หลัวซิวไม่ได้สนใจเจียงหวูจี้ผู้นี้ หากอีกฝ่ายต้องการแย่งวรยุทธ์ของตนก็ต้องมาดูกันทีหลังว่าเขามีความสามารถเพียงพอหรือไม่
แต่ความรู้สึกของการถูกคนจดจ้องอยู่นั้น ทำให้หลัวซิวรู้สึกอึดอัดใจ เขาหันไปมองเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูซิว หากไม่ได้เป็นเพราะภูตอัคคีเปลวเยือกนั่น เหตุใดเขาต้องมาแสดงไพ่เด็ดมากมายของตัวเองเพื่อดึงดูดสายตาของคนอื่นด้วยเล่า
ตามแผนการเดินของเขา ขอเพียงได้มีรายชื่อว่าฝึกตนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่างก็เพียงพอแล้ว ทว่าคราวนี้เขากลับมาเพื่อแย่งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่ง
การแย่งเข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรกครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าชนะหนึ่งสนามแล้วจะสามารถยกระดับขึ้นได้แล้ว แต่ทุกคนจะต้องประลองกับอีกเก้าคนที่เหลือที่มีความสามารถโดดเด่น การจัดลำดับรายชื่อจะอาศัยจำนวนผลแพ้ชนะ และความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้มาเป็นตัวตัดสิน
“หลัวซิว ซางหลัน!”
ลำดับของการประลองเปลี่ยนแปลงไป ไม่นานหลังจากนั้นก็มาถึงการต่อสู้สนามที่สองของหลัวซิว
“ซางหลัน?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้หลัวซิวจึงหันไปมองยังชายชุดม่วงที่ใบหน้าเคลือยรอยยิ้มอยู่โดยอัตโนมัติ
ขณะที่หลัวซิวหันไปมองอีกฝ่าย ชายชุดม่วงที่มีนามว่าซางหลันก็หันมามองเขาเช่นกัน
การได้เข้ามาเป็นสิบอันดับแรกนั้น ตามกฎของการประลองแล้ว คนทั้งสองย่อมรู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วคึกครั้งนี้จะต้องเวียนมาถึง
ในตอนก่อนที่เขาอยู่ที่ภัตตาคารเทียนอีนั้น ซางหลันก็รู้สึกเช่นกันว่าหลัวซิวไม่ธรรมดา และสุดท้ายก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
“พี่ซางหลัน สู้ๆ”
ในกลุ่มคนที่มาชมการประลองด้านล่าง สาวน้อยกระโปรงแดงยิ้มฟันขาวกำลังโบกมือมา ดวงตาเป็นประกายใสของนางจ้องไปที่ซางหลันที่อยู่กลางสนาม ในดวงตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความชื่นชม
“หลัวซิว สู้ๆ”
ซางหลันผู้นี้กำเนิดมาจากตระกูลยุทธ์ในอาณาจักรใต้ แต่กลับไม่ใช่คนของตระกูลยุทธ์ แต่เป็นเพราะฝีมือและพรสวรรค์การฝึกตนที่ไร้เทียมทานของเขาทำให้ตระกูลยุทธ์ให้ความสำคัญ
เขาไม่เหมือนอย่างหลัวซิวที่ปรากฏตัวบนเวทีประลองยุทธ์ด้วยท่วงท่าอาชาดำ แต่ซางหลันผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในบรรดาวัยรุ่นอาณาจักรใต้ และไม่เสียชื่อที่เป็นอัจฉริยะไร้เทียมทาน
“ข้าจะลงมือแล้ว”
ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงหลัวซิว ร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิมโดยใช้วิชาล่องหนไท่เสวียนเคลื่อนที่เขาใส่ซางหลัน
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ คนในสนามต่างพากันหยุดหายใจ เหยียนเยว่เอ๋อร์เองก็จิกชายเสื้อเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว แม้ว่านางจะเชื่อมั่นในตัวหลัวซิวมาก แต่จากการประลองก่อนหน้านี้ นางก็ได้เห็นฝีมือของชายชุดม่วงที่มีนามว่าซางหลันผู้นี้แล้ว พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าผามีดจากสำนักดาบเทพที่หลัวซิวประลองไปด้วยก่อนหน้านี้มาก
หลังจากนั้นเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่นางกับหลัวซิวเจอกันครั้งแรกในทันที นางรู้สึกหวนรำลึกถึงมันอย่างมาก เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี ช่วงเวลาหนุ่มสาวในตอนนั้นได้พัฒนามาถึงเหตุการณ์อย่างตอนนี้เสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...