เขาดูอ่อนโยนและสง่างาม แต่กลับมีออร่าที่ดุดันแผ่กระจายโดยรอบ เขายิ้มแล้วหันมองหลัวซิว แววตาคู่นี้ดูเหมือนปราณกระบี่ของจริง ที่แทงทะลุเข้ามาในจิตใจ
“จากที่ข้ารู้มา ตอนนี้เจ้าอายุยี่สิบเอ็ดปี ด้วยอายุเช่นนี้ แม้จะอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่ ก็คงมีเพียงไม่กี่คน ที่พอจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้”
หวูหยุนยิ้มเล็กน้อย “พรสวรรค์ของเจ้ายอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเจ้ายังเป็นผู้มีพรสวรรค์ ที่ผู้อาวุโสหวูชิวเสนอให้เข้าร่วมการประลองเองอีกด้วย หากเจ้าเข้ามาอยู่ในตระกูลยุทธ์ของเราได้ และใช้ทรัพยากรที่เข้าใจเป็นอย่างดีทั้งหมดของตระกูลยุทธ์ในการฝึกตน ความสำเร็จในอนาคตของเจ้า จะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน”
หลัวซิวประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หวูหยุนผู้นี้จะพยายามชักชวนเขาเข้าตระกูลยุทธ์ ในขณะที่อยู่บนเวทีประลอง
จะว่าไปแล้ว การถูกชักชวนโดยตระกูลยุทธ์แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับนิรันดร์ สำหรับคนหนุ่มสาวทุกคนที่อยู่ในโลกแสงดาว นับได้ว่าเป็นเกียรติสูงสุด
ยกตัวอย่างเช่นซางหลัน ซึ่งเดิมทีมีพรสวรรค์ที่สูงมากอยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาเข้าร่วมตระกูลยุทธ์แดนศักดิ์สิทธิ์ ยังอยู่เพียงแค่ในสำนักธรรมดา ๆ ระดับสองหรือสาม ก็คงเป็นการยากที่เขาจะประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ นี่คือความแตกต่างของมรดกและทรัพยากร
ตระกูลยุทธ์ที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับนิรันดร์เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการครอบครองทรัพยากรที่ไม่รู้จบ ที่สำคัญที่สุดก็คือการมีวรยุทธ์ระดับสูงสุด ประสบการณ์การฝึกตนของผู้แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วน รวมไปถึงการมีผู้แข็งแกร่งในโลกยุทธ์คอยให้คำชี้แนะด้วยตนเอง
เรียกได้ว่าบนโลกใบนี้ ไม่มีใครที่จะปฏิเสธคำชักชวนของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ แต่กลับมีเพียงหลัวซิวคนเดียวเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น
“ในฐานะที่เป็นอันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของตระกูลยุทธ์ การได้รับการเชิญด้วยจากท่านด้วยตนเอง ทำให้ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
หลัวซิวพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นกลับส่ายหน้า “แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจเข้าร่วมกองกำลังอื่นได้ เพราะข้าคือเจ้าสำนักไท่เสวียน”
“จะเลือกอย่างไรขึ้นอยู่กับเจ้า” หวูหยุนพูดเบา ๆ
ด้วยฐานะของเขา การเอ่ยปากชักชวนอีกฝ่ายด้วยตนเอง ถือเป็นการให้เกียรติอย่างถึงที่สุดแล้ว เพราะตระกูลยุทธ์เองก็ไม่เคยขาดแคลนคนที่อยู่ในระดับพรสวรรค์มาก่อน ในเมื่อีกฝ่ายไม่ยินดี เขาย่อมจะไม่พูดต่อ
ทันทีที่พูดจบ หวูหยุนก็หายตัวไปจากที่เดิม
บรรลุมังกรเขียว !
เสียงร้องของมังกรดังขึ้น หลัวซิวเพิ่มความเร็ว และหลบหลีกออกบริเวณที่อากาศถูกฉีกขาด
ดูเหมือนหวูหยุนจะคาดเดาเอาไว้แล้วว่า หลัวซิวจะสามารถหลบหลีกได้ จึงยกมือขึ้นสะบัดตามที่ตั้งใจไว้ และหลังแห่งโซนที่มองไม่เห็น ก็โจมตีเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
ฉึบ !
ในช่วงวิกฤติ หลัวซิวหลบหลีกจุดสำคัญ แต่เอวด้านซ้ายก็ยังคงถูกโจมตี ร่างยุทธ์แดนมกุฎขั้นกลางถูกแทงทะลุในทันที มีเลือดไหลรินออกมา
“ช่างเป็นพลังโซนที่แข็งแกร่งจริง ๆ” หลัวซิวตาเบิกโพลง การหายตัวระยะสั้น เป็นเพียงแค่วิธีการระดับปฐมภูมิที่สุดของพลังแห่งโซน มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ฝึกพลังแห่งโซนจนลึกซึ้งอย่างหวูหยุนเท่านั้น ที่จะสามารถสำแดงความสามารถในการโจมตีที่น่ากลัวยิ่งขึ้นของพลังแห่งโซนออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...