อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 11

ออร์แลนโด้ซิ่งรถพาแพรณารามาจอดหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนจะขับรถเข้าไปยังที่จอดวีไอพีที่อยู่ข้างหน้า หญิงสาวทำหน้าตื่นๆ หันไปมองหน้าคนขับอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย

“จอดตรงนี้ได้เหรอคะ” เธอถามขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายดับเครื่องยนต์เสร็จแล้ว

“จอดได้สิคะ ใครจะว่าล่ะหืม!” เขาหันไปตอบราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ‘ก็ลองมีใครมาว่าดูสิ พ่อจะไล่ออกให้หมดเลย นี่มันห้างสรรพสินค้าของครอบครัวเขา แล้วเขาต้องแคร์ใครอีกวะ’ ชายหนุ่มหันมายิ้มให้สาวเจ้านิดหนึ่ง ก่อนจะเดินลงจากรถมาเปิดประตูให้อย่างอารมณ์ดี!

แพรณาราออกจากรถด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่ก็ถูกชายหนุ่มดึงมือให้เดินเข้าไปในห้าง และดูเหมือนอีกฝ่ายจะคุ้นเคยกับแผนกต่างๆ เป็นอย่างดี

ออร์แลนโด้พาแพรณาราขึ้นไปยังชั้นสอง ที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนจะเดินตรงไปยังแผนกขายของสดที่มีครบทุกอย่าง

แพรณาณาเดินไปเลือกวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่ออร์แลนโด้เข็นรถเข็นเดินตาม และช่วยหยิบของใส่รถเข็นจนเต็ม ส่วนเครื่องส้มตำนั้น อันโตนีโอ้กลับไปจัดเตรียมของรอที่วิลล่าแล้ว

หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว การ์ดสองคนที่เดินตามมาเงียบๆ ก็เข้ามาจัดการชำระเงินและขนของกลับไปรอที่สกาล่า ออร์แลนโด้ยังพาสาวเจ้าเดินเล่นต่อ จนกระทั่งมาถึงร้านไวน์ที่กินบริเวณเกือบทั้งชั้น พนักงานต้อนรับห้าหกคนรีบตรงเข้ามาทำความเคารพพร้อมๆ กัน

“สวัสดีค่ะท่าน! / สวัสดีครับท่าน”

แพรณาราหันไปมองผู้ชายข้างๆ พลางคิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาซื้อไวน์ที่นี่บ่อยๆ พนักงานเลยเอาใจเป็นพิเศษ!

“สวัสดีครับคุณออร์แลนโด้ วันนี้มาตรวจร้านหรือว่ามาเดินเล่นครับ...แล้วเอ่อ…” สตีฟ เมลล์ ผู้จัดการร้านไวน์ของโรคาซานเดอร์ ที่ขายเฉพาะไวน์และสปาร์กกลิ้งไวน์ ภายใต้แบรนด์ของโรคาซานเดอร์ เอ่ยทักทายทายาทคนที่สองของโรคาซานเดอร์อย่างสนิทสนม พลางหันไปมองสาวไฮสกูลไซส์มินิ ที่เดินตามหลังอีกฝ่ายมาอย่างอึ้งๆ

‘ว้าว! พาสาวมาด้วยเหรอนี่ เมื่อครู่มีเด็กที่ร้านเดินมาบอกว่า เห็นเจ้าชายน้ำแข็งมาเดินที่แผนกขายของสดชั้นล่างกับสาวสวย ทำเอาทุกคนตื่นเต้นกันยกใหญ่ พนักงานสาวๆ ต่างพากันแย่งขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำซึ่งจริงๆ คงอยากจะวิ่งไปดูลูกชายสุดหล่อของเจ้าของห้างมากกว่า แต่ก็พลาด! เพราะเขาสั่งให้ไปได้ทีละคน และคนละไม่เกินห้านาที ทำเอาโอดครวญ ตัดพ้อ หน้างอกันเป็นแถว แต่ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายเจ้าชายน้ำแข็งก็เดินมาให้ยลโฉมกันถึงที่ร้าน!’ สตีฟมองสาวน้อยที่ไม่รู้ว่าอายุถึงสิบแปดหรือยัง อย่างมึนๆ ก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ไปทักทาย

พนักงานสาวๆ ต่างพากันเพ้อ ที่เห็นเทพบุตรกันอย่างเต็มๆ ตา ก่อนจะช็อกไปตามๆ กันก็ตอนที่เห็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่บนนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวไซส์มินิข้างกาย

“อ๋อ ! นี่ภรรยาของผมครับ” ออร์แลนโด้ยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะแนะนำพร้อมกับกระชับอ้อมแขนกอดหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

คนที่ถูกแนะนำว่าเป็นภรรยาหน้าตึงขึ้นมาทันใด ‘นี่เพิ่งจะตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันไปยังไม่ทันข้ามวัน แต่เขาก็ทำเหมือนไม่ได้ตกลงอะไร แถมยังเที่ยวไปแนะนำว่าเธอเป็นภรรยาอีก’ แพรณาราจิกเล็บลงที่ข้างลำตัวของคนหน้ามึนทันทีอย่างอดไม่ได้

“โอ๊ย!” ออร์แลนโด้สะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกเล็บของสาวเจ้าหยิกหมับเข้าที่สีข้าง

“เอ่อ...ยังไม่ใช่ค่ะ” แพรณารารีบแก้

สตีฟใบหน้าชาวาบขึ้นมาทันใด ความรู้สึกยังอยู่ที่ประโยคก่อนหน้าที่ออร์แลนโด้เอ่ยแนะนำสาวข้างกายว่า 'ภรรยาของผม' พระเจ้า! นี่คุณอลันเป็นพวกชอบกินเด็กหรอกเหรอเนี่ย? เพราะสาวน้อยตรงหน้าคนนี้คงจะยังไม่บรรลุนิติภาวะแน่ๆ แบบนี้จะเรียกพรากผู้เยาว์หรือเปล่านะ เฮ้อ...ชักเริ่มจะหวั่นใจแทนเลโอนาดท์กับมาดามแล้วจริงๆ สตีฟฝืนยิ้มเจื่อนๆ ไปให้คนรักเด็กอย่างเสียวคุกเสียวตะรางแทน

“นี่มิกิ แพรณารา คนรักของผมครับ มิกิคะ นี่สตีฟ เมลล์ ผู้จัดการของที่นี่ค่ะ” ออร์แลนโด้แก้ให้ใหม่อย่างเซ็งๆ ‘แล้วมันจะต่างกันตรงไหนวะ ที่ยังไม่ได้ทำก็เหลือแค่แต่งงานเท่านั้น นอกนั้นก็ทำมาหมดแล้ว’

“สวัสดีครับ คุณแพรณารา ยินดีที่ได้รู้จักครับ” สตีฟเอ่ยเสียงเบาหวิว

“สะ...สวัสดีค่ะ คุณสตีฟ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” แพรณาราเอ่ยทักทายอย่างอายๆ

“มิกิคะ มิกิเลือกไวน์หรือสปาร์กกลิ้งไวน์รอพี่นะคะ เดี๋ยวพี่ขอเข้าไปเซ็นเอกสารข้างในแป๊บหนึ่ง ไม่ถึงสิบนาทีค่ะ!” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็ก้มลงจูบที่หลังมือของแพรณารา พร้อมกับทำสายตาหวานซะจนทั้งผู้จัดการและพนักงานในร้านอ้าปากค้างตามกันเป็นแถว

“เอ่อ...ค่ะ” เธอตอบรับอย่างอายๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นๆ

“งั้นเดี๋ยวพี่มานะคะคนดี” เขาบอกเสร็จก็หันไปพยักหน้ากับสตีฟแล้วเดินเข้าไปในห้องใหญ่ที่มีกระจกใสๆ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งข้างนอกและข้างใน

แพรณารารู้สึกอายกับสายตาของพนักงาน จึงเดินออกมาดูไวน์ตามชั้นต่างๆ ที่ขึ้นชื่อและมีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งวางเรียงรายอยู่นับพันๆ ขวดอย่างรู้สึกทึ่ง และต้องอึ้งเมื่อดูที่ป้ายราคาของไวน์แต่ละขวด ไม่ต่ำกว่าหมื่นเลยสักขวด ‘พระเจ้า! ถ้าทำหลุดมือตกแตกไปนี่แย่เลย!’ หญิงสาวคิดในใจก่อนจะรีบวางขวดไวน์ไว้ตรงจุดเดิมอย่างใจสั่นๆ แล้วเดินดูต่อไปเรื่อยๆ ไม่กล้าหยิบขึ้นมาดูอีก

เลขาของสตีฟ มีอา รีบเข้ามาดูแลสาวสวยที่เดินเลี่ยงออกมาดูไวน์ตามคำสั่งของผู้จัดการที่เดินไปบอกให้เธอเข้ามาดูแลหญิงสาวในฐานะคนรักของออร์แลนโด้

“สวัสดีค่ะ คุณแพรณารา ฉันมีอาค่ะ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดูแลคนรักของท่านค่ะ” มีอายิ้มให้สาวน้อยตรงหน้า

“ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันค่ะ คุณมีอา” แพรณาราอายหน้าแดงกับคำว่า คนรักของท่าน ที่อีกฝ่ายเอ่ย

“คุณสวยมากเลยนะคะ ถึงว่า...ทำเอาเจ้าชายน้ำแข็งใจละลายนี่ขนาดมีอาอยู่ใกล้คุณยังอดใจสั่นไม่ได้เลยค่ะ” มีอากล่าวชื่นชมจากใจ

“ว้าว! ขอบคุณนะคะ คุณมีอาก็สวยเหมือนกันค่ะ เอ่อ...ขอโทษนะคะ ทำไมถึงเรียกพี่อลันว่าเจ้าชายน้ำแข็งคะ?” แพรณาราถามต่ออย่างสงสัย

“นี่คุณไม่รู้เรื่องของคุณออร์แลนโด้หรือคะ?” มีอาถามกลับอย่างงงๆ

“เอ่อ...ถ้าจะเอาจริงๆ ต้องเรียกว่ายังไม่รู้ละเอียดมากกว่าค่ะ ถ้าคุณมีอาพอจะกรุณา...” แพรณาราส่งยิ้มหวานให้สาวสวยตรงหน้า

“ได้ค่ะ มีอาจะเล่าให้ฟังเท่าที่มีอาทราบนะคะ” มีอาเอ่ยพลางหันไปชำเลืองมองที่ห้องกระจก ก็เห็นออร์แลนโด้หันมามองทางที่ตนอยู่ ก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมานิดๆ จึงกำชับกับสาวตรงหน้าก่อนจะเริ่มเล่า

“เราเดินดูไวน์ไปคุยไปดีกว่าค่ะ ที่สำคัญ! อย่าบอกท่านนะคะว่ามีอาเล่าให้คุณฟัง”

“มิกิไม่มีทางบอกอย่างแน่นอนค่ะ สัญญา!” แพรณาราให้คำมั่นอย่างหนักแน่น จนมีอายิ้มพร้อมกับผายมือเชิญให้ออกเดิน แล้วเล่าประวัติของเจ้าชายน้ำแข็งให้ฟัง

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ออร์แลนโด้ที่คุยงานเสร็จก็เดินตรงมาหาสองสาวที่ยืนอยู่เงียบๆ

“ได้ไวน์บ้างหรือยังคะคนดี หืม!” ออร์แลนโด้ที่เดินมาข้างหลังเอ่ยถามขึ้นเสียงดังนิดๆ

“อุ๊ย!/ว้าย!” แพรณารากับมีอาถึงกับตกใจพร้อมๆ กัน เพราะกำลังคุยถึงคนที่เอ่ยทักกันอย่างเข้มข้น

“กะ...ก็ยังเลือกไม่ถูกค่ะว่าจะเลือกขวดไหนดี มิกิไม่มีความรู้เรื่องไวน์ คุณมีอาเลยให้ความรู้เรื่อง สี กลิ่น รส แล้วก็สายพันธุ์ขององุ่นอยู่น่ะค่ะ”

แพรณารารีบกลบเกลื่อน ด้านมีอาเองก็ปรับสีหน้าแทบไม่ทันเช่นกัน

“งั้นเดี๋ยวพี่เลือกให้เองค่ะ” ออร์แลนโด้เอ่ยชื่อสายพันธุ์ไวน์ พร้อมปีที่ต้องการกับพนักงานสาวตรงหน้า มีอาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหยิบไวน์ แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ เพื่อบรรจุขวดไวน์ใส่กล่องไว้ให้

“มิกิอยากได้อะไรอีกไหมคะ” ชายหนุ่มถามขณะที่ดึงมือบางขึ้นมาจูบ

“ไม่แล้วค่ะ เรากลับกันเถอะ” แพรณาราเริ่มจะทำตัวไม่ถูก เพราะตอนนี้เธอเชื่อว่าสายตาของพนักงานในร้านคงจ้องมาที่เธอกับเขาอยู่แน่ๆ

และเท่าที่ฟังจากมีอาเมื่อครู่ เขาเหมือนจะไม่ใช่คนเดียวกับที่เธอรู้จักตอนนี้เอาซะเลย เจ้าชายน้ำแข็งผู้เย็นชาและหล่อเหลาเนี่ยนะ! คนป่าเถื่อน! หน้าด้าน! หน้ามึน! ไร้ยางอายซะมากว่า! หญิงสาวแอบค่อนในใจ

เมื่อรู้ความต้องการของสาวเจ้าแล้วออร์แลนโด้ก็ควงสากโชว์ และโยนสลับไปมา ก่อนจะเต้นออกจังหวะนิดๆ ตามเพลงที่เปลี่ยนเป็นจังหวะเร็วขึ้น แพรณาราปรบมือและหัวเราะชอบใจ กับลีลาพ่อค้าส้มตำขั้นเทพของอีกฝ่าย

ออร์แลนโด้หยิบพริกขี้หนู กระเทียม พร้อมเส้นมะละกอนิดหน่อยลงไปโขลกก่อน จากนั้นตามด้วยถั่วฝักยาว มะเขือเทศ น้ำตาลปี๊บนิดๆ น้ำปลา บีบมะนาวตาม ชิมแตะปลายลิ้นนิดหนึ่ง ก่อนใส่เส้นมะละกอลงไป ตามด้วยกุ้งแห้งแกะเปลือกตัวใหญ่พร้อมขยับสากไปสองสามที ก็เอาปูม้าสดๆ ที่อันโตนีโอ้แกะและหั่นเฉียงลงไปคลุก แล้วคนต่อในครกอีกสามสี่ทีก่อนจะตักใส่ชามใบใหญ่

แพรณารามองดูราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้าจะทำได้ เธอได้กลิ่นส้มตำในจานที่วางลงตรงหน้า ก็ถึงกับน้ำลายสอขึ้นมาทันทีทันใด

ออร์แลนโด้หันมาหยิบพริกแห้ง กระเทียม ตามด้วยเส้นมะละกอนิดหน่อยเหมือนครกแรก แล้วโขลกไปสี่ห้าทีก็หยิบถั่วฝักยาว มะเขือเปราะที่อันโตนีโอ้หั่นไว้รอ มะเขือเทศเชอร์รี่ผ่าครึ่ง จากนั้นใส่ปลาร้า บีบมะนาวตาม พร้อมกับแอบตักผงอูมามิใส่แค่ปลายช้อน เพื่อให้ส้มตำมีรสชาตินัวยิ่งขึ้น ก่อนจะใส่เส้นมะละกอลงไปพร้อมกับขยับสากต่ออีกสามสี่ที

อันโตนีโอ้รีบหยิบถาดใบใหญ่ที่มีทั้งหมูยอ แคบหมู ไข่ยางมะตูม เม็ดกระถิน ขนมจีน กุ้งลวกตัวใหญ่ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์มาวางรอให้พ่อค้าส้มตำขั้นเทพตักส้มตำใส่ถาด

แพรณาราปรบมือรัวๆ ให้สองหนุ่มอย่างชอบใจ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในร้านส้มตำที่ไหนสักแห่งในไทย กลิ่นของส้มตำทำให้เธอหิวสุดๆ ว่าแต่...เมื่อกี้เธอไม่เห็นเขาดูยูทูบนี่นา แล้วเขาทำได้ยังไงกัน?’ แพรณาราหันไปมองออร์แลนโด้อย่างเต็มไปด้วยความสงสัย

สองหนุ่มช่วยกันหยิบจาน ทั้งส้มตำไทยใส่ปูม้าสด ส้มตำลาวใส่ถาดพร้อมเครื่องเคียงเยอะแยะมากมาย มาวางลงบนโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ที่หญิงสาวนั่งรออยู่ แล้วอันโตนีโอ้ก็ไปถือถาดที่ใส่เป๊ปซี่กระป๋องและน้ำแข็งมาวาง แพรณารามองอย่างอึ้งๆ

“ถ้าจะทานส้มตำ ต้องดื่มกับเป๊ปซี่ค่ะถึงจะอร่อย” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับนั่งลงข้างๆ

“พี่อลันกับคุณพีเคเป็นคนไทยหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้…”

สองหนุ่มหันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะกับท่าทางที่เต็มไปด้วยความข้องใจของสาวตรงหน้า

“ฮ่าๆ ทำไมคะ” ออร์แลนโด้แกล้งถามอย่างนึกสนุก

“ไม่รู้สิ พวกคุณทำอย่างกับพ่อค้าขายส้มตำมาเอง!” เธอบอกสิ่งที่คิด

“พี่จะตอบทุกคำถาม หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว ตอนนี้ช่วยชิมฝีมือของพี่หน่อยสิคะ แล้วบอกว่าผ่านหรือเปล่า ถ้าผ่าน! ไม่แน่ว่าพี่อาจจะเปิดร้านขายส้มตำที่อังกฤษก็ได้ ฮ่าๆ” เขาเอ่ยเล่นขำๆ

“พร้อมแล้วครับบอส” อันโตนีโอ้นำเนื้อย่างจานใหญ่มาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วจากในครัววางลงบนโต๊ะ แพรณาราอ้าปากค้างอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองสองหนุ่มร่างใหญ่เพื่อขอคำตอบ

“ลงมือเถอะค่ะ” ออร์แลนโด้รีบดึงความอยากรู้ของสาวตรงหน้าพร้อมกับตักส้มตำไทย ปูม้าสดและส้มตำลาวกับเครื่องเคียงในถาดให้อย่างเอาใจ

“ขอบคุณค่ะ” แพรณาราเอ่ย ก่อนจะตักส้มตำขึ้นมาชิม ‘พระเจ้า! นี่มันยิ่งกว่าอร่อยอีกนะเนี่ย แซบมาก!’

“เป็นไงคะ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มๆ

“อร่อยมากค่ะ อร่อยกว่าที่เคยทานที่ไทยซะอีก ไม่น่าเชื่อว่าพี่อลันจะทำได้” แพรณาราเอ่ยชมจากใจ

“เห็นไหมคะ! บอกแล้วว่ามิกิโชคดีที่มีสามีแบบพี่” เขาเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วกวนๆ ให้สาวตรงหน้า ‘นี่เธอไม่รู้ตัวหรือไง ว่าที่ได้เขาเป็นสามีน่ะ มันยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งติดกันสิบครั้งซะอีก หึๆ’

“บ้า! ยังไม่ใช่สักหน่อย” หญิงสาวตอบอย่างอายๆ ตอนนี้เธอไม่อยากสนใจอะไรอีก นอกจากส้มตำตรงหน้า ที่ทำน้ำลายเธอหกตั้งแต่ได้กลิ่นครกแรกแล้วด้วยซ้ำ

ทั้งสามทานส้มตำกับเนื้อย่างกันอย่างเอร็ดอร่อย สองหนุ่มทาน ปลาร้าและรสเผ็ดได้ราวกับว่าเป็นคนไทยแท้ๆ นั่นสร้างความอยากรู้ให้แพรณาราเป็นอย่างมาก แต่ส้มตำและเนื้อย่างตรงหน้าก็ทำให้เธอมองข้ามความอยากรู้ไปชั่วขณะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ