เผชิญหน้ากับมกุฎยุทธ์ทั้งสองด้วยผลการฝึกตนแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 สามารถพูดได้ว่านางแทบไม่มีโอกาสชนะ
แต่ในเวลานี้ ระหว่างคิ้วของนางมีเครื่องหมายห้าสีเป็นประกายก็ปรากฏขึ้น
“นี่…นี่คือ…”
ออร่าในร่างกายของเหยียนเยว่เอ๋อร์ขณะนี้ ทำให้สีหน้าของเฟิ่งหงเสว่และเฟิ่งเยียนหรานทั้งสองคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ขณะที่พวกเขากำลังประหลาดใจ ร่างของเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็หายไปแล้วปรากฏตัวต่อหน้าเฟิ่งหงเสว่ หอกรบเปลวเพลิงปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือของนาง
บูม!
ตำหนักไท่เสวียนสั่นสะเทือน ร่างๆหนึ่งกพุ่งออกมาจากประตูตำหนักพร้อมกระอักเลือดออกจากปาก
“กฎเบญจธาตุ! แล้วเจ้ายังฝึกร่างเบญจธาตุวิเศษณ์ได้สำเร็จด้วย?”
เสียงอุทานดังขึ้นจากตำหนักไท่เสวียน จากนั้นร่างของเฟิ่งหลิงก็บินออกมา ปกป้องเฟิ่งเยียนหรานให้อยู่เบื้องหลัง
เรืองแสงห้าสีพุ่งออกไป กลายเป็นรูปร่างของเหยียนเยว่เอ๋อร์ บนร่างกายของนาง เดิมทีเปลวไฟสีแดงกลายเป็นเปลวไฟห้าสี
คนจากเผ่าหงส์ มีความเชี่ยวชาญด้านธาตุพลังแห่งไฟ แม้ว่าจะฝึกฝนจนถึงระดับที่สัมผัสได้ถึงกฎ ส่วนใหญ่ฝึกฝนทำความเข้าใจด้านกฎแห่งไฟ
แต่เหยียนเยว่เอ๋อร์ฝึกฝนผ่านทางชิ้นส่วนกฎเบญจธาตุ ใช้พลังแห่งกฎในการช่วยชุบร่างเนื้อ ฝึกร่างแห่งเบญจธาตุได้สำเร็จ
แค่อาศัยพลังแห่งกฎเบญจธาตุ เหยียนเยว่เอ๋อร์จึงสามารถโจมตีเฟิ่งหงเสว่ซึ่งอยู่ในระดับแดนมกุฎยุทธ์ขั้น 5 ด้วยผลการฝึกตนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น
ในตอนนี้สีหน้าของเฟิ่งหงเสว่ขรึมลงไปมาก เขาคาดไม่ถึงว่าแค่กองกำลังขนาดเล็กระดับสาม จะทำให้ตัวเองเสียเปรียบสองครั้งติดต่อกัน
และในดวงตาของเขายังคงมีความอิจฉาริษยาแผดเผาอยู่ด้วย โชคของนางผู้นี้ดีเกินไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการปลุกพลังของเลือดหงส์โบราณขึ้นมาได้ แล้วยังได้พลังแห่งกฎเบญจธาตุด้วย?
ในฐานะที่เป็นคนของเผ่าหงส์ เฟิ่งหงเสว่คุ้นเคยกับพลังแห่งกฎมาก
“เรากลับไป!”
ดวงตาของเฟิ่งหลิงเป็นประกาย ไม่ได้พูดอะไรอีก เขามองเหยียนเยว่เอ๋อร์ชั่วขณะ แล้วหันหลังกลับและจากไป
เจ้าตระกูลเหยียนไม่ได้ตอบออกมาโดยตรง แต่เหยียนเยว่เอ๋อร์รู้คำตอบแล้ว
นางรู้ว่าพี่ใหญ่คนนี้ของนาง ต้องการทำให้ตระกูลเหยียนพัฒนาขึ้นมาโดยตลอด และหากนางสามารถพึ่งพลังของสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์ได้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของตระกูลเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย
“สำหรับพี่ใหญ่ ผลประโยชน์ของตระกูลอยู่เหนือทุกสิ่งจริง ๆหรือ? แม้แต่น้องสาวคนนี้ของพี่ใหญ่ สามารถเป็นได้แค่เครื่องมือที่ใช้แลกผลประโยชน์ของพี่ใหญ่?”
เหยียนเยว่เอ๋อร์ยิ้มอย่างเศร้าๆ “เมื่อก่อน พี่ใหญ่รู้ว่าตำหนักจื่อฆ่าท่านพ่อท่านแม่ของเรา แต่พี่ใหญ่ยังจะให้ข้าหมั้นหมายกับเจ้าสำนักน้อยของตำหนักจื่อ”
“พี่ใหญ่อยากจะแก้แค้นให้ท่านพ่อท่าน ก็ต้องอดกลั้น แต่พี่ใหญ่เคยคิดถึงความรู้สึกข้าบ้างไหม?”
“ตอนนี้ตำหนักจื่อไม่มีอยู่แล้ว ความแค้นของท่านพ่อท่านแม่ก็ได้ล้างแค้นแล้ว แต่พี่ใหญ่ยังเป็นแบบนี้ ข้ามองพี่ใหญ่ผิดไปจริงๆ!”
มองพี่ใหญ่ที่เป็นสายเลือดเดียวกันที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ “จากนี้ไป ข้าไม่ใช่คนของตระกูลเหยียนอีกต่อไป พี่ใหญ่ก็ไม่ต้องมาหาข้าอีก พี่ใหญ่และข้าเลิกเป็นพี่น้องกัน!”
ก่อนที่จะพูดจบ เหยียนเยว่เอ๋อร์ได้หันหลังเดินออกไปแล้ว และบินไปยังตำแหน่งสูงสุดของตำหนักวัฏสงสาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...