“เจ้าบอกว่าหอกรบของเจ้ามีผนึกพรสวรรค์?” เศษจิตสำนึกของหงเทียนได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
สิ่งที่เรียกว่าผนึกพรสวรรค์ ก็คือผนึกธรรมชาติที่แผงอยู่ภายในสมบัติวิเศษพรสวรรค์
ตามคำพูดของหงเทียน สมบัติที่ครอบครองผนึกพรสวรรค์ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก
อย่างเช่นของขลังพรสวรรค์ชิ้นหนึ่งที่มีผนึกธรรมชาติ ตามการคลายของผนึกแต่ละขั้น สามารถกลั่นแปรให้เป็นสมบัติวิเศษพรสวรรค์ได้ จากนั้นบางทีอาจจะยังสามารถกลั่นต่อไปเพื่อเป็นอาวุธเทพพรสวรรค์ภายใต้การควบคุมของเทพมาร ยังสามารถเติมโตไปได้ถึงสิ่งล้ำค่าพรสวรรค์ ต่างก็มีขีดของความเป็นไปได้อยู่
หลัวซิวเปิดเผยหอกรบในมือ แพร่ขยายออร่าอันแข็งแกร่งที่เทียบเท่าสมบัติวิเศษ
“หืม? เป็นสมบัติวิเศษพรสวรรค์ชั้นล่างจริง ๆ ถึงได้มีออร่า……” เศษจิตสำนึกของหงเทียนเกิดความลังเลขึ้น กลายเป็นจิตภัณฑ์ถึงอย่างไรก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ หากว่าหอกรบเล่มนี้มีพลังงานมหาศาลเช่นนั้นจริง ๆ มันจะต้องมีวันหนึ่งบางทีอาจจะมีโอกาสได้ฟื้นฟูพลังต่อสู้ขั้นสูงอย่างเมื่อวันก่อน
ต่อให้ความเป็นไปได้จะมีต่ำมาก แต่มันก็ย่อมดีว่าสลายกลายเป็นหมอกควันไปอย่างนี้
ถ้าเป็นตอนที่เขาเพิ่งจะกลายเป็นเศษจิตสำนึกอันบอบบางนั้น เขายินยอมให้วิญญาณสลายไปเสียยังดีกว่ายอมไปเป็นจิตภัณฑ์ของผู้อื่น
แต่ว่าเวลานับหมื่นนับพันปีที่ผ่านมานั้น เขาต่างรอคอยแค่เพียงอากาศที่จะได้เกิดใหม่ เวลายิ่งยาวนานเท่าใด เขาก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้นเท่านั้น ไม่อยากให้การรอคอยนับหมื่นนับพันปีสูญเปล่าไปแบบนี้
“ได้ ข้ารับปากเจ้า”
ท่ามกลางตัวเลือกแห่งความเป็นความตาย ราชาเทพหงเทียนท้ายที่สุดก็เลือกที่จะปล่อยวางความหยิ่งในศักดิ์ศรีของราชาเทพผู้แข็งแกร่ง เลือกที่จะกลายเป็นจิตภัณฑ์เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
หลัวซิวเห็นว่าเขารับปากแล้ว แต่กลับไม่ได้คลายการป้องกันลง หอกยุทธ์มังกรดำถูกเขายกขึ้นมา กลายเป็นรูปร่างมังกรนิล อ้าปากกว้างพุ่งเข้าไปกลืนกินเศษจิตสำนึกของหงเทียน
เศษจิตสำนึกของหงเทียนหลอมรวมเข้ากับกฎที่อยู่ในหอกรบอย่างต่อเนื่อง หลัวซิวค้นพบด้วยความประหลาดใจว่า ท่ามกลางกฎความตายที่แฝงอยู่ภายในหอกรบ กลับมีออร่าความลึกลับของกฎปริภูมิดั้งเดิมปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง
“ในช่วงเวลาที่ข้ายังอยู่ในจุดสูงสุดนั้นเคยฝึกตนกฎปริภูมิดั้งเดิมถึงแดนสำเร็จน้อยแดน ถึงแม้จะเหลือเพียงแค่เศษจิตสำนึกบาง ๆ เมื่อกลายเป็นจิตภัณฑ์ของหอกรบเล่มนี้ของเจ้า ก็ถือว่าครั้งนี้ยกผลประโยชน์ให้กับเจ้า”
เศษจิตสำนึกของหงเทียนหากว่ากลายเป็นจิตภัณฑ์อย่างสมบูรณ์ หอกยุทธ์มังกรดำก็เหมือนกับการลอกคราบครั้งหนึ่ง แฝงไปด้วยพลังแห่งกฎชั้นสองทั้งสองชนิดคือความตายและปริภูมิ
ห้วงความคิดของหลัวซิวกลับเข้าสู่ร่างต้น เงยหน้าขึ้นมองไปยังสี่ทิศ ภายในตำหนักจื่อเซียวมีปราณม่วงที่เข้มข้นแผ่กระจายไปทั่ว เทพมารอัสนีและเห้อหมิงภูตมรณะทั้งสอง ทำหน้าที่เป็นบ่าวผู้จงรักษ์ภักดีคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายเขา
“ตำหนักจื่อเซียวแห่งนี้จะเก็บไปอย่างไร?” หลัวซิวเอ่ยถามหงเทียน
“ข้ากลายเป็นจิตภัณฑ์ของเจ้า นักยุทธ์เทพที่เป็นรูปธรรมของข้าก็เป็นของเจ้าด้วย” น้ำเสียงของหงเทียนมีความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ยังเอาวิชาชุดหนึ่งส่งต่อไปยังตัวหยั่งรู้ของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...