ชิ้นส่วนกฎทั้งสิบแปดชิ้น หลัวซิวได้มอบให้กับเหยียนเยว่เอ๋อร์สิบสามชิ้นเพื่อหลอมรวมเข้าสู่ร่างกาย ชิ้นส่วนกฎอีกห้าชิ้นที่เหลืออยู่ เขาได้นำไปวางไว้ในหอฝึกฝนแห่งหนึ่งในแดนปริศนา ให้คนระดับผู้คุมกฎขึ้นไปของสำนัก ได้มาศึกษาทำความเข้าใจ
เมื่อเทียบกับผลการฝึกตนของคนอื่น ๆ ที่ต่างก็มีความก้าวหน้า ในสองปีมานี้ผลการฝึกตนของหลัวซิว กลับก้าวหน้าได้อย่างเชื่องช้า ยังอยู่ห่างจากการบรรลุถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสอง อยู่อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
หินตรีภพที่ใหญ่ที่สุดก้อนนั้น เขายังไม่สามารถตัดใจที่จะใช้มันได้ หลังจากที่สถานการณ์ของสำนักได้มั่นคงลง เขาเตรียมที่จะจากไปสักระยะ
เรื่องราวต่าง ๆ ของสำนัก มอบให้เกาเหลียนหงดูแลเป็นการชั่วคราว ส่วนหลัวซิวนั้นในระยะเวลาสองปีมานี้ เขาได้กลั่นยาเอาไว้จำนวนมาก สามารถให้สำนักไท่เสวียนใช้ได้ในระยะยาว
เมื่อทราบว่าหลัวซิวเตรียมที่จะไปฝึกตนที่โลกภายนอก เดิมทีเหยียนเยว่เอ๋อร์คิดจะไปกับเขาด้วย แต่เนื่องจากผลการฝึกตนได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเก็บตัวฝึกตน ไม่สามารถออกจากการเก็บตัวในช่วงเวลาอันสั้นได้
สิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามที่สยบมาได้ในตอนที่ได้รับภูตอัคคีกลืนกินตนนนั้น ตอนนี้ได้บรรลุถึงระดับที่สามารถทัดเทียมกับราชายุทธ์ได้ หลัวซิวจึงได้ใช้มันเป็นพาหนะ มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอาณาจักรใต้
ตามคำกล่าวของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ แม้ว่าทางเข้าของแดนนานาอสูรประปรากฏขึ้นแบบสุ่ม ๆ เป็นระยะ แต่ก็มีวิธีที่จะกำหนดทางเข้าได้เช่นกัน จะต้องเพิ่มระดับของค่ายกลให้บรรลุถึงปรมาจารย์ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าถึงจะได้
สำหรับหลัวซิวแล้ว อย่าว่าแต่ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าเลย ต่อให้เป็นระดับเจ้ายุทธจักรขั้นเก้า ก็ยังห่างไกลจากเขาอีกมากนัก
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีสักวันที่สามารถกำหนดทางเข้าของแดนนานาอสูร และวางทางเข้าของแดนนานาอสูรไว้ที่สำนักได้ พอถึงตอนนั้นก็จะให้ศิษย์ในสำนักเข้าไปฝึกฝนในแดนปริศนาเพิ่มระดับผลการฝึกตนได้ มีผลดีมากเลยทีเดียว
สิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามบินไปในอากาศด้วยความเร็วที่ไม่นับว่าเร็วนัก แต่หลัวซิวก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ระยะนี้ผลการฝึกตนของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ก้มลงมองภูเขาและผืนดิน แม่น้ำใหญ่ไหลทะลัก ทำให้จิตใจเบิกบานไปกับธรรมชาติ
แดนนานาอสูรดำรงอยู่มาเป็นเวลานานมาก แบ่งออกเป็นเก้าเขตใหญ่ ๆ อสูรกายที่อยู่ในดินแดนที่หนึ่งนั้นเทียบได้กับแดนฝึกชี่ไห่ แบ่งตามประเภทเช่นนี้ เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ ในเขตที่ห้านั้นเป็นอสูรระดับหก เทียบได้กับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์
แดนนิรันกาล สำหรับทุกคนที่ได้ฝึกตนในโลกยุทธ์แล้ว เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต เพราะแดนนิรันกาล เป็นตัวแทนของความเป็นอมตะ!
แม้ว่าผลการฝึกตนของเจ้าจะสูงส่งเพียงใด อย่างไรก็จะต้องตาย ยากที่จะหนีพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ผู้แข็งแกร่งในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ สามารถมีอายุขัยได้ถึงหมื่นปี หลังจากหมื่นปีผ่านไป ก็ต้องกลายเป็นเถ้าถ่าน มาจากที่ไหนหลับไปที่นั่นเช่นกัน
อาจมีบางคนที่คิดว่าระยะเวลาหมื่นปีนั้นยาวนาน แต่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานไม่มีที่สิ้นสุดนั้น หมื่นปีนับเป็นเพียงการดีดนิ้วเท่านั้นเอง
สามารถบรรลุถึงแดนนิรันกาลได้ ไม่ใช่ว่าจะมีชีวิตนิรันดร์ แต่หลังวจากที่อายุขัยได้ถึงขีดสุด สามารถรักษาดวงวิญญาณไม่ให้แตกสลายในการเวียนว่ายตายเกิดเอาไว้ได้เพียงเล็กน้อย มีโอกาสที่จะฟื้นฟูความทรงจำของชาติก่อน ในตอนที่ไปเกิดใหม่ได้
เพราะฉะนั้นแล้ว ก็นับเป็นความอมตะอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงได้เรียกระดับนี้ว่าแดนนิรันกาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...