ภายในค่ายกล หลัวซิวมือซ้ายถือเตากลั่นยาโบราณที่มีคราบสนิม และมือขวามีเปลวไฟสีน้ำตาลแดงลุกโชนขึ้นมา
ตราผนึกเตา ความจริงแล้วเป็นวิชาห้ามค่ายกลรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่ค่ายกลลายเส้นและสัญลักษณ์นั้นค่อนข้างแน่นหนาและแข็งแรงกว่า มีเพียงการเผาไหม้และหลอมละลายด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณแห่งไฟเท่านั้น จึงจะสามารถทำลายได้
ภูตอัคคีกลืนกินบนมือขวาปกคลุมไปบนฝาของเตากลั่นยา ภายใต้การแผดเผาของภูตอัคคี ค่ายกลลายเส้นจาง ๆ ด้านบนนั้นก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เหมือนหิมะที่ถูกภูตอัคคีแผดเผาจนละลาย
กระบวนการในการใช้ภูตอัคคีทำลายตราผนึกเตานั้นไม่ซับซ้อน ส่วนที่ยากที่สุด คือของอย่างภูตอัคคีนั้น หายากเหลือเกินบนโลกใบนี้
หลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมง ตราผนึกเตาก็ถูกภูตอัคคีกลืนกินแผดเผาละลายจนหมดสิ้น และเตากลั่นยาโบราณบนมือของหลัวซิวก็ไร้ซึ่งสนิม และมีแสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นในที่สุด
เตากลั่นยาจากขนาดเท่ากำปั้นกลายเป็นความสูงมากกว่าหนึ่งเมตร ลอยอยู่กลางอากาศ เปล่งแส่งสีฟ้าเขียวไปทั่วทั้งเตา ทั้งสองด้านของเตากลั่นยา ถูกแกะสลักเป็นรูปมังกรฟ้าสองตัว ที่ดูราวกับมีชีวิต และกำลังขี่เมฆทะยานขึ้นฟ้าจากทั้งสองด้านของเตากลั่นยา
“เตาทยานนภามังกรคู่?”
เมื่อเห็นเตากลั่นยาโบราณนี้กลับคืนสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิม ดวงตาของหลัวซิวก็สว่างขึ้นในทันใด
ในสมัยโบราณมีเตากลั่นยาที่มีชื่อเสียงมากมาย เมื่อกลั่นยาบรรจุความลึกลับทุกประเภท ในนั้นมีเตากลั่นยาขั้นดินเก้าชนิดและเตากลั่นยาชั้นฟ้าสามชนิดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
เตาทยานนภามังกรคู่ ในบรรดาเตากลั่นยาขั้นดินเก้าชนิด อันดับที่ 6 สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จของการกลั่นยาได้ร้อยละยี่สิบ และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาได้อีกถึงร้อยละสิบ
และเมื่อใช้เตาทยานนภามังกรคู่สามารถกลั่นยา ยาจะมีลวดลายมังกรสีน้ำเงินสองแบบบนพื้นผิว ซึ่งสามารถสังเกตุได้ง่าย
ไม่เพียงแค่อัตราความสำเร็จของการกลั่นยาเพิ่มขึ้นร้อยละยี่สิบ ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าคือยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาได้อีกถึงร้อยละสิบ ซึ่งก็หมายความว่า นักกลั่นคนหนึ่งสามารถกลั่นยาคุณภาพร้อยละเก้าสิบ หากใช้เตาทยานนภามังกรคู่ ก็จะสามารถกลั่นยาบริสุทธิ์ที่แทบจะไม่มีสิ่งเจือปนได้เลย!
แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบกับนักกลั่นยาเท่านั้น สำหรับคนที่มีความทรงจำของปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าอย่างหลัวซิวนั้น ถึงจะใช้เพียงแค่เตากลั่นยาธรรมดา ก็สามารถรับประกันอัตราความสำเร็จและคุณภาพของยาบริสุทธิ์ที่สูงมากได้
“ฮ่าฮ่า กำไรมหาศาล!”
หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คุณภาพของเตาทยานนภามังกรคู่นี้ บรรลุไปถึงความสูงในขั้นดินชั้นสูง อย่างน้อยก่อนจะถึงกลั่นยาระดับแปด เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอปัญหาคุณภาพเตากลั่นยาที่ไม่เพียงพอแล้ว
“เตากลั่นยาขั้นสูงเช่นนี้ ต่อให้เป็นถึงปรมาจารย์กลั่นยาระดับหกแห่งราชวงศ์ตระกูลฝานก็คงไม่มีหรอก” การได้รับเตากลั่นยาที่มีชื่อเสียงลือเลื่องเช่นนี้ มันทำให้หลัวซิวรู้สึกดีมากจริง ๆ
ในตอนนี้ เรื่องเตากลั่นยาและภูตอัคคีนั้นสามารถแก้ปัญหาได้แล้ว หลัวซิวลูบแหวนเก็บของในมือ
“ได้เวลาฝึกกลั่นยาระดับหกแล้ว”
นั่งลงกลางอากาศด้วยท่าขัดสมาธิ หลัวซิวเพียงสะบัดนิ้ว เตาทยานนภามังกรคู่ที่มีแสงสีฟ้ากระจายออกมารอบตัวนั้นก็สั่นสะท้าน ภายใต้การปะทุของพลังจิตแท้ มังกรฟ้าสองตัวที่ราวกับฟื้นคืนชีพ หายใจเข้าออกด้วยลมหายใจอันลึกลับหมุนเวียนอยู่ภายในเตากลั่นยา ในกระบวนการกลั่นยาลมหายใจนี้จะเพิ่มอัตราความสำเร็จ รวมถึงคุณภาพของยา
ไม่เพียงเท่านั้น เตาทยานนภามังกรคู่ ยันต์คลายค่ายสลักด้วยพลังธาตุไฟที่หลอมรวมกัน มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการการควบคุมไฟของนักกลั่นยา
เตากลั่นยา สำหรับนักกลั่นยาคนหนึ่งนั้นถือเป็นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง หลัวซิวเองก็สามารถจินตนาการได้ นักกลั่นยาโบราณในอดีต เพื่อที่จะได้ครอบครองของดีอย่างเตาทยานนภามังกรคู่ ก็คงจะต้องเสียอะไรไปมากทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่เวลาไร้ความปรานี สิ่งต่าง ๆ อารยธรรมโบราณถูกทำลายล้างโดยกระแสน้ำแห่งประวัติศาสตร์ ไม่ว่าคนหรือสิ่งของ ส่วนใหญ่ก็จะต้องกลับคืนสู่ผืนดินเช่นเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพยายามกลั่นยาบางชนิด ความกลัวการผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย นักกลั่นยาส่วนมากต้องพักผ่อนเป็นเวลานาน จึงจะสามารถเปิดเตากลั่นยาเริ่มกลั่นยาได้อีกครั้ง
ภายใต้ร่มเงาของค่ายกล ทั้งสี่ทิศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ มีเพียงแค่เสียงสั่นเบา ๆ ของเตาทยานนภามังกรคู่ และเสียงโครมครามที่ดังมาจากเตากลั่นยาภูตอัคคีกลืนกินสีแดงอมน้ำตาลเป็นระยะ ๆ
จนเวลาล่วงเลยไปนาน กลิ่นยาจาง ๆ ลอยออกมาจากเตากลั่นยา แต่ว่าสีหน้าของหลัวซิวกลับเปลี่ยนไปในทันที
เสียงดังปัง เสียงระเบิดลอยมาจากเตากลั่นยา เตาทยานนภามังกรคู่กระเด็นขึ้น และเขย่าไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่วัตถุดิบในเตากลั่นยา ก็กลายเป็นผุยผงในไปในทันที
การกลั่นยาเสวียนจือครั้งแรก จบลงด้วยความล้มเหลว
หลัวซิวเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ท้อแท้แต่อย่างใด พลิกมือเรียกเตากลั่นยากลับมา เทกากยาข้างในออก เริ่มคิดเกี่ยวกับกระบวนการกลั่นยาทั้งหมด วิเคราะห์จากมันอีกครั้งเพื่อค้นหาปัจจัยที่ทำให้เกิดความล้มเหลว
“ไม่ใช่วิธีการกลั่นยาของข้าที่ผิด และไม่ใช่ปัญหาของเตากลั่นยา แต่เป็นปัญหาจากตัวยาวิเศษ”
หลังจากนั้นไม่นาน หลัวซิวก็สามารถวิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลวออกมาได้
ยิ่งเป็นยาขั้นสูงขนาดไหน เงื่อนไขของยาวิเศษก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่ยาวิเศษขั้นสูงมันคือเหตุผลที่มันมีค่าและหายากมาก
อย่างเช่นยาเสวียนจือระดับหก ต้องการไม่ใช่เพียงยาวิเศษชนิดเดียว สำหรับอายุของยาวิเศษ พลังของยา และการผสมยา ต่างมีข้อกำหนดโดยละเอียดที่ไม่สามารถผิดพลาดได้ หากรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดปัญหา ต่างก็สามารถทำให้การกลั่นยาล้มเหลวได้
ถ้าหากผลการฝึกตนของหลัวซิวเพียงพอ รายละเอียดเล็ก ๆ บางอย่างสามารถแก้ไขได้ง่าย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ข้ามระดับกลั่นยาไปแล้วถึงสองระดับ ปัญหาเล็กน้อยในตอนแรกจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่จำกัดอัตราความสำเร็จในการกลั่นยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...