ในตอนนี้นั่นเอง เสียงหยาบกระด้างก็ได้ดังลอยเข้ามาในหูของเขา “หลัวซิว เจ้าต้องแพ้อย่างแน่นอน!”
หลัวซิวหันไปมอง พบว่าคนที่พูดประโยคนี้ออกมานั้น คือบุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียน เมื่อตอนอยู่ด้านในสำนักหลัวเทียนนั่นเอง จำได้อย่างเลือนรางว่ามีนามว่าหลี่จ้าน เป็นอัจฉริยะที่มาจากอาณาจักรเหนือ
“ประหลาดคนเสียจริง” สิ่งที่หลี่จ้านกล่าวออกมานั้น ทำให้หลัวซิวมีสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา ตนไม่เคยล่วงเกินบุรุษผู้นี้ ทำไมเขาถึงได้บอกว่าตนจักต้องแพ้แน่?
เมื่อครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ หลัวซิวก็คร้านที่จะไปสนใจเขา และได้เดินตรงไปยังแท่นบัวเพลิงอัคคี
เมื่อเห็นว่าหลัวซิวไม่สนใจตน หลี่จ้านคิดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นตนอยู่ในสายตา ร่องรอยของความโมโหปรากฏออกมาจากคิ้วหนาและดวงตากลมโต
ตูมมมม!
เห็นเพียงหลี่จ้านพลันก้าวเท้าออกมา ฝ่าเท้าเหยียบลงไปบนอากาศ เกิดเสียงดังกระหึ่มเหมือนระเบิดขึ้นมา ร่างกายเป็นเหมือนดั่งลูกกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งออกจากกระบอก
“ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าจะต้องแพ้ให้กับข้าแน่!”
เมื่อเสียงของหลี่จ้านดังข้ามาในหูอีกครั้ง หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน สีหน้าหม่นหมองลง
เพราะเจ้าคนนั้นพลันเพิ่มความเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ได้ขึ้นไปยึดครองแท่นบัวเพลิงอัคคีที่ตนกำลังจะไป
ไม่เพียงแย่งแท่นบัวเพลิงอัคคีของตน เจ้าคนนี้ยังยโสโอหังเหมือนว่ามันเป็นผู้ชนะอย่างไรอย่างนั้น หากไม่ใช่เพราะกฎในรอบแรกกำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่าห้ามลงมือ หลัวซิวจะต้องทำให้เจ้าคนนี้ได้รู้อย่างแน่นอนว่าทำไมดอกไม้ถึงได้แดงแบบนั้น!
สำหรับการกระทำที่ผิดปกติของหลี่จ้าน หลัวซิวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียนไม่ถูกกันกับเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว นี่เป็นเรื่องที่ต่างก็รู้กันโดยทั่วไป ดังนั้นถึงได้คิดเป็นอันดับแรกว่า เป็นเพราะเรื่องนี้หลี่จ้านถึงได้หาเรื่องตน
“เจ้าตัวใหญ่ ทางที่ดีเจ้าจะต้องรู้สึกโชคดีที่ไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า” หลัวซิวบดฟันกรามเล็กน้อย จากนั้นก็เลือกแท่นบัวเพลิงอัคคีแทนอื่นแล้วเดินเข้าไป
เพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่กล้ามีเรื่องกับพวกวิปริตอย่างแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดพวกนั้น จักต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ครั้งนี้ไม่มีพิจารณาลี่จ้านผู้นั้นมาก่อกวน หลัวซิวได้เดินไปถึงแท่นบัวเพลิงอัคคีแห่งหนึ่งได้อย่างราบรื่น
เขานั่งขัดสมาธิลง และมองสายตาไปรอบ ๆ พบว่าแท่นบัวเพลิงอัคคีส่วนมากต่างก็มีคนอยู่บนนั้นแล้วมีเพียงแท่นบัวเพลิงอัคคีส่วนน้อยที่ยังว่างอยู่ อัจฉริยะหนุ่มสาวมากมายต่างใช้พลังทั้งหมดต่อต้านพลังกดดัน เพื่อขยับเข้าใกล้แท่นบัวเพลิงอัคคีอย่างต่อเนื่อง
ใช้สายตามอง ไม่อาจทราบได้ว่าฝีมือของใครคนหนึ่งนั้นแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ แม้ว่าหลัวซิวจะมีกระแสสัมผัสพลังชีวิต ก็ทราบดีว่าถึงแม้พลังชีวิตของคนคนหนึ่งจะสูงส่งเพียงใด ก็ไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นจะมีฝีมือที่แข็งแกร่ง
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งก้านธูป แท่นบัวเพลิงอัคคีทั้งหนึ่งร้อยกว่าแท่นต่างมีเจ้าของ หลัวซิวสังเกตเห็นว่าลู่เมิ่งเหยาเองก็ผ่านด่านเข้ามาได้เช่นเดียวกัน ในตอนที่เขามองไป นางก็ได้มองมาเช่นเดียวกัน
เขาเห็นลู่เมิ่งเหยามองมาทางเขาพร้อมกับยิ้มและพยักหน้า เขาก็ยิ้มตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...