หากมีตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คนคนเดียวสามารถที่จะปกครองสำนักเซียวเหยาและสำนักเหลยหวู่ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ได้อย่างสบายๆ
ส่วนชื่อของซูจิ้งหยุนนั้น หลัวซิวไม่เคยได้ยินมาก่อน
ในหุบเขาแห่งนี้หลัวซิวสัมผัสได้ว่ามีพลังของวิญญาณหลบซ่อนอยู่ ว่ากันว่าการฝึกตนในโลกยุทธ์หากเข้าถึงแดนฝึกจิตแล้ว จิตวิญญาณของจอมยุทธ์จะผลึกรวมกลายเป็นเทพจิต เขาไม่รู้สึกถึงพลังงานของสิ่งมีชีวิต แสดงให้เห็นว่าซูจิ้งหยุนผู้นี้ไม่เหลือร่างกายอยู่แล้ว แต่เหลืออยู่เพียงเทพจิตเท่านั้น
หลัวซิวไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดจะอาศัยเพียงเทพจิตแล้วยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของแดนจักรพรรดิยุทธ์ก็ตาม เมื่อร่างกายสลายไปแล้ว เทพจิตก็จะสลายไปด้วย โดยทั่วไปจะอาศัยสมบัติพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้ที่สูญเสียร่างกายไปแล้วยังคงอาศัยเพียงเทพจิตแล้วยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ซูจิ้งหยุนที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ คงจะอยู่ได้ด้วยสภาพนี้เช่นกัน
ในขณะที่หลัวซิวเงียบไปนั้น วิญญาณอันทรงพลังก็ได้ส่งเสียงออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ
“เป็นแค่จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดาแต่สามารถควบคุมพลังความเป็นตายได้ ฟ้าคงประทานรางวัลใหญ่ให้แกแน่ๆ งั้นซูจิ้งหยุนขอใช้ร่างนี้กลับไปเกิดใหม่ก็แล้วกัน!”
ในสมองของหลัวซิวมีเสียงหัวเราะเย็นเยียบสะท้อนก้อง พลังของวิญญาณอันแก่กล้าได้แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขา
“ครองวิญญาณ?”
สีหน้าของหลัวซิวแปรเปลี่ยน เขาเคยได้ยินว่าผู้แข็งแกร่งในแดนฝึกจิตขึ้นไป หลังจากที่ร่างกายสูญสลายไปแล้วก่อนที่เทพจิตจะสูญสลายไปสามารถครองวิญญาณและดูดกลืนวิญญาณของจอมยุทธ์คนอื่นได้รวมทั้งเทพจิตด้วย จากนั้นก็จะยึดครองร่างกายของอีกฝ่าย
จอมยุทธ์ชี่ไห่ไม่สามารถใช้วิญญาณหยั่งรู้ ได้ มีเพียงจอมยุทธ์ที่ฝึกตนเข้าสู่แดนพรสวรรค์แล้วเท่านั้นถึงจะมีพลังพลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณหรือที่เรียกกันว่าตัวสำนึก
หากเข้าสู่แดนปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตแล้ว วิญญาณจะผนึกรวมกลายเป็นเทพจิต ทำให้ตัวสำนึกยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
สิ่งที่เรียกว่าการครองวิญญาณนั้น คือการใช้พลังของจิตวิญญาณแทรกซึมเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของอีกฝ่ายและดูดกลืนจิตวิญญาณ จากนั้นก็จะสามารถยึดครองร่างกายของอีกฝ่ายหนึ่งได้
ดังนั้นเมื่อพลังจิตวิญญาณของซูจิ้งหยุนแทรกซึมเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิวแล้ว ความคิดของเขาก็จะถูกลากจูงเข้าไปยังตัวหยั่งรู้ของตัวเอง
จิตวิญญาณของหลัวซิวได้หลอมรวมเข้ากับลูกแก้วความเป็นตายแล้ว ในตัวหยั่งรู้ที่รางเลือนแล้ว ลูกแก้วเม็ดหนึ่งที่มีสีดำสลับขาวก็ได้ลอยขึ้นมา
“อะไรน่ะ”
จิตวิญญาณของซูจิ้งหยุนปรากฏขึ้นเป็นรูปร่างของคนที่เป็นเพียงภาพลวงตา แล้วเข้ามาในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว
เขามองเห็นลูกแก้วความเป็นตายที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว และรู้สึกราวกับว่าสามารถรับรู้ได้ถึงความลึกลับของความตายดั้งเดิมและพลังชีวิต
เดิมทีซูจิ้งหยุนเป็นผู้แข็งแกร่งในจักรพรรดิยุทธ์ที่ฝึกฝนพลังแห่งความตาย ตอนที่เขาเห็นลูกแก้วความเป็นตายนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือสมบัติล้ำค่ามากชิ้นหนึ่ง หากได้ครอบครองอนาคตของเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างรุ่งเรือง
“ฮ่าๆ สวรรค์ไม่ลำเอียงกับข้าเกินไปนัก ถึงได้มอบโอกาสดีๆ อย่างนี้มาให้!”
ซูจิ้งหยุนหัวเราะร่าพลางยื่นมือออกไปหมายจะคว้าลูกแก้วความเป็นตายเอาไว้ เขาพบว่าจิตวิญญาณของจอมยุทธ์ชี่ไห่คนนี้ได้หลอมรวมเข้ากับลูกแก้วความเป็นตาย ขอแค่เอาลูกแก้วเม็ดนี้กลั่นแปร ไม่เพียงแต่จะได้สมบัติล้ำค่าเท่านั้น แต่ยังสามารถกลั่นแปรจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้และครอบครองร่างกายของตัวเอง
ทว่าในตอนนั้นเอง พลังที่ลูกแก้วความเป็นตายส่งออกมาได้แปรเปลี่ยนไป มือของซูจิ้งหยุนยังไม่ทันจะสัมผัสโดนลูกแก้วความเป็นตาย ลูกแก้วพลันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงแล้วหายไป
ต่อจากนั้นลูกแก้วความเป็นตายได้ส่งพลังดูดกลืนวิญญาณออกมา ดึงดูดเทพจิตของซูจิ้งหยุนเข้าไปในลูกแก้วความเป็นตาย
หลัวซิวอ้าปากค้างมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาทีต่อมาจิตสำนึกของเขาก็ได้เข้าสู่โลกของลูกแก้วความเป็นตาย
เหนือศีรษะของเขาปรากฏทะเลจักรวาลดวงดารา ดาวแต่ละดวงที่ส่องประกายแสงนั่นก็คือจิตวิญญาณของคนหนึ่งคนที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้
ถ้าจะพูดให้ถูกนั่นเป็นเพราะพลังของเขานั้นอ่อนแอเกินไป หากไม่ได้ลูกแก้วความเป็นตายล่ะก็ จอมยุทธ์ชี่ไห่เล็กๆ อย่างเขาคงจะถูกซูจิ้งหยุนยึดครองวิญญาณไปแล้ว
จิตวิญญาณที่มีพลังงานสมบูรณ์ได้ลอยออกมาจากลูกแก้วความเป็นตาย จากนั้นจิตวิญญาณของหลัวซิวก็ได้ดูดรับเข้าไป เขารู้ว่านี่คือพลังที่อยู่ในเทพจิตอันผุพังของซูจิ้งหยุน
ส่วนสติสัมปชัญญะของเทพจิตที่จักรพรรดิยุทธ์ซูจิ้งหยุนแอบสะสมเอาไว้นั้น ก็ถูกกฎดั้งเดิมของลูกแก้วความเป็นตายกำจัดไปจนหมด
จะว่ากันตามจริงแล้วนี่ถือเป็นคราวซวยของซูจิ้งหยุน เทพแห่งวัฏจักรชีวิตยึดถือกฎดั้งเดิม ซึ่งนั่นก็คือจะคุ้มครองเมื่อผู้สืบทอดถูกครองวิญญาณครั้งแรกเท่านั้น และซูจิ้งหยุนบังเอิญเป็นคนแรกพอดี แสดงว่านี่คือคราวตายของเขาแล้ว
จากนั้นไม่นาน เมื่อหลัวซิวได้ดูดรับพลังแห่งจิตวิญญาณนี้เข้าไปแล้ว เขาก็ตื่นเต้นที่รู้ว่าตัวเองไม่ต้องใช้ดวงตาก็สามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวที่อยู่ภายในระยะร้อยกว่าเมตรได้อย่างเลือนรางแล้ว
“นี่คือ...... พลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณ?” หลัวซิวแอบตื่นเต้น ตามที่เขารู้มามีเพียงจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์เท่านั้นที่จะมีความสามารถใช้พลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณ
ส่วนจอมยุทธ์พรสวรรค์ที่พลังค่อนข้างอ่อนแอ ก็จะไม่มีความพร้อมที่จะมีความสามารถเช่นนี้
แต่เขาที่เป็นเพียงจอมยุทธ์ชี่ไห่ขั้น 6 กลับมีความสามารถขนาดนี้
แม้ว่าซูจิ้งหยุนจะตายแล้ว แต่พลังความตายที่ลอยคลุ้งอยู่ในหุบเขายังคงไม่สลายไป
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ”
พลังความตายในหุบเขาแห่งนี้ถูกหลัวซิวดูดรับและกลั่นแปรไปจนหมด ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเข้าไปสำรวจดูในถ้ำสักหน่อย
และด้วยในถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความตาย ลู่เมิ่งเหยาจึงไม่สามารถรับมือกับพลังงานเช่นนี้ได้ จึงต้องปล่อยให้เธอรออยู่ด้านนอกก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...