มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3208

ซากกระดูกกองกันเป็นภูเขา มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่เคยดับสลายสูญสิ้นอยู่ภายใต้น้ำมือจักรพรรดิเซียน

แต่สิ่งที่หลัวซิวใส่ใจมากกว่าคือตกลงจักรพรรดิเซียนดับสลายสูญสิ้นไปเพราะเหตุใดกันแน่?

เขามองป้ายบัญชาการหยกเซียนที่อยู่ในมือ ป้ายบัญชาการชิ้นนี้ถูกวางอยู่ข้างโครงกระดูกจักรพรรดิเซียน ทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตเผ่าปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้ ห้วงปณิธานสังหารปีศาจที่ไม่ดับสูญได้สยบมารสังหารปีศาจ

สามารถสัมผัสพลังของจิตอสูรได้จากป้ายบัญชาการหยกเซียน หรือว่ามีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในป้ายบัญชาการชิ้นนี้?

จู่ ๆ หัวใจหลัวซิวก็สั่นไหวขึ้นมา เขาสัมผัสพลังออร่าพิเศษดวงหนึ่งได้

สายตาเขาจึงจ้องมองไปยังทิศทางที่พลังออร่าดังกล่าวลอยมา พร้อมกับแผ่ขยายตัวสำนึกออกไปด้วย ก่อนจะมองเห็นก้อนหินก้อนหนึ่งที่ดูธรรมดาเรียบง่าย มีขนาดเท่าหนึ่งกำปั้นตกอยู่ในละแวกใกล้เคียงของซากกระดูกที่กองกันเท่าภูเขา

หลัวซิวขยำมือครั้งหนึ่ง แต่ทว่าก้อนหินที่มีขนาดเท่ากำปั้นกลับมีน้ำหนักราวหมื่นชั่ง เมื่อปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ด้านบนออก ธาตุแท้ของก้อนหินถึงจะถูกเปิดเผยในสายตาเขา

นี่คือเตาเซียนเตาหนึ่งที่ผุพัง ตัวเตาเซียนเป็นสีดำล้วน ด้านบนมีรอยขีดข่วน ขาเตาและที่จับหายไปอย่างละข้าง

หลัวซิวรู้สึกเหมือนนี้เดชจักรพรรดิแฝงซ่อนอยู่ในเตาเซียนที่ผุพังลาง ๆ ทำให้เขาสันนิษฐานว่าของสิ่งนี้มีโอกาสเป็นภัณฑ์จักรพรรดิที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนสูงมาก!

อีกทั้งอาจจะไม่ใช่ภัณฑ์จักรพรรดิทั่วไปด้วย มีโอกาสเป็นภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลสูงมาก!

แม้จะภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลเป็นที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็ดีกว่าภัณฑ์จักรพรรดิทั่วไปแน่นอน คำว่ามรรคผลนั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง เพราะมันมีการตระหนักรู้และแก่นสารทั้งชีวิตของจักรพรรดิเซียนแฝงซ่อนอยู่ภายใน

สำหรับภัณฑ์จักรพรรดิที่แท้จริงนั้น หลัวซิวแค่เคยได้ครองภาชนะติ่งปีศาจมังกร ดาบหักเซียนของเขาแค่สามารถเทียบทัดภัณฑ์จักรพรรดิ ทว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อาวุธที่จักรพรรดิเซียนหลอมสร้างแต่อย่างใด

ในส่วนของเหล็กเซียนชั้นกล้านั้น เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าระดับขั้นของภัณฑ์จักรพรรดิชิ้นนี้คืออะไรกันแน่ หากมันเป็นอาวุธที่สามารถสยบสังหารจักรพรรดิเซียนดั่งคำเล่าขานจริง ๆ เช่นนั้นระดับขั้นของมันก็อาจมีโอกาสสูงกว่าภัณฑ์จักรพรรดิก็เป็นได้

ภัณฑ์จักรพรรดิและภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลแตกต่างกันเยอะมาก ซึ่งจุดที่เป็นกุญแจสำคัญก็อยู่ที่มีเดชจักรพรรดิแฝงซ่อนอยู่ภายในภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผล

แม้ภาชนะติ่งปีศาจมังกรจะเป็นสิ่งที่จักรพรรดิเซียนจิ่วโยวกลั่น แต่ไม่มีเดชจักรพรรดิแฝงซ่อนอยู่แต่อย่างใด มีเพียงภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลทุกชิ้นของจักรพรรดิเซียนถึงจะมีเดชจักรพรรดิ การตระหนักธรรมเวชและเกณฑ์ที่ผ่านการยกระดับในทั้งชีวิตของจักรพรรดิเซียนตนหนึ่งแฝงซ่อนอยู่ภายใน

และด้วยเหตุนี้นี่เอง ภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลถึงล้ำค่าและไม่สามารถประมาณค่าได้

ส่วนเตาเซียนผุพังที่อยู่บนมือหลัวซิว หากมันเป็นภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลจริง ๆ เช่นนั้นภายในก็ต้องมีการตระหนักธรรมเวชและแก่นสารทั้งชีวิตของจักรพรรดิเซียนตนหนึ่งแฝงซ่อนอยู่แน่นอน

ต่อให้ถูกทำลายไปแล้ว มันก็ยังเป็นสมบัติที่ไม่สามารถประมาณค่าได้เหมือนเคย

แบ่งตัวสำนึกส่วนหนึ่งออกมา หลัวซิวพยายามลองสำรวจเตาเซียนผุพังที่อยู่บนมือ เสี้ยววินาทีที่ตัวสำนึกสัมผัสกับเตาเซียนเตานี้ พลังออร่าที่แข็งแรงเปี่ยมพลังก็พรั่งพรูออกมาจากเตาเซียนเตานี้

หลัวซิวมีความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเบิ่งมองจักรพรรดิเซียนไร้เทียมทานตนหนึ่งอยู่ เดชจักรพรรดิที่ไร้ขอบเขตปกคลุมใต้หล้า ห้วงธรรมเวชที่ลึกซึ้งจนไม่อาจคาดเดาได้แผ่ขยายออกไป เสมือนสามารถทำให้ผู้คนตรัสรู้ธรรมเวชได้

“โฮกก!”

มีเสียงคำรามที่น่ากลัวสะท้อนออกมาจากส่วนลึกของสนามรบฮวงกู่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เสียงคำรามไม่ได้มีเพียงเสียงเดียว แต่เป็นหลายเสียงที่ดังขึ้น ๆ ลง ๆ

“โครมคราม……”

ท้องฟ้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยร้าวราวกับกำลังจะพังทลายลงมา เมฆดำขนาดใหญ่กลิ้งไหล ซัดกระหน่ำมาทางป่าไม้ที่หลัวซิวอยู่อย่างมโหฬารพันลึก พลังอำนาจมากมายมหาศาล ออร่าน่าสยดสยอง จิตสังหารพุ่งทะยานขึ้นฟ้า

หลัวซิวตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี เพราะเขาสัมผัสออร่าที่อันตรายอย่างยิ่งได้จากเมฆดำที่กลิ้งไหลมาทางเขา ผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมฆดำไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน

เมื่อคิดเช่นนี้ได้ หลัวซิวจึงบินหนีไปยังสถานที่ที่มีโครงกระดูกจักรพรรดิเซียนอีกครั้ง ด้วยแผนการในปัจจุบัน เขาคงทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่ห้วงปณิธานไม่ดับสูญที่แฝงซ่อนอยู่ในโครงกระดูกจักรพรรดิเซียนแล้วล่ะ

แม้นจักรพรรดิเซียนจะดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว แต่ปณิธานจักคงอยู่ตลอดกาลอย่างไม่ดับสูญ!

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเมฆดำรวดเร็วอย่างยิ่ง เมฆสีดำขลับกดอัดมา ความมืดมิดที่ไร้ขอบเขตได้ปกคลุมแผ่นดินใหญ่ ครอบคลุมทั้งป่าไม้

ถัดจากนั้น ใบหน้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏในเมฆดำ ในดวงตามีจิตสังหารที่ดูกระหายเลือด พลังออร่าที่บ้าระห่ำได้ผนึกหลัวซิวที่อยู่ด้านล่างเอาไว้

“เวิง!”

ภายในจิตใจของหลัวซิว ณ วินาทีนี้ เขารู้สึกว่าด้านหน้าของตัวเองยังมีเส้นทางอีกยาวไกลมากที่ต้องเดิน

การฝ่าฟันผ่านเส้นทางแห่งห้าจักรพรรดิไม่ใช่ความสำเร็จขั้นสูงสุด แม้จะมีวุฒิจักรพรรดิเลิศล้ำไร้เทียมทาน หากดับสลายถึงสิ้นอยู่บนเส้นทางแห่งการเจริญเติบโต ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

“คนรุ่นหลังไม่อาจย่างกรายเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ได้ง่าย ๆ”

สูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง หลัวซิวโคจรจิตเซียน ทำการสลักลายค่ายไว้ตรงทางเข้าของแดนบรรพกาล

เขาจะทำการปิดผนึกทางเข้า ทั้งทิ้งคำตักเตือนเอาไว้ เพื่อย้ำเตือนไปให้คนรุ่นหลังย่างกรายเข้าไปในสถานที่แห่งนี้

ในขณะที่หลัวซิวกำลังสลักลายค่ายอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีลำแสงห้าสีดวงหนึ่งบินออกมาจากทางเข้าของแดนปริศนา แล้วมาลอยอยู่ตรงหน้าเขา

เขายกมือขึ้นไปกำลำแสงห้าสีนั่นเอาไว้ในมือ จากนั้นเตาเซียนผุพังที่มีขนาดเท่ากำปั้นก็เริ่มสั่นเทิ้ม……

“สิ้นสุดแล้วหรือ?”

หลัวซิวพูดพึมพำคนเดียว เขาไม่แน่ใจว่าผู้แข็งแกร่งสุดสยองที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมฆดำได้เปิดศึกกับห้วงปณิธานที่ไม่ดับสูญของจักรพรรดิเซียนหรือไม่ และไม่ทราบเช่นกันว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้เป็นอย่างไรกันแน่

แต่มีจุดหนึ่งที่เขามั่นใจมาก ๆ ว่าที่ห้วงปณิธานจักรพรรดิเซียนส่งเขาออกมาจากแดนบรรพกาลนั้น เป็นการช่วยชีวิตเขาไว้ จากแดนผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของเขา หากพลัดหลงเข้าไปในสงครามระดับนั้น ผลสุดท้ายต้องได้ตายสถานเดียวอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ หลัวซิวก็จะไม่เข้าไปสำรวจอย่างสะเพร่าอีกแล้ว อย่างน้อยก็ต้องรอให้ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงมกุฎเซียนก่อน บางทีถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปสัมผัสความลับของสถานที่แห่งนี้

ลายค่ายได้ปิดผนึกทางเข้าของแดนบรรพกาลเอาไว้ หากไม่มีผลการฝึกตนระดับราชาเซียน ก็ไม่มีทางบุกรุกเข้าไปได้ด้วยซ้ำ

หลังจากทำเรื่องทั้งหมดนี้เสร็จสรรพ หลัวซิวก็ย้อนกลับไปยังฟ้าดินตรีภพ

การกลับมาในครั้งนี้ เขาเตรียมพร้อมที่จะบอกลาทุกคน จิตใจเขาต้องการยกระดับแดนผลการฝึกตนอย่างอดใจรอไม่ไหว ฉะนั้นเขาจึงจำเป็นต้องย้อนกลับไปยังโลกเซียน

มิหนำซ้ำในโลกเซียน เขายังมีกิจธุระอีกเยอะมากที่ยังไม่ได้จัดการ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ