“พลังหยางบริสุทธิ์ ร้อยชีพจรเปิดออก ทะลวงเดี๋ยวนี้!”
หลัวซิวเสียงดังฟังชัด พูดออก เคลื่อนพลังหยางบริสุทธิ์อย่างที่สุด ทั้งกระดูกเนื้อหนัง อวัยวะทุกส่วน เส้นเลือกชีพจร ล้วนมีปราณใน ราวกับเป็นคลื่นจากสายน้ำและมหาสมุทร พุ่งมายังจุดตันเถียนอย่างไม่หยุด
“ตู้ม!”
เขตป้องกันที่มองไม่เห็นบริเวณจุดตันเถียนในตัว ก็ลึกลับมือนถูกระเบิดออกมา ปราณในมหาศาลเหมือนถูกเปิดฝาออกมา ไหลเข้าจุดตันเถียนเหมือนน้ำท่วม
ความรู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพลังเริ่มจากบริเวณท้องน้อย ทำให้หลัวซิวรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก
“ทะลวงจุดตันเถียน ก็เท่ากับบรรลุได้ก้าวแรกแล้ว!”
ปราณในทั้งหมดในตัวมารวมอยู่ที่จุดตันเถียน เหมือนกับทะเลสาบมหาสมุทรทั้งหลาย ปราณปล่อยรังสีเปล่งประกายออกมา ส่องไปยังจุดดำมืดของจุดตันเถียน นี่ก็คือชี่ไห่!
เอาจุดตันเถียนเป็นพื้นฐาน ปราณก็จะอาศัยจุดชีพจรเส้นเลือดลมทั้งหลายไหลเวียนไปทั่วกาย ไม่ว่าจะเป็นผลการใช้ประโยชน์ หรือว่าจะเป็นความละเอียดล้ำลึก ก็ล้วนแข็งแกร่งมากกว่าก่อน
ขับเคลื่อนปราณในของผู้ฝึกยุทธ์กลั่นร่าง ถูกเรียกว่าโคจรจุลจักรวาล
และมีแต่การเปิดชี่ไห่แล้วเท่านั้น การขับเคลื่อนพลัง ถึงจะกลายเป็นโคจรมหาจักรวาล!
แต่ว่าถ้าอยากบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ แค่ทะลวงจุดตันเถียนมันยังไม่พอ ยังจะต้องบีบอัดปราณใน ให้กลายเป็นปราณแท้ด้วย!
“นี่มันคืออะไรกัน?”
ทันใดนั้น หลัวซิวก็รู้สึกว่าที่จุดตันเถียนมีความรู้สึกเจ็บๆ พอสัมผัสไป ปราณเป็นตาย2ระดับก็หมุนอยู่ในจุดตันเถียนของเขา เผยให้เห็นเป็นสีขาวดำสองสี เหมือนกับภาพไทเก๊ก และเหมือนกับเครื่องโม่หิน
ในขณะที่หมุนเวียนนี้ ปราณเป็นตาย2ระดับก็บีบตัวไม่หยุด ทั้งยังรวดเร็วมาก
โดยปกติแล้ว การบีบปราณแท้ไม่ใช่จะทำได้ในเวลาสั้นๆ หลัวซิวคาดไว้ว่า อย่างน้อยต้องใช้เวลา1-2วัน ปราณในถึงจะสามารถลายเป็นปราณแท้ที่บีบอัดอยู่ในจุดตันเถียนแล้วเปลี่ยนเป็นพลังที่แข็งแกร่งรุนแรงมากขึ้นได้
แต่ภายใต้ปราณเป็นตาย2ระดับที่หมุนเวียนกันอย่างรุนแรงนี้ ใช้เวลาไปเพียงไม่กี่อึดใจ ก็สามารถรวมตัวกันจนสมบูรณ์แบบแล้ว
ที่กึ่งกลางจุดตันเถียน มีวงล้อฝั่งซ้ายสีขาว ฝั่งขวาสีดำหมุนอยู่ มีไอหมอกเป็นสายแพร่ออกมาจากวงล้อนั้น เต็มเปี่ยมไปทั่วจุดตันเถียน กลายเป็นชี่ไห่
พลีงที่เป็นไอเหล่านี้ ก็คือปราณแท้!
การฝึกตนในแดนฝึกชี่ไห่ก็คือการรวบรวมปราณแท้ ขั้น1-3ปราณแท้จะเป็นไอ ขั้น4-6ปราณแท้จะเป็นของเหลว แล้วจะยิ่งรวบรวมมากขึ้น พลังรุนแรงมากขึ้น ขั้น7-9จะรวมเป็นของแข็ง ไม่มีอะไรทำลายได้
“บรรลุแดนฝึกชี่ไห่ง่ายๆ แบบนี้เลยงั้นหรือ?”
หลัวซิวมีสีหน้าตกใจ เห็นเข้าชี้นิ้วไปข้างบน แล้วก็มีพลังที่ไร้ลักษณ์พุ่งออกมา ทำให้หลังคาที่สูงขึ้นไปหลายเมตรสั่นสะเทือนแตกออก
จากนั้น เขาก็ขยับตัว แล้วหายไปจากจุดที่เคยอยู่ วินาทีต่อมาก็มาโผล่อยู่นอกห้อง
“ใช้ปราณแท้มาขับเคลื่อนวิชาท่าร่าง ความเร็วดั่งปีศาจ ไม่เสียแรงที่เป็นวิชาที่ขาดไปบางส่วน แต่ก็ยังถูกนับรวมอยู่ในวิชาท่าร่างระดับ4”
ตอนนี้หลัวซิวรู้สึกว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก
ในขณะเดียวกัน ก็มีความรู้สึกส่งมาจากลูกแก้วอัญมณีแห่งความเป็นความตาย ทำให้เขารับรู้ได้ว่าจุดตันเถียนของตนเองมีวงล้อขาวดำรวมอยู่ด้านใน มีชื่อว่าวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!
นี่ไม่ใช่ทักษะยุทธ์ และไม่ใช่วรยุทธ์ แต่เป็นตราที่เกิดจากกฎการเวียนว่ายตายเกิด
ในจุดตันเถียน วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพหมุนเวียน ความอัศจรรย์ทั้งหลายของกฎการเวียนว่ายตายเกิดเคลื่อนไหวมาในประสาทความรู้สึก ความรับรู้นี้สัมผัสไปถึงวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ หลัวซิวพบว่า วิชายุทธ์ที่เรียนแล้วไม่เข้าใจ ก็ได้เข้าใจขึ้นมาได้ทันที ราวกับสามารถทำความเข้าใจความลึกล้ำทุกอย่างได้หมด
เพราะว่าความเป็นตาย คือกฏแห่งธรรมชาติที่สูงส่งที่สุดอย่างหนึ่ง ถึงแม้หลัวซิวจะสามารถรับรู้ได้ถึงส่วนเล็กๆ เท่านั้น แต่ตัวมันก็มีระดับสูงมาก แต่วิชายุทธ์ที่เขาฝึกมัน มันมีระดับที่ต่ำกว่ามาก ใช้ระดับที่สูงกว่าไปมองดู สิ่งของระดับต่ำก็จะชัดเจนง่ายขึ้นมาก
ทุกเมืองในเขตการปกครองหยุนหลง ล้วนมีสำนักยุทธ์ที่สำนักเซียวเหยาก่อตั้งขึ้นมา ถึงแม้จะบอกว่ามีเอาไว้เพื่อชุบเลี้ยงอัจฉริยะต่างๆ แต่จริงๆ แล้วระหว่างกันก็ยังมีการแข่งขันระหว่างกันด้วย มาเชิญท้าทายกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา
ตอนนี้ ในหมู่นักเรียนของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน หลัวซิวอยู่อันดับ1 ก็ต้องมีหน้าที่รับคำท้าจากยอดฝีมือในสำนักยุทธ์จากเมืองอื่นๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนเอาไว้
บนเวทีประลองของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาดูมากมาย บนห้องชมการประลองใต้หลังคานั้น เจ้าสำนักชิงหยุนก็นั่งอยู่กับชายวัยกลางคนท้วมๆ และนั่นก็คือเจ้าสำนักซินฉือ
บนเวทีประลอง วัยรุ่นสองคนกำลังประมือกัน ด้านหนึ่งคือเฟิงเซวียนจวี๋ของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน คู่ต่อสู้คือสาวน้อยชุดแดงหน้าตาสะสวย
“ฮ่าๆ เจ้าสำนักชิงหยุน ได้ยินมาว่าสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนมีอัจฉริยะที่ฝึกพลังหยางบริสุทธิ์สำเร็จ ไม่ทราบว่าจะกล้ามาพนันกับผมหน่อยไหม?” อยู่ดีๆ เจ้าสำนักซินฉือยิ้มพูดออกมา
ในเขตการปกครองหยุนหลงมีทั้งหมด18เมือง เจ้าสำนักยุทธ์ของแต่ละเมือง มักจะนำพาคนเก่งๆ ของตนเองมาสู้กัน บางครั้งก็เล่นพนันกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา
“เจ้าสำนักซินฉือ อยากจะพนันอะไรครับ?” เจ้าสำนักชิงลึกลับนยิ้มถาม
“เดิมพันเอาเป็นกำไลอัญมณีฟ้าที่คุณชนะผมไปเมื่อ3ปีก่อนดีไหม?” เจ้าสำนักซินฉือยิ้มพูดตาหยี
“ผัวะ!”
ในตอนนี้เอง บนเวทีประลองก็มีเสียงตบบ้องหูดังขึ้นมา เฟิงเซวียนจวี๋ร่วงลงจากเวทีประลอง ใบหน้าเป็นร้อยฝ่ามือ สองตาโกรธเป็นฟืนไฟ ทั้งตกใจทั้งโมโห
นักเรียนของสำนักยุทธ์ที่มาดูการประลอง ก็ตกใจไปตามกัน แล้วก็ลุกฮือกันขึ้นมาทันที
“มากไปหรือเปล่า สู้กันไม่หยามกัน ในเมื่อชนะแล้ว ทำไมจะต้องทำให้คนอื่นอับอายด้วย?”
“หน้าตาก็สวย ทำไมถึงใจไม้ไส้ระกำแบบนี้ คิดว่าสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนไม่มีคนเก่งหรือไง?”
คนไม่น้อยตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...