หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จ ออร์แลนโด้ก็ทวงสิ่งที่สาวเจ้าติดค้างไว้เมื่อตอนบ่าย
“เอ๊...ใครน้า...บอกว่าตื่นมาจะเล่าอะไรให้ฟังสักอย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะยังจำได้หรือเปล่า” ออร์แลนโด้แกล้งเอ่ยลอยๆ คนที่เพิ่งจะทานยาเสร็จหันมามองอย่างนึกขึ้นได้ ‘อีตานี่ความจำดีชะมัดเลย นี่เธอลืมไปแล้วนะเนี่ย!’
“ได้ค่ะนายท่าน เดี๋ยวมิกิจะเล่าอย่างละเอียดเลยนะคะ”
“แหม! เรียกพี่ว่านายท่าน เดี๋ยวก็พาเข้าห้องเล่นสีแดงซะหรอก!” ออร์แลนโด้ตอบอย่างรู้สึกมันเขี้ยวขึ้นมานิดๆ ‘ยิ่งอยากๆ อยู่ด้วยให้ตายสิ!’
“บ้า! ห้องเล่น ห้องแดงอะไร ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” แพรณาราเอ่ยอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดถึงอะไร
“อ๊ะๆ แสดงว่าไม่รู้จักแน่ๆ แบบนี้ต้องลองค่ะ ถึงจะรู้!”
“ลองยังไงคะ พี่อลันพูดเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องห้องเล่นสีแดงไงคะ อยากลองไหม?”
“เล่นยังไงคะ”
“นั่น! แสดงว่าสนใจละสิ หึหึ”
“แล้วห้องสีแดงอยู่ตรงไหนคะ ไม่เห็นมีเลย” แพรณาราเอ่ยและหันไปมองรอบห้อง
“ห้องสีแดงไม่มีหรอกค่ะ ถ้าต้องเล่นจริงก็ใช้ห้องนอนของเราไปก่อนก็ได้ค่ะ” ออร์แลนโด้ตอบด้วยสายตาหวานเยิ้มอย่างมีความหมาย
“แล้วทำไมต้องใช้ ห้องนอนของพี่อลัน ด้วยล่ะคะ” แพรณาราย้ำเน้นตรงคำว่า ห้องนอนของพี่อลัน แล้วก็เริ่มไม่ไว้ใจกับใบหน้าและท่าทางของอีกฝ่าย ที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าส่อแววไปทางเรื่องอย่างว่า
“ห้องนอนของเราต่างหากค่ะ และพี่จะไม่บอกจนกว่ามิกิจะรับปากว่าจะเล่น พี่ถึงจะบอก ว่าไงคะคนดี สนใจไหม?” ออร์แลนโด้เน้นคำว่า ห้องนอนของเรา แล้วเอ่ยถามต่ออย่างมีความหวัง
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ มิกิโตแล้วไม่ชอบเล่นอะไรแบบเด็กๆ” เธอไม่ยอมเล่นด้วยเด็ดขาด แค่เห็นสายตาของเขาเธอก็ขนลุกแล้ว แถมทำท่าตื่นเต้นขนาดนั้น เธอไม่ขอเสี่ยงด้วยเด็ดขาด ต่อให้จะอยากรู้แค่ไหนก็ตาม
“ก็นี่ไง! มิกิโตแล้วพี่ถึงชวนเล่น เพราะถ้ายังเด็กอยู่เล่นไม่ได้ค่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงจริงจัง เพราะเหยื่อทำท่าจะหลุดเบ็ด
“ไม่ดีกว่าค่ะ จริงๆ มิกิก็ยังไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่ค่ะ แค่ 22 เอง ยังไม่ได้มีอายุเหมือนพี่อลันซะหน่อย จริงไหมคะ”
“ว่าพี่แก่เหรอฮะ! เดี๋ยวก็จับไปพิสูจน์อายุซะหรอกยัยเด็กดื้อ” ออร์แลนโด้บอกเสียงเข้มอย่างโกรธนิดๆ ‘หึ! ใช่สิเขา 34 มิกิ 22 ห่างกันแค่หนึ่งรอบ เธอจะว่าเขาแก่สินะ นี่ถ้าไม่ติดว่ายังไม่สบายอยู่ละก็ พ่อจะจับพาดบนตักแล้วตีก้นงอนๆ ที่เห็นแล้วรู้สึกคันไม้คันมือสักสี่-ห้าที จากนั้นก็ลากไปต่อบนเตียงแล้วจัดหนักให้ฟ้าเหลืองไปเลยคอยดู’ คนแก่ เอ๊ย! คนถูกหาว่าแก่จ้องมองสาวเจ้าที่ยิ้มเยาะยั่วตนไปมาอย่างข่มใจ
“บ้า! ตกลงพี่อลันอยากจะฟังไหมคะ ถ้าไม่ฟังมิกิก็จะไม่เล่าแล้วนะ”
“ฟังสิคะ มานั่งบนตักพี่นี่ เร็วค่ะ” เขาบอกพร้อมกับตบที่ตักของตัวเองสองสามที ให้สาวเจ้ามานั่งที่นั่งประจำตำแหน่งเมียที่ตนแอบตั้งให้ในใจ
แพรณารากลอกตาก่อนจะเดินไปนั่งอย่างเสียมิได้! เพราะขี้เกียจจะทะเลาะกับอีกฝ่ายเหมือนครั้งก่อนๆ
“มิกิ ชื่อจริงว่า แพรณารา สิริรันทนากรณ์ เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อพิทักษ์กับคุณแม่อามายะ ท่านทั้งสองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อสี่ปีที่แล้ว มิกิเลยต้องย้ายมาอยู่กับป้า พี่สาวของพ่อที่อังกฤษ แต่ก็…”
“แต่อะไรคะ บอกพี่มาได้เลยไม่ต้องกลัว!”
“มิกิหนีออกจากบ้านของป้ามาอยู่เองที่หอพัก ที่พี่อลันไปหาเมื่อวันก่อนค่ะ”
“แล้วไอ้คนที่ให้คนไปจับมิกิไว้ก็คือสามีของป้ามิกิใช่ไหมคะ” ออร์แลนโด้เอ่ยถาม นึกถึงวันนั้นแล้วเขาก็อดโมโหไม่ได้ นี่ถ้าไปรับเธอช้าละก็มีหวังโดนไอ้บ้านั่นลากไปทำอะไรแล้วก็ไม่รู้ ดูจากสายตาท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่คนดีสักเท่าไหร่! คล้ายๆ นักเลงกิ๊กก๊อกข้างถนนซะมากกว่า!
“ค่ะ มีอยู่คืนหนึ่งคาทอร์แอบไขกุญแจเข้ามาตอนที่มิกิหลับ แล้วเขาก็พยายามจะ…จะข่มขืน แต่มิกิคว้าเอาแจกันที่ข้างเตียงฟาดเข้าที่ศีรษะจนคาทอร์สลบไป จากนั้นก็รีบเก็บผ้าและของใช้ที่สำคัญๆ หนีออกจากบ้านมาคืนนั้นเลย มิกิเรียนจบปริญญาตรี ตอนนี้ทำงานเก็บเงินเรียนต่อปริญญาโท วันมะรืนนี้มิกิก็จะได้กลับไปทำงานแล้วค่ะ” แพรณาราเล่าเสร็จก็หันมามองคนที่เงียบไปจนผิดสังเกต
“ตายจริง! พี่อลันร้องไห้ทำไมคะ” แพรณาราตกใจที่หันไปมองแล้วเห็นอีกฝ่ายน้ำตาไหล เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาออกให้เขา
“มิกิมีพี่อยู่ทั้งคน ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ รู้ไหมพี่จะไม่มีวันปล่อยให้ใครทำร้ายมิกิอย่างเด็ดขาด พี่สัญญา! เราสองคนอาจจะเริ่มต้นไม่ค่อยดี พี่อยากให้มิกิช่วยลืมมันไปได้ไหม แล้วมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน”
ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับรวบหญิงสาวเข้ามากอดอย่างหวงแหน ‘เธอดูเหมือนจะบอบบาง แต่จิตใจกลับเข้มแข็ง เธอเจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะแยะ จนเขานึกภาพแล้วยังรู้สึกเจ็บปวดแทนอย่างบอกไม่ถูก’
“ค่ะ” แพรณารารับคำแบบมึนงง ‘ทำไมอีตาบ้านี่ถึงทำให้เรารู้สึกอบอุ่นแล้วก็ปลอดภัยนะ’
“แล้วมิกิ ทำงานอะไรคะ บอกพี่ได้ไหม”
“มิกิเป็นพนักงานต้อนรับที่บริษัท โอ แอล ดี. อาร์ ค่ะ”
“ฮะ! เอ่อ...แล้วมิกิทำงานมานานหรือยังคะ” ชายหนุ่มถามอย่างตกใจ
“เอ่อ ยังไม่ถึงสามเดือนค่ะ ก่อนหน้านั้นก็ทำที่โรงแรม แต่ถูกลูกค้าลวนลาม แล้วดันมือเร็วไปตบหน้าไอ้บ้านั่น เลยโดนไล่ออกค่ะ ก็เลยคิดว่ามาทำงานที่บริษัทดีกว่า คงจะไม่เจอปัญหาแบบนั้นอีก” เธอเล่าให้ฟังคร่าวๆ
“แล้วพรุ่งนี้จะไปหาเพื่อนกี่โมงคะ” ออร์แลนโด้รู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่าหญิงสาวเคยถูกลวนลามตอนที่ทำงานโรงแรม!
“ก็น่าจะช่วงเย็นๆ น่ะค่ะ”
“ไม่ต้องทำงานแล้วค่ะ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ พี่ไม่อยากให้-”
“พี่อลันคะ เรายังไม่ใช่สามีภรรยากันสักหน่อย อีกอย่างถ้าเราอยู่ด้วยกันแล้วไปไม่รอด หรือ...พี่อลันเกิดเจอใครคนใหม่ที่ใช่กว่า แล้วมิกิจะทำยังไงล่ะคะ มิกิอยากทำงานหาเงินใช้เองค่ะ มันภูมิใจออกที่ได้ใช้เงินของตัวเอง” เธอเอ่ยยิ้มๆ แต่ภายในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งคนตรงหน้าไม่ได้รักหรือชอบเธอเหมือนตอนนี้ เธอจะเป็นยังไงต่อไป เพราะตั้งแต่ที่เจอกับเขาก็เป็นเหมือนฝันร้ายและฝันดีไปพร้อมๆ กัน จนตอนนี้เธอก็แทบจะไม่อยากตื่น อยากจะอยู่ในฝันแบบนี้...ต่อไปอีกสักพัก
“มิกิคะ พี่ขอร้องได้ไหมว่าอย่าพูดคำว่าเรายังไม่ใช่สามีภรรยากัน เพราะมันยิ่งทำให้พี่อยากจะตอกและย้ำ ว่าเราใช่ยิ่งกว่าใช่แค่ไหน ส่วนเรื่องงานถ้ามิกิอยากจะทำไปก่อน พี่ก็ไม่ว่า แต่ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ต้องออกมาเป็นแม่บ้านให้พี่ทันที หรือจะมาช่วยงานของพี่ก็ได้ มิกิชอบอะไร อยากทำอะไร บอกมาได้เลยค่ะ ธุรกิจของพี่และครอบครัวมีเยอะแยะจนจำแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ตกลงตามนี้นะคะ” ออร์แลนโด้สรุปการประชุมที่มีตัวเขาเป็นประธานใหญ่ในการตัดสินใจ
‘พูดออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้! ยังไม่ได้แต่งงานสักหน่อย อีตาบ้านี่ขี้ตู่ชะมัดเลย’ แพรณาราได้ฟังแล้วก็มึนๆ ยิ่งเขาแนะนำเธอให้คนอื่นรู้จักในฐานะ ภรรยาของผม มันทำให้เธอรู้สึกผวาอย่างบอกไม่ถูก!
“งั้น...ถ้าต่อหน้าคนรู้จักของพี่อลัน หรือคนอื่นๆ ห้ามพี่อลันแนะนำว่าเป็นภรรยาหรือว่าที่ภรรยานะคะ จนกว่าทุกอย่างจะใช่! ตกลงตามนี้นะคะ” แพรณาราสรุปรวบรัดเลียนแบบคนตรงหน้าบ้าง!
“โอเค ไม่เรียกแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นก็ได้ค่ะ แต่ต้องแนะนำว่าเป็นคู่หมั้นโอเคไหมคะ” ออร์แลนโด้ต่อรอง
“เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ‘อย่างน้อยก็ดีกว่าภรรยาหรือว่าที่ภรรยา’
“มีอะไรที่จะตกลงกันอีกไหมคะ” ออร์แลนโด้ถามยิ้มๆ
“มีอีกเรื่องค่ะ เรื่องแหวนมิกิขอคืนให้พี่อลันได้ไหมคะ เพราะถ้าใส่ไปทำงานต้องถูกเพื่อนที่ทำงานนินทาแน่ๆ พวกเขายิ่งมองมิกิไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย” แพรณาราบอกพลางจ้องมองเพชรเม็ดใหญ่ที่นิ้วนางข้างซ้ายด้วยความรู้สึกหวั่นใจ เพราะเพื่อนที่ทำงานชอบดูถูกเธอ กล่าวหาว่าผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่มาทำงานที่ต่างประเทศหวังจับผู้ชายรวยๆ นี่ถ้าเห็นแหวนที่ใส่ คงไม่พ้นตกเป็นขี้ปากอีกแน่ๆ ยิ่งหยุดงานไปห้าวัน แล้วกลับไปมีแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเม็ดเบ้อเริ่มแบบนี้ โดนจิดกัดชัวร์
หญิงสาวเครียดขึ้นมานิดๆ เมื่อนึกไปถึงเพื่อนร่วมงานสองคนที่จ้องแต่จะหาเรื่องเธอ โชคดีที่ยังมีนานาคอยปกป้อง ไม่อย่างนั้นเธอคงลาออกไปนานแล้ว!
“ไม่! ห้ามถอดนะ เรื่องนี้พี่ไม่ยอมเด็ดขาด! ถ้าถอดเมื่อไหร่ได้เห็นดีแน่!” ออร์แลนโด้หน้าตาดุดันขึ้นมาทันทีทันใด ‘ให้ตายสิ! ที่ใส่ให้ก็เพราะว่าอยากให้คนอื่นรู้ ว่ามีเจ้าของแล้ว!’
“แต่...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นค่ะ ถ้าจะถอดออกก็ไม่ต้องออกไปที่ไหนอีก! อยู่แต่ในห้องเนี่ยแหละ อยากได้อะไร อยากซื้ออะไรก็บอกมา! พี่จะหาให้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่แบบนี้!” เขาบอกเสร็จก็ทำท่าจะลุกขึ้น
“โอเคๆ มิกิยอมแล้ว ไม่ถอดก็ไม่ถอดค่ะ” เธอรีบเข้าไปกอดพร้อมกับซบหน้าลงที่อกกว้าง อย่างต้องการออดอ้อนให้อีกฝ่ายใจเย็น แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า...กะอีแค่เรื่องถอดแหวนออก ทำไมเขาต้องโมโหขนาดนี้!
“จำไว้ให้ดีล่ะ ว่ารับปากอะไรกับพี่ไว้ เพราะพี่เกลียดที่สุดคือคนที่ไม่รักษาสัญญา!” ออร์แลนโด้เอ่ยเสียงเย็น
“ค่ะพี่อลัน” แพรณารารับคำเบาๆ อย่างจำใจ
“บอสครับ อะ...เอ่อ...ขอโทษครับ ผมไม่นึกว่า…คือตอนนี้งานกำลังมีปัญหา ผมไปรอที่ห้องทำงานนะครับ” คนที่เข้ามาผิดจังหวะถึงกับอึกอักไปไม่ถูก พอบอกเสร็จก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“พี่ขอไปคุยงานก่อนแป๊บหนึ่งค่ะ มิกิเปลี่ยนเสื้อผ้ารอนะคะ เดี๋ยวพี่จะพาไปขับรถเล่นค่ะ” ชายหนุ่มบอกก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลเบาๆ
“ค่ะ” แพรณาราพยักหน้ารับ ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำที่หางตา
สิบห้านาทีต่อมา... Fierce Lion (ร้านสิงโตดุ)
แพรณารามองร้านอาหารสไตล์คันทรี ที่มีพวกสิงห์ชอปเปอร์มารวมตัวกันเยอะแยะมากมายอย่างตื่นเต้น ลูกค้าแทบทั้งร้านต่างก็ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าหนังมันเงา สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตหนังรูปเสือ สิงห์โต และนกอินทรี
“ร้านแบบนี้...มิกิพอนั่งได้ไหมคะ” ออร์แลนโด้แกล้งถาม ทั้งๆ ที่รับรู้ถึงอาการสั่นจนเนื้อเต้นของสาวเจ้าได้อย่างชัดเจน ‘โธ่ๆ แม่คุณชอบสไตล์นี้ว่างั้น นั่งรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุด ยังไม่เห็นดีใจเท่ากับได้ซ้อนท้ายชอปเปอร์’
“ได้สิคะพี่อลัน!” เธอหันมาบอกยิ้มๆ
“พี่ว่าเราไปนั่งร้านอื่นดีไหมคะ ร้านนี้มันดูยังไงๆ ก็ไม่รู้สิ!”
“นั่งร้านนี้แหละค่ะ นะคะพี่อลัน” แพรณารารีบออดอ้อน พร้อมกับเขย่งปลายเท้าหอมแก้มของอีกฝ่ายอย่างเอาใจ
ออร์แลนโด้ถึงกับตาค้างที่ถูกหอมแก้ม ‘พระเจ้า! นี่เมียเขาอาการหนักนะเนี่ย’
“ถ้าเข้าไปนั่งข้างใน พี่ต้องแนะนำมิกิว่าเป็นภรรยานะ”
“อะ...อะไรนะคะ” แพรณาราถามอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง
“มิกิก็รู้ว่าร้านนี้ออกจะเถื่อนนิดๆ มันดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่” ชายหนุ่มให้เหตุผลด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“เอ่อ...แต่ว่า...มัน....” เธออึกอักขึ้นมาทันใด
“ถ้างั้นก็ไม่นั่งร้านนี้แล้วค่ะ ไปร้านอื่นดีกว่า พี่ไม่สบายใจ!”
'ร้านนี้ออกจะเถื่อนนิดๆ มันดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่' หึ! นี่มึงใช่หุ้นส่วนของร้านหรือเปล่าวะ ไหงปากเสียแบบนี้!’ เชคาริกที่เดินมารับหุ้นส่วนของร้าน ทันได้ยินประโยคที่ออร์แลนโด้เอ่ยเมื่อครู่เข้าพอดี
“ก็ได้ๆ แต่แค่วันนี้นะคะ” เธออดต่อรองไม่ได้ กลัวอีกฝ่ายทำเนียนต่อเนื่อง
“ครับผม! รับทราบ งั้นก็เข้าไปข้างในกันเลยค่ะ” ออร์แลนโด้ยิ้มกว้างให้กับสาวตรงหน้า ที่ยอมให้แนะนำว่าเป็นภรรยาได้ ทั้งที่ก่อนนี้เถียงกันจะเป็นจะตาย
“อ้าว! อลัน ไปไงมาไงล่ะนี่” เชคาริกที่ยืนฟังการสนทนาอยู่ข้างหลังมาได้ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยทักรุ่นน้องคนสนิท
“สวัสดีครับพี่เชค เอ่อ...พอดีผมพาภรรยามาขี่รถเล่นน่ะครับ มิกิจ๊ะ! นี่พี่เชค เชคาริก เบนเนตโต้ซี เจ้าของร้านสิงโตดุค่ะ” ออร์แลนโด้หันมาแนะนำ หลังจากที่ได้ไฟเขียวจากสาวเจ้ามาได้หมาดๆ
เชคาริกยืนนิ่งกับคำว่า ภรรยา ไปสามวิ ‘พระเจ้า! เกิดอะไรขึ้นวะ’
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเชคาริก” แพรณาราเอ่ยทักทายและมองดูเจ้าของร้าน ที่มีรอยสักอยู่เต็มตัวอย่างรู้สึกทึ่ง
“สวัสดีครับมิกิ เรียกพี่ว่าเชคเฉยๆ ดีกว่าครับ Fierce Lion ยินดีต้อนรับนางฟ้าครับ” เชคาริกทักทายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันมามองออร์แลนโด้เพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่า มีเรื่องต้องคุยกัน!
“วันนี้ลูกค้าเยอะนะครับพี่เชค ข้างในมีที่ว่างหรือเปล่า” ชายหนุ่มแสร้งถามไปเรื่องอื่น
“มีว่างเสมอสำหรับหุ้นส่วนของร้าน” เชคาริกเอ่ยพลางยักคิ้วอย่างกวนๆ ให้กับหนุ่มรุ่นน้อง
‘นั่นไง! ว่าแล้วเชียว สงสัยคงจะได้ยินที่เขาคุยกับมิกิก่อนหน้าแน่ๆ’ ออร์แลนโด้กลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปมองสาวเจ้าที่ยืนข้างๆ ก็ต้องตกใจกับสายตาขวางๆ ที่มองมายังตน
“ผมว่าเราข้างในกันเถอะครับ ข้างนอกนี่มันรู้สึกหนาวยังไงก็ไม่รู้” คนที่กำลังไปไม่ถูกเอ่ยชวน
“หึๆ เชิญครับมิกิ” เชคาริกหัวเราะอย่างขำๆ กับอาการของรุ่นน้องคนสนิท ก่อนจะหันไปชวนสาวสวยไซส์มินิที่อีกฝ่ายแนะนำว่าเป็นภรรยาเข้าไปข้างในร้าน
ออร์แลนโด้เดินตามหลังของเชคาริกกับแพรณาราด้วยสีหน้าเซ็งๆ ก่อนจะตกใจหน้าเหวอเมื่อเห็น คารอส เพชรดนัย ร็อฟเวลล์ หรือ เพชร เพื่อนรักของตนนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำ ‘ให้ตายสิ! นี่มันวันอะไรวะ’ คนดวงดีสบถในใจอย่างหงุดหงิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ