มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 245

“ความมุ่งมั่น?” หลัวซิวหัวใจสั่นไหวเล็กน้อย นึกถึงเรื่องที่เทพแห่งวัฏจักรชีวิตได้บอกว่าความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้นตอนที่ตนต่อสู้กับเหยียนซีโรว่นั้น เป็นความมุ่งมั่นชนิดหนึ่ง

สายตาของหลัวซิวมองไปที่วิญญาณที่กำลังครุ่นคิดว่าตัวเองเป็นใครตนนั้น ความมุ่งมั่นของเขา คืออะไรกัน?

“ข้าเป็นใครกัน?”

บริเวณโดยรอบร่างกายของวิญญาณตนนั้นแผ่ซ่านไปด้วยคลื่นตัวสำนึก ร่างมายาสั่นสะท้านอยู่ไม่หยุด เหมือนว่าคำถามนี้ทำให้เขางุนงงสงสัย กลัดกลุ้มระทมทุกข์เป็นอย่างมาก

“ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่?” หลัวซิวเปลี่ยนคำถาม

“ข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้น!”

สำหรับคำถามนี้ วิญญาณได้ตอบอย่างตรงประเด็นและรวดเร็ว

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลัวซิวก็แน่ใจแล้วว่า ต้องการแข็งแกร่งขึ้น ก็คงจะเป็นความมุ่งมั่นของวิญญาณตนนี้

“ทำไมเจ้าถึงต้องการแข็งแกร่งขึ้น?” หลัวซิวถามอีกครั้ง

“เพราะศัตรูของข้าแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นข้าต้องแข็งแกร่งขึ้นถึงจะได้” วิญญาณจออบตามสัญชาตญาณ

“ใช่แล้ว ข้านึกขึ้นมาได้แล้ว ข้าชื่อเย่หยุน มาที่แดนปริศนาเมื่อสามสิบปีที่แล้ว” สายตาที่เลื่อนลอยของวิญญาณพลันเปล่งประกายขึ้นมา เหมือนนึกถึงอดีตชาติและปัจจุบันชาติของตัวเองขึ้นมาได้

“อ้ากกก!......”

วิญญาณพลันมีท่าทางเจ็บปวดขึ้นมา ร่างมายาของวิญญาณเป็นเหมือนดั่งเทียนในสายลม อาจสลายไปได้ตลอดเวลา

“ตระกูลเหยียน ตระกูลเหยียนที่สมควรตาย! ฆ่าล้างตระกูลข้า แย่งภรรยาของข้า ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะต้องล้างแค้น!”

“เมี่ยวฉิง เมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้นข้าจะฆ่าไอ้เดรัจฉานเหยียนชูซิวนั่นซะ!”

สีหน้าของวิญญาณดูเจ็บปวดขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาคู่นั้นพลันมองมาที่หลัวซิว “แดนปริศนาสามสิบปีเปิดหนึ่งครั้ง นี่ผ่านไปสามสิบปีแล้วเหรอ......”

พูดมาถึงตรงนี้ วิญญาณที่ตอนมีชีวิตอยู่มีชื่อว่าเย่หยุนตนนี้พลันแตกสลาย กลายเป็นหมอกควันสีดำ และหายไปในอากาศ

เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ เศร้าโศกเสียใจ

คนที่ชื่อเย่หยุนผู้นี้ เพื่อล้างแค้นหัวใจถึงได้มีความมุ่งมั่น แต่กลับเป็นเพราะติดอยู่ในแดนหยินสุดขั้วถึงไม่สามารถหลุดพ้นเข้าสู่วัฏจักรชีวิตได้ และก็เป็นเพราะความมุ่งมั่นที่เกิดจากความแค้นถึงได้ตระหนักห้วงยุทธ์มรณะอยู่ที่นี่ เพียงเพราะต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น

เพราะความอ่อนแอของเขา ทั้งตระกูลถึงได้ถูกตระกูลเหยียนเข่นข้า ภรรยาถูกแย่งไป แล้วตนเองล่ะ?

ถ้าหากมีวันหนึ่ง ตัวเองได้เป็นศัตรูกับผู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าหากอีกฝ่ายได้สังหารคนที่สนิทใกล้ชิดกับตน แย่งภรรยาของตนเไป ตนจะทำเช่นไร?

จู่ ๆ ดวงตาทั้งสองข้างของหลัวซิวก็ได้เปล่งประกายอันคมกริบขึ้นมา ข้าก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้น ใครกล้าแตะต้องครอบครัวคนใกล้ชิดของข้า ข้าจะให้มันตายอย่างไม่มีชิ้นดี วิญญาณแตกสลาย ไม่ได้ผุดได้เกิด!

ไอสังหารอันแรงกล้ารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหน้าอก หลัวซิวชักกระบี่ออกมาจากฝัก แล้วฟันออกไปด้านหน้า

ตูมมม!

พลังกระบี่อัคคีดำสายหนึ่งฟาดฟันออกไป ตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไปจนหมดสิ้น เกินเป็นร่องลึกที่มองไม่เห็นก้นขึ้นมาบนพื้นดิน

ในบรรดาวีรบุรุษคนรุ่นไหม่ที่เข้ามาในแดนปริศนาทั้งร้อยสามสิบกว่าคน ส่วนมากต่างเคยได้ยินชื่อหลัวซิว แต่คนที่รู้จักหลัวซิวจริง ๆ นั้นมีอยู่ไม่มากนัก ดังนั้นในตอนที่เขามาถึงที่นี่ ก็ไม่ได้มีใครให้ความสนใจ

น้ำแร่วิญญาณมีเพียงสามหยด ถ้าหากมีการแย่งชิงขึ้นมาจะต้องเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงแน่นอน จะมีคนเพิ่มขึ้นมาสักคนหรือลดน้อยลงไปอีกสักคน ก็ไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย

หลัวซิวใช้ตัวสำนึกกวาดสำรวจนักยุทธ์ทั้งสิบกว่าคนที่อยู่ใกล้กับหลุมลึก หนึ่งในนั้นมีนักยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนฝึกจิตขั้น 8 อยู่ผู้หนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ นั้นล้วนอยู่ในแดนฝึกจิตขั้น 5 ขั้น 6

ในเวลานี้สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่น้ำแร่วิญญาณทั้งสามหยดที่ลอยอยู่ในหลุมลึก สมบัติชนิดนี้มูลค่ามหาศาล ต่อให้แย่งชิงมาได้เพียงหนึ่งหยด นำออกไปขายก็สามารถแลกหินพลังจิตมาได้ประมาณแสนก้อน

ทุกคนต่างหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าลงมืออย่างบุ่มบ่าม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของทุกคนเอาได้ง่าย ๆ แม้ว่าจะแย่งชิงน้ำแร่วิญญาณมาได้ ก็จะต้องถูกทุกคนปิดล้อมโจมตีเป็นแน่

หลัวซิวเองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะไปแย่งชิง กวาดตัวสำนึกไปยังหลุมลึกที่น้ำแร่วิญญาณอยู่ พบว่ามีร่องรอยวิชาห้ามค่ายกลอยู่ เป็นที่ประจักษ์ว่าสมบัติเช่นนี้ไม่อาจได้มาครอบครองง่าย ๆ แน่

เมื่อบรรยากาศความหวาดระแวงซึ่งกันและกันมาถึงจุดใกล้ปะทุ ในที่สุดก็เริ่มมีคนเคลื่อนไหว

แทบจะภายในพริบตา ทุกคนต่างใช้ความเร็วที่สุดพุ่งเข้าไปยังจุดที่น้ำแร่วิญญาณอยู่ หลัวซิวเองก็ได้ใช้วิชาท่าร่างตามลมล่าจันทราออกมา แต่กลับไม่ได้พุ่งไปอยู่ด้านหน้าที่สุด

ไม่เพียงแค่หลัวซิว ยังมีนักยุทธ์ที่ฝึกฝนค่ายกลอีกสองสามคนที่ได้เห็นความผิดปกติของที่แห่งนี้ ต่างก็ได้ลดความเร็วลง ตามอยู่ที่ด้านหลัวของคนอื่น คอยเป็นผู้ได้รับประโยชน์อยู่ด้านหลัง

ฮึ่มมม!

คนที่นำอยู่ด้านหน้านั้นไม่มีความเข้าใจด้านค่ายกล ไม่อาจสังเกตเห็นวิชาห้ามค่ายกลที่อยู่ในที่นี้ได้ รัศมีพลังอันหนาวเหน็บที่น่าหวาดกลัวได้ปรากฏขึ้น ทำให้วีรบุรุษคนรุ่นใหม่ที่นำหน้าเหล่านั้นกลายเป็นน้ำแข็งไปในทันที

จากนั้น หนวดสีดำที่เหมือนเกิดขึ้นจากการรวมตัวของปราณหยินก็ได้ปรากฏขึ้นหลายสาย ฟาดฟันลงไปบนร่างนักยุทธ์ที่กลายเป็นน้ำแข็งเหล่านั้นเหมือนดั่งแส้ แตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ กลายเป็นผุยผงไปในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ