกสังหาร แต่กลับไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยพวกเขาได้

“เราทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้คือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เราต้องลดความสูญเสียของเราให้น้อยที่สุด!”

เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นและรีบพาคนอื่น ๆ เหาะไปยังจุดที่มีเสียงต่อสู้ดังขึ้นในจุดอื่น

หลังจากดูสถานการณ์อย่างระมัดระวังเฟนด์ก็ยิ้มออก “เราสามารถเข้าร่วมการต่อสู้นี้ได้ มีแค่นักสู้ขั้นที่ห้าของระดับเทพสูงสุดสองคน และที่เหลืออยู่ในขั้นที่หนึ่งหรือสองในระดับเทพสูงสุดเท่านั้น มีประมาณสิบคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุด และที่เหลือเป็นศิษย์ที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงและระดับกึ่งเทพ”

“เยี่ยมมาก ดีที่คราวนี้เราสู้ได้ ในนั้นมีสมาชิกในตระกูลคาเบลโลอยู่ด้วย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม