มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1920

เขารู้ว่าเมืองเซนิธ ซัน ซิตี้อยู่ใต้ความคุ้มครองของตำหนักสองกษัตริย์และทุกกองกำลังล้วนมีเขตอำนาจของตนเอง หากเฟนด์ต้องการเข้าไปบ่มเพาะตัวเองในตำหนักสักตำหนักหนึ่ง ตำหนักสองกษัตริย์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

สิ่งเดียวที่เขาไม่แน่ใจคือหลังจากเข้าสู่ตำหนักสองกษัตริย์เขาจะต้องเผชิญกับปัญหาแบบใดบ้าง เรื่องน่าขันนี้จบลงหลังจากการจากไปของชายผู้มีหนวดเครา

เฟนด์หันหลังเดินกลับห้องเมื่อสังเกตเห็นว่าความสนุกจบลงแล้ว สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือในขณะที่เขาหันกลับมา จู่ ๆ ฟาร์ลีย์ก็หันกลับมามองทางเขาอยู่นานสองนานราวกับว่าเขาค้นพบอะไรบางอย่าง

หลังจากที่เฟนด์กลับมาที่ห้อง เขาก็เข้าไปในเรือมัสตาร์ด ซี๊ดทันที ญาติและเพื่อนของเขาในมัสตาร์ด ซี๊ดกำลังบ่มเพาะตัวเองอย่างแข็งขันเพราะไม่มีใครอยากเป็นตัวถ่วงของเฟนด์ พวกเขาหวังว่าจะช่วยเหลือชายหนุ่มในการให้เฟนด์ตั้งหลักในโลกใบนี้ได้ ในขณะนี้แนชทะลวงเข้าสู่ระดับทะลวงวิญญาณได้แล้ว หากเทียบตามมาตรฐานของพลังยุทธของทวีปเฮสเทีย ก็เท่ากับว่าเขาอยู่ในขั้นสูงระดับติดตัวแล้ว

เขาเห็นความสงสัยเขียนอยู่บนใบหน้าของเฟนด์ในตอนที่เขาเดินเข้ามา แนชจึงหยุดการฝึกในทันที เขาดึงเฟนด์ไปที่ห้องนั่งเล่นที่ว่างอยู่ในในเรือมัสตาร์ด ซี๊ดและจัดโต๊ะไวน์เพื่อคุยกับเฟนด์

เฟนด์ไม่มีอะไรจะปิดบังพ่อของเขาและเริ่มพูดถึงข้อสงสัยที่เขามีทันที แนชถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด “ลูกไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่เพราะเรื่องนี้ พ่อรู้ว่าลูกกลัวปัญหาที่จะต้องเผชิญหลังจากเข้าร่วมกับตำหนักนั้น แต่ลูกก็ต้องรู้ด้วยว่าลูกไม่ควรปิดกั้นตัวเอง แม้ว่าลูกจะมีความทรงจำของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ลูกก็ยังขาดการลงมือปฏิบัติและประสบการณ์จริง ลูกสามารถพัฒนาทักษะยุทธและเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยการเข้าร่วมกับกองกำลังสักกองกำลังเท่านั้น”

หลังจากได้ยินคำพูดของแนชทันใดนั้นเฟนด์ก็ตาเป็นประกายขึ้น เขาไม่ใช่คนที่เปิดใจยอมรับอะไรง่าย ๆ อย่างที่พ่อของเขาพูดนั่นแหละ แม้ว่าเขาจะมีความทรงจำของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตเหล่านั้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะนิ่งเฉยและสามารถฝึกฝนตัวเองได้โดยอาศัยความทรงจำเหล่านั้นเพียงอย่างเดียวเสียหน่อย

ไม่ว่าเขาจะอยู่ในโลกไหน การได้ลงมือจริงและได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือโลกใบใหม่ ถ้าเขาเข้าร่วมกับตำหนักอื่น เขาก็จะได้รับความช่วยเหลือไปด้วย และนั่นย่อมดีกว่าการอยู่เปล่าไปวัน ๆ

"พ่อพูดถูก สถานการณ์ในตอนนี้ก็คือตำหนักสองกษัตริย์และเผ่าปฐมหายนะกำลังบาดหมางกัน ทำให้พวกเขาขาดกำลังพล ผมสามารถใช้โอกาสนี้ในการหาประสบการณ์บางอย่างได้"

เพื่อให้แน่ใจในเรื่องนี้ มีทางออกเดียวคือการให้แนชดูดซับชิ้นส่วนวิญญาณไปด้วยตัวเอง และเฟนด์ก็จะดูดซับชิ้นส่วนวิญญาณนี้เฉพาะในเวลาที่อยู่ในเรือวิญญาณลำนี้เท่านั้น

หลังจากที่เขาดูดซับชิ้นส่วนวิญญาณนี้ไปแล้ว นอกเหนือไปจากได้รับความทรงจำในจิตใจเพิ่มขึ้น โชคดีที่เขาไม่รู้สึกอึดอัดอะไรแต่อย่างใด แต่แนชผู้เป็นพ่อของเฟนด์กลับรู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

เฟนด์รู้เท่าทันความคิดของพ่อ "ก็ไม่ต้องกังวลหรอก ผมไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรเลย หลังจากที่ผมดูดซับชิ้นส่วนวิญญาณนี้แล้ว ผมก็ยังสบายดี ชิ้นส่วนวิญญาณเหล่านี้เป็นเพียงความทรงจำที่ไม่จางหายไปเท่านั้น"

ชิ้นส่วนวิญญาณที่แนชดูดซับไปนั้นเป็นความทรงจำของผู้อาวุโสจากเผ่าเทพสาบสูญผู้ซึ่งมาจากดินแดนเทพสาบสูญ พลังยุทธของผู้อาวุโสคนนี้บรรลุถึงระดับทลายโมฆาแล้ว!