เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งต่อต้านด้วยฝ่ามือเปล่า ๆ ของเขา ชายหนุ่มหน้าตาร้ายกาจก็เผยรอยยิ้มเย้ยยันบนใบหน้า รำพึงออกมาเบา ๆ ‘รนหาที่ตาย’!
“ชายผู้นี่ช่างอวดดีเสียเหลือเกิน จะใช้เพียงมือเปล่าต้านนักยุทธ์ชั้นดินชั้นสูงงั้นหรือ?” คนอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็พากันทำสีหน้าเหยเก คิดในใจว่ามือข้างนั้นของเด็กหนุ่มชุดดำคงจะไม่เหลือเป็นแน่
“ชิ้ง!”
ประกายไฟสาดกระเซ็น ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจคือจังหวะที่มือเปล่านั้นปะทะเข้ากับกริชสีเลือด กลับเกิดเสียงเหมือนเหล็กปะทะเข้าหากันดังขึ้น
ฝ่ามือของหลัวซิวไม่มีแม้แต่รอยแผล ส่วนกริชสีเลือดนั้น ไม่ปรากฏแม้แต่ร่องรอยฝุ่นผงสีขาวสักนิดเดียว
เมื่อมองกลับมาที่ชายหนุ่มหน้าตาร้ายกาจ เขากลับรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างที่รุนแรงเหมือนสัตว์ประหลาดทำให้เขาไม่อาจต้านทานได้ส่งผ่านมาจากกริช เรียกกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น ข้อมือขาดสะบั้น และร่างนั้นก็กระเด็นออกไป
หลัวซิวลงมืออย่างไร้ความปราณี พลังกระบี่เล่มหนึ่งกำลังจะพุ่งออกไป หมายจะฆ่าชายหนุ่มหน้าตาร้ายกาจที่ลอยออกไปกลางอากาศ
“หยุด!”
ในนาทีนั้นเอง ชายชุดแพรคนหนึ่งพุ่งลงมาจากชั้นสองของภัตตาคาร ยกมือขึ้นจับไปยังพลังกระบี่ที่หลัวซิวส่งออกไป และทำลายจนสลายไปในทันที
ภัตตาคารเทียนอีสามารถทำการค้าอยู่กลางเมืองหลัวเทียนได้ แน่นอนว่าจะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ชายชุดแพรคนนั้น คือยอดฝีมือที่รับผิดชอบภัตตาคารเทียนอีแห่งนี้
หลัวซิวครอบครองความสามารถกระแสสัมผัสพลังชีวิต แน่นอนว่ารับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเขาตั้งแต่แรกแล้ว
ชายวัยกลางคนในชุดผ้าแพรคนนี้ ขมวดคิ้วมองไปทางหลัวซิว “เจ้าหนุ่มไม่ลงมือโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยหรือ ถึงขั้นกล้าลงมือฆ่าคนในภัตตาคารเทียนอีของข้า?”
ชายชุดแพรมีผลการฝึกตนระดับมกุฎยุทธ์ขั้น9 เทียบเท่ากับผู้คุมกฎเฟิ่งหลิงแห่งเผ่าหงส์
“คนบางคนก็สมควรตาย เพราะถึงต่อให้ตายก็ไม่มีสิ่งใดให้เสียดาย” หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ศิษย์คนอื่น ๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดต่างก็ยึดถือคนผู้นี้ว่าเป็นผู้นำ เห็นได้ชัดว่าฐานะของคนคนนี้ไม่ธรรมดา” ฉีฝ่าเทียนพูดด้วยสีหน้ากังวลใจ
ฆ่าศิษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้สลักสำคัญใดใดของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หากไปฆ่าคนที่มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา เรื่องก็คงจะไปกันใหญ่แน่นอน
หลัวซิวก็รู้ว่าที่ฉีฝ่าเทียนพูดมานั้นก็มีเหตุผล แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจ ตามรูปแบบการกระทำของเขา จะต้องฆ่าทิ้งให้หมดโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นหลัวซิวเก็บจิตสังหารไปแล้ว ฉีฝ่าเทียนก็เบาใจขึ้นมา ดึงเขากลับมานั่ง พลางพูดเกลี้ยกล่อม “เจ้าสำนักหลัว วิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ในตอนที่อยู่ประเทศเทียนหวูนั้น หากนำมาใช้ที่เมืองหลัวเทียนแห่งนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน”
เมื่อได้ยินฉีฝ่าเทียนพูดเช่นนี้ หลัวซิวก็เข้าใจถึงความหมายที่เขาจะสื่อ เขารู้ดีว่าตนเป็นพวกฆ่าแบบถอนรากถอนโคน ไม่มีความปราณีใดใดสำหรับศัตรู ในตอนนั้นที่ประเทศเทียนหวู เพราะนิสัยและกลวิธีเช่นนี้ จึงทำให้ถูกกองกำลังจำนวนมากไล่ตามฆ่า
แต่ที่ประเทศเทียนหวูนั้นระดับโดยรวมมีขีดจำกัด ช่วงแรกของการฝึกยุทธ์ หลัวซิวอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว ดังนั้นกองกำลังเหล่านั้นที่มีความแค้นต่อเขา สุดท้ายก็ถูกเขาเยียบไว้ใต้ฝ่าเท้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...