อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 64

ทันทีที่เห็นเจ้าสาวอยู่ในชุดไทยแสนสวย นั่งก้มหน้าอยู่ตรงเก้าอี้หน้ากระจก เขาก็รีบเดินเข้าไปหาและเอ่ยเรียกเบาๆ

“มิกิ!”

“พี่อลัน” แพรณาราไม่อยากเชื่อว่าเจ้าบ่าวของเธอที่ใส่สูทสากลกับโจงกระเบนจะดูหล่อเหลาทรงเสน่ห์ จนทำให้เธอใจสั่นเหมือนครั้งแรก ที่เจอกัน

“เจ้าสาวของพี่สวยอย่างกับนางในวรรณคดีแน่ะ”ออร์แลนโด้หายใจเข้าปอดลึกๆ อย่างตื่นเต้น

“พี่อลันก็ดูหล่อเหมือนเทพบุตรเลยค่ะ” แพรณาราเอ่ยชมอีกฝ่ายตรงๆ ทำเอาเทพบุตรหื่นยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันทีทันใด

“พี่หล่อจริงเหรอคะ!” ออร์แลนโด้ถามย้ำอย่างดีใจ เพราะตลอดเวลาเขาไม่เคยได้ยินสาวเจ้าพูดหรือบอกอะไรเขาแบบนี้มาก่อน

“จริงค่ะ” แพรณาราตอบอย่างอายๆ

“พี่ว่างั้นเราร่วมหอกันเลยดีไหมคะ?” ออร์แลนโด้เอ่ยชวน เพราะตอนนี้ร่างกายของเขามันเรียกร้องบางอย่าง ตั้งแต่ตอนที่เห็นแผ่นหลังบาง เมื่อครู่แล้ว

“บ้า! ผู้ใหญ่รอทำพิธีอยู่ข้างล่างนะคะ” แพรณาราอดยิ้มกับคำพูดห่ามๆ ของเจ้าบ่าวไม่ได้

“ก็พี่ไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าสาวของพี่เลย สวยขนาดนี้พี่อยากจะเก็บเอาไว้ดูเองมากกว่าค่ะ”

“ราตรีนี้ยังอีกยาวนานค่ะ” เธอเอ่ยยิ้มๆ

“งั้นพี่ขอหอมแก้มเรียกกำลังใจหน่อยได้ไหม” เจ้าบ่าวหน้ามึนเอ่ยเรียกร้องกำลังใจ

“ยินดีค่ะ” แพรณารารับคำ ก่อนจะจดริมฝีปากบางลงที่แก้มของเจ้าบ่าวอย่างไม่รอช้า

ออร์แลนโด้ยิ้มกริ่มอย่างสุขใจ ก่อนจะดึงเจ้าสาวเข้ามาหอมแก้มคืนอย่างโหยหา เพราะไม่ได้เห็นหน้าเธอมาถึงห้าวันติดๆ ทำเอาเขาแทบขาดใจไปเลยทีเดียว

ห้านาทีต่อมา... เจ้าบ่าวก็พาเจ้าสาวออกมาจากห้อง ท่ามกลางสายตาของหนุ่มๆ ร่วมขบวนที่หันมองกันตาค้างกับความสวยที่น่าหลงใหลและเย้ายวนของเจ้าสาว ในขณะที่เจ้าบ่าวเริ่มทำตาขวางๆ

“อะแฮ่ม! เชิญทุกท่านไปร่วมพิธีต่อที่ข้างล่างด้วยกันเถอะครับ” ออร์แลนโด้กระแอมเสียงดัง ดับฝันของผู้ร่วมขบวนทั้งหลาย ก่อนจะพาเจ้าสาวเดินผ่านทุกคนลงไปยังชั้นล่างเพื่อทำพิธีต่อ

‘เจ้าสาวสวยมาก!’

‘ใช่! อิจฉาเจ้าบ่าวว่ะ!’

‘ถึงว่ารีบแต่ง เป็นฉันก็รีบเหมือนกันว่ะ สวยแบบนี้’

‘เพื่อนเจ้าสาวก็สวยทุกคน โดยเฉพาะคู่สุดท้าย สวยเป็นบ้าเลย’

‘ใช่ๆ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปทำความรู้จัก’

‘ฉันจะเข้าไปก่อน’

‘ได้ไง! ต้องฉันก่อนสิ’

คารอสที่เดินตามได้ยินการสนทนาเมื่อครู่เข้า จึงหยุดแล้วหันไปเอ่ยกับคนที่จะเข้าไปทำความรู้จักฟ้ารดากับแพรลานนา เพื่อนเจ้าสาวด่านสุดท้ายที่ถูกหนุ่มๆ แย่งกันเข้าไปขายขนมจีบ

“เพื่อนเจ้าสาวด่านแรกเป็นแฟนของมือขวาของพวกผมครับ! ส่วนด่านที่สองน้องพิมนี่ต้องถามสามีของเธอด้วยนะครับเวลาจะเข้าไปคุยคุณแพททริกสันน่ะครับ รู้จักใช่ไหม! ส่วนอีกคนก็ลูเซียน่าคนนี้ลองจีบดูได้นะ แต่เวลาคบแนะนำให้ใส่เสื้อกันกระสุนด้วย” คารอสเอ่ยด้วยท่าทีติดตลก

หนุ่มในแวดวงไฮโซต่างก็ทำหน้าเหวอ เมื่อคารอสเอ่ยถึงลูเซียน่าที่มีข่าวยิงแพททริกสันกลางงานเลี้ยงต้อนรับสะใภ้โรคาซานเดอร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ หนุ่มๆ ต่างพากันส่ายหัวอย่างเร็ว

คารอสแอบยิ้มตรงมุมปาก ก่อนจะเอ่ยถึงเพื่อนเจ้าสาวคู่สุดท้าย “ส่วนเพื่อนเจ้าสาวคู่สุดท้าย คนที่ตัวเล็กๆ หน้าตาอ่อนหวานชื่อแพรลานนา เป็นว่าที่พี่สะใภ้ของผมครับ ใครสนใจจะเข้าไปคุย กรุณาหาช่วงจังหวะที่พี่ชายผมไม่อยู่ดีๆ นะครับ เพราะถ้าเขามาเจอผู้ชายคุยกับว่าที่เจ้าสาวของเขา คุณอาจจะต้องไปนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่กลางถนนที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ก็ได้ ฮ่าๆๆๆ” คารอสเอ่ยเสร็จก็หัวเราะออกมา เหมือนกับคุยเรื่องตลกแต่ทำให้หนุ่มๆ ที่ยืนฟังอยู่ถึงกับขนลุก เมื่อนึกไปถึงใบหน้าดุดันของแดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ ที่เดินไปเมื่อครู่

“พวกผมไม่กล้าหรอกครับ!” หนุ่มๆ รีบตอบเป็นเสียงเดียวกัน เพราะใครๆ ก็รู้ว่าแดเนียลนั้นร้ายกาจขนาดไหน

“ใช่ครับๆ” หนุ่มอีกคนรีบสมทบอย่างรู้สึกใจสั่นขึ้นมานิดๆ

“แล้วอีกคนที่เหมือนนางแบบนั่นล่ะครับ เธอมีแฟนหรือยัง” หนุ่มอีกคนยังเอ่ยต่ออย่างข้องใจ กับสาวอีกคนที่เหลือ

“คนนี้! พวกคุณต้องระวังให้ดีนะครับ เพราะเธอมีคนรักแล้ว แถมผู้ชายคนนั้นก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอ! ไอ้คนล่าสุดที่เข้าไปคุยด้วย ตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียูอยู่เลยครับ!” คารอสเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“แล้วใครหรือครับ! คนรักของเธอ” หนุ่มใจกล้าเอ่ยถามอย่างอยากรู้

“ผมนี่แหละครับ! คนรักของเธอ มีใครอยากจะรู้อะไรอีกไหมครับ” คารอสตอบด้วยใบหน้าเคร่งขรึมทันที

“อะ...เอ่อ...มะ...ไม่แล้วครับ” ห้าหนุ่มรีบตอบ หลังรู้ว่าคนรักของสาวสวยสละเวลามาคุยด้วย

“งั้นผมว่าเราตามลงไปร่วมพิธีข้างล่างกันเถอะครับ!” คารอสโปรยยิ้มอบอุ่น แต่ทว่า...ดวงตากลับแข็งกร้าว จนหนุ่มๆ รู้สึกตัวลีบขึ้นมาทันใด

“ครับๆ” หนุ่มๆ ตอบด้วยใบหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเดินตามคารอสลงไปร่วมพิธีข้างล่าง ด้วยสีหน้าดั่งเจ้าของไร่แห้วที่ปลูกเอง และเก็บเอาไว้กินเองยังไงยังงั้น

เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินลงมาถึงชั้นล่าง และเข้าไปนั่งตามฝั่งผู้ใหญ่ของฝ่ายตนเอง ท่ามกลางสายตาจ้องมองของแขกทั้งงาน ที่ต่างก็ชื่นชมในความเหมาะสมของทั้งคู่

แพรณารานั่งอยู่ฝั่งของแขไขและคาทอร์ ออร์แลนโด้นั่งอยู่ฝั่งของ เลโอนาดท์กับมะลิฉัตร โดยทางฝั่งของเจ้าบ่าวทยอยยกสินสอดส่งต่อกันมาวางตรงหน้าที่กินพื้นที่เป็นวงกว้าง มีทั้งเงินสดใส่พานมาเรียงตั้งไว้เก้าร้อยเก้าสิบเก้าล้านบาทหรือราวๆ ยี่สิบสามล้านปอนด์ มีชุดเครื่องเพชรสิบกว่าชุดทองคำแท่งและสมุดบัญชีเงินฝากที่ใส่ชื่อของแพรณาราทั้งหมดสิบเล่ม เล่มละสองพันล้านบาทหรือราวๆ สี่สิบหกล้านปอนด์ ทำให้ฮือฮากันทั้งงาน กับความอลังการของงานแต่งของคู่รักตระกูลดัง ที่ร่ำรวยติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก นักข่าวต่างพากันกระหน่ำกดภาพของบ่าวสาว พร้อมทั้งญาติผู้ใหญ่และสินสอดกันแบบรัวๆ

แขไขกับกับคาทอร์ตาโตกับความอลังการของสินสอด ที่ทางโรคาซานเดอร์ ใส่พานมาวางเรียงตรงหน้า แต่พอรู้ว่าชื่อในสมุดบัญชีเป็นชื่อของแพรณาราหมดทุกเล่ม เล่นเอาแขไขแทบจะเป็นลมให้ได้

‘หึ! อย่างน้อยก็ต้องมีค่าน้ำใจให้เธอบ้างละ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวและดูแลมานาน ถ้าลองไม่มีมาถึงเธอละก็ เธอจะไปขอกับนังมิกิมันตรงๆ ถ้าลองไม่ให้เธอก็จะขู่ประจานที่มันเนรคุณให้ดู!’ แขไขมาดหมายเอาไว้ในใจ

“เชี่ย! งานนี้พวกเราลำบากแน่ๆ” โดโนเวลบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด จนสามหนุ่มหันมามองกันอย่างงงๆ

“ลำบากยังไงวะ!” ไทเลอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ถ้าพีเคมันแต่งงานกับนานาขึ้นมา ซึ่งกูคิดว่ามันจะต้องแต่งกันเร็วๆ นี้แน่ๆ กู ไอ้เจมส์ แล้วก็มึงไอ้มาร์ค ซวย!” โดโนเวลบอกซะตากรรมกับผู้ร่วมสาบาน

“ซวยอะไร?” จิมมี่เจมส์ถามต่ออย่างสงสัย

“เชี่ยแล้วไง” มาร์คนึกไปถึงสัญญาที่พวกตนได้กล่าวกันตอนงานแต่งของจิมมี่เจมส์ ว่าถ้าใครแต่งงานเป็นคนสุดท้ายในแก๊งมือขวาจะต้องเสียเงินพนัน แล้วก็คลานสี่ขารอบโต๊ะและส่งเสียงร้องเอ๋งๆ ให้เหมือนกับสุนัข

“กูไม่ยอมเป็นหมาแน่ๆ” ไทเลอร์ที่เพิ่งจะรำลึกชาติได้เป็นคนสุดท้าย สบถออกเสียงดัง

สามหนุ่ม โดโนเวล มาร์ค ไทเลอร์ รีบพากันหันไปมองคนที่กำลังจะเอาตัวรอดจากการเป็นหมา...คนแรก ซึ่งเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ ด้วยสายตาร้อนผ่าว ตามด้วยอาการเสียวสันหลังกับคำสัญญาที่ได้ร่วมกันตั้งขึ้น ตอนที่เมากรึ่มๆ วันนั้น

“พวกมึงพูดเรื่องอะไรกัน” จิมมี่เจมส์ถามอย่างทนเผือกไม่ไหว

“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังเพื่อน! ว่าแต่แฟนมึงมีเพื่อนสาวสวยๆ พอจะแนะนำให้กูรู้จักสักคนไหมวะ” มาร์ครีบถาม

“แนะนำให้กูดีกว่าว่ะ เดี๋ยวกูเล่าให้มึงฟังเอง รับรองว่าฟังรู้เรื่องกว่า ไอ้มาร์คเล่าแน่ๆ” โดโนเวลเสนอตัว

“ตามสบายนะพวกมึง กูมีคนที่เล็งเอาไว้แล้ว! ฮ่าๆๆ” ไทเลอร์เอ่ยก่อนจะลุกเดินออกไปด้วยท่าทางมั่นใจ ว่าตนมีคนที่หมายตาเอาไว้แล้ว ทำเอาสองหนุ่มโดโนเวลกับมาร์คหันไปมองตามหลังถึงกับเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีทันใด

“มึงแค่เล็งเขาไว้! แล้วเขาล่ะเล็งมึงไหมไอ้เจมส์” โดโนเวลตะโกนตามหลังอย่างหงุดหงิด

“ใช่ๆ สาธุขอให้เขาไม่เอามึงทีเถอะ ไอ้เชี่ย!” มาร์ครีบแช่งเพราะตนยังไม่มีใครให้หมายตา

“เอาละ! มีใครจะเล่าให้ฟังไหม? กูจะไปหาเมียแล้วนะ” จิมมี่เจมส์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญสองหนุ่ม ที่มัวแต่ตัดพ้อต่อว่าไทเลอร์

“ครับๆ เล่าแล้วครับ” สองหนุ่มรีบหันมาตอบ ก่อนจะพากันแย่งเล่าเรื่องสัญญาที่มีคืนนั้นอย่างเคร่งเครียด

สิบนาทีต่อมา...

“ฮ่าๆๆๆ” จิมมี่เจมส์ถึงกับหัวเราะไม่หยุดหลังจากที่ได้ฟังจนจบ

“กระผมจะขอรอดูหมาด้วยคนนะครับท่านทั้งสอง ฮ่าๆๆ มึงสองคน ไม่คนใดก็คนหนึ่งได้เป็นหมาแน่ๆ กูขอไปหาเมียกูก่อนนะครับ” จิมมี่เจมส์เอ่ยเสร็จก็ลุกเดินหนีไป ทิ้งให้หมาสองตัวนั่งมองหน้ากันอย่างงงๆ

“มึงนั่นแหละเป็นหมา” มาร์คเอ่ยขึ้นอย่างสติแตกนิดๆ

“มึงน่ะแหละไอ้เชี่ย” โดโนเวลด่ากลับทันควัน ที่อยู่ๆ มาร์คก็โยนหมามาให้ จากนั้นหมาทั้งสองตัวก็แยกย้ายไปพักกันคนละที่ พร้อมกับคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ตนหลุดพ้นจากคำสัญญา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ