"เจ้าไม่กล้าหรือ? แม่ทัพอวี่เหวินก็ไม่กล้าหรือ?" ภายใต้คำพูดของเฟิ่งชิงเฉินแฝงไปด้วยรัศมีอำมหิต
นางโกรธมากจริงๆ
เรื่องการตายของซุนยี่จิ่นและเรื่องในจวนอ๋อง
ฮองเฮาและองค์หญิงอันผิงต้องการจะสังหารให้สิ้นซาก
รูปปั้นดินเผายังมีอารมณ์สามส่วน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่เย่อหยิ่งเช่นเฟิ่งชิงเฉิน
อวี่เหวินหยวนฮั่วยิ้มอย่างขมขื่น "ในเวลาแบบนี้ข้าขอไม่กล้าได้หรือไม่?"
เขาถูกหลานจิ่วชิงผลักไปอยู่ต่อหน้าลั่วอ๋อง ไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้าย
น่าเสียดายที่เขาไม่มีทางเลือกเพราะนี่เป็นคำสั่งของจักรพรรดิ เขาไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เขาจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิเท่านั้น
"หยุดเดี๋ยวนี้ ใครกล้าเคลื่อนไหวอีกฆ่าให้หมด"
มิเสียแรงที่อวี่เหวินหยวนฮั่วเป็นแม่ทัพเจนสนามรบ เขาชักม้าไปด้านหน้าและตวาดเสียงดัง ความวุ่นวายด้านหน้าจวนหวังก็สงบลงทันที
"แม่ทัพอวี่เหวิน" ตระกูลหวังมีสีหน้ายินดี
ผู้ช่วยเหลือมาแล้ว
คนก่อเรื่องกลับมีใบหน้าซีดเซียว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถอยกลับและตวาดก้องเช่นกัน "ตระกูลใหญ่ไม่สนใจชีวิตผู้คน ใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ประชาชนแต่กลับมีแต่คนมาปกป้อง ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน คุณธรรมอยู่ที่ไหนกัน"
คำพูดเหล่านี้หากกล่าวต่อขุนนางธรรมดาก็อาจจะได้ผลอยู่บ้าง แต่เมื่อพูดกับอวี่เหวินหยวนฮั่วแล้วกลับเหมือนสีซอให้ควายฟัง
"เฮอะ…" อวี่เหวินหยวนฮั่วแค่นเสียงเย็นพร้อมดึงดาบคู่กายออกมาจากฝักชี้ไปยังบุรุษที่ตะโกนโวยวายอยู่ท่ามกลางฝูงชนและกล่าวว่า "จับคนผู้นั้นไว้ หากกล้าขัดขืนก็ฆ่าได้เลย"
เดิมอวี่เหวินหยวนฮั่วก็เป็นขุนพลทหาร ทั้งร่างเต็มไปด้วยรัศมีแห่งการสังหาร เมื่อตวาดออกมาเช่นนี้ ความน่าเกรงขามของนักรบก็เปล่งประกายยิ่งทำให้ดูน่าหวาดเกรง
ผู้มาหาเรื่องดั้งเดิมยังคงมีความคิด แต่เมื่อถูกอวี่เหวินหยวนฮั่วตวาดเช่นนี้ก็กลัวเสียจนไม่กล้าขยับตัว
ทหารจับกุมชายที่ก่อเรื่องอยู่ในฝูงชนออกมาได้อย่างง่ายดายพร้อมทั้งพาตัวเขามาให้อวี่เหวินหยวนฮั่ว
"ใต้เท้า ข้าน้อยถูกปรักปรำ ตระกูลหวังและเฟิ่งชิงเฉินร่วมมือกันหลอกลวง หาเงินและทำลายชีวิตผู้คน ใต้เท้าต้องตัดสินให้ข้าน้อยด้วย" คนผู้นั้นเป็นผู้มีปัญญาเช่นกัน เขาก้าวมาข้างหน้า คุกเข่าลง และตะโกนร้องคร่ำครวญเสียงดัง
แต่อวี่เหวินหยวนฮั่วเป็นคนเช่นไร?
เขาเป็นคนเลือดเย็นที่ไร้หัวใจ
"งั้นหรือ? เช่นนั้นก็ดี ข้าจะให้ที่ดีๆ แก่เจ้าเพื่อสารภาพผิด ส่งคนผู้นี้ไปหาหน่วยองครักษ์เสื้อโลหิต" อวี่เหวินหยวนฮั่วสั่งโดยไม่พูดอะไรอื่นเลย
"ใต้เท้า ท่านฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า ท่าน…" ทหารก้าวมาปิดปากชายคนนั้นแล้วลากเขาออกไป
ให้ตายเถอะ องครักษ์เสื้อโลหิต
ผู้มาหาเรื่องแอบมีท่าทางลุกลี้ลุกลน สายตาของเขาล่อกแล่กไปมา
พวกเขาล้วนเป็นนักเลงตามท้องถนน จะพวกเขาไม่รู้ฤทธิ์เดชขององครักษ์เสื้อโลหิตได้อย่างไร แต่ว่า...
"เจ้าขุนนางกังฉิน เจ้าต้องได้รับผลประโยชน์จากตระกูลหวังแน่จึงได้ขายชีวิตให้ตระกูลหวัง แม้ใต้เท้าจะสังหารพวกเราไปในวันนี้แต่ก็จะไม่มีทางหยุดคำพูดของผู้คนได้หรอก" ในฝูงชนยังมีคนก่อปัญหาอีก จากนั้นก็มีหลายคนเห็นด้วยตามมาอย่างกล้าหาญ
อวี่เหวินหยวนฮั่วไม่ใช่คนใจดีอะไร เขาจึงสั่งโดยตรง "คนผู้นั้น ลากออกไปส่งให้องครักษ์เสื้อโลหิต"
ปลายดาบของเขาชี้ไปยังคนที่ก่อกวน แต่สายตาของเขากวาดสายตาไปทางคนที่เห็นด้วย ทำให้คนเหล่านั้นตกใจกลัวจนเงียบไปทันที
"ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ลำเอียง ขุนนางกังฉินมีอำนาจ ความยุติธรรมอยู่หนใดกัน" ผู้ที่ถูกทหารลากออกมา บุรุษผู้นี้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เขามีท่าทางราวกับได้รับความอยุติธรรมเป็นอย่างมาก
"ความยุติธรรม? ไปที่องครักษ์เสื้อโลหิตแล้วย่อมจะมีผู้ให้ความยุติธรรมแก่เจ้าเอง กล้าทำท่าทางยโสโอหังต่อหน้าข้างั้นหรือ? ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว คิดว่ามีคนหนุนหลังแล้วจะไม่เป็นไรงั้นหรือ? เฮอะ... หากใครยังก่อเรื่องวุ่นวายอีกจับตัวส่งไปที่ชายแดนให้หมด"
อวี่เหวินหยวนฮั่วผู้นี้เกลียดความอ้อมค้อมของเหล่าขุนนาง เขาเพียงชอบใช้ความรุนแรงมาควบคุมความรุนแรงเท่านั้น
ต้องบอกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ การใช้ความรุนแรงเพื่อสยบสถานการณ์นั้นมีได้ผลมากกว่าการใช้คุณธรรมยิ่ง
เพราะคนกลุ่มนี้พูดด้วยไม่ได้เลย
เห็นแก่หน้าของอวี่เหวินหยวนฮั่ว หวังซู่จึงรับคำทักทายอย่างไม่เต็มใจนักและพูดอย่างเย็นชาว่า "แม่นางเฟิ่ง ตระกูลหวังของข้าไม่ต้อนรับเจ้า"
"ใต้เท้าหวัง ชิงเฉินมาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อรักษาดวงตาของคุณชายใหญ่" เฟิ่งชิงเฉินข้ามไปเข้าประเด็นทันที
ตระกูลหวังไม่ต้อนรับนางเป็นสิ่งที่นางคาดไว้แต่แรกแล้ว
"ไม่ต้องหรอก พวกเราเชิญแม่นางเฟิ่งไม่ไหวหรอก" หวังซู่ปฏิเสธทันที
"ใต้เท้าหวัง นี่เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับดวงตาของคุณชายใหญ่จะกลับมามองเห็นได้หรือไม่ ใต้เท้าหวังโปรดพิจารณาให้รอบคอบด้วย" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างอัดอั้น
ตั้งแต่โบราณมาเคยเห็นแต่คนไข้มาหาหมอ มีอย่างที่ไหนที่หมอจะมาขอร้องคนไข้ให้มารักษา
ที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการให้เกิดขึ้นเลยเช่นกัน
"พิจารณาให้รอบคอบ? ก่อนหน้านี้ข้าประมาทเกินไปจึงได้ยอมรับข้อเสนอของจิ่นหลิง แม่นางเฟิ่ง ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะทำอะไร โปรดละเว้นตระกูลหวังของข้าไปด้วยเถอะ ตระกูลหวังของข้าปะทะไม่ได้ จะหลบเลี่ยงไม่ได้เชียวหรือ?" หวังซู่ก็โมโหเช่นกัน
เรื่องของเฟิ่งชิงเฉินนั้น เขาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ อีกทั้งยังต้องทนกับความยุ่งเหยิงเสียอีก
"ใต้เท้าหวัง หากตระกูลหวังต้องการกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา การรักษาดวงตาของคุณชายใหญ่ ขอเพียงแค่ดวงตาของเขาหายดีก็จะสามารถลบล้างข่าวลือได้อย่างง่ายดาย ปัญหาที่ตระกูลหวังก็จะไม่มีอยู่อีก การที่ใต้เท้าปฏิเสธซ้ำๆ จะทำให้ชื่อเสียงของตระกูลหวังมีแต่จะย่ำแย่ลง" เฟิ่งชิงเฉินชี้ประเด็นของปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
"เจ้าข่มขู่ข้าหรือ?" แต่เมื่อเข้าหูของหวังซู่กลับไม่ได้หมายความอย่างเดียวกัน
"มิกล้า" สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเรียบเฉยโดยไม่เกรงกลัวใบหน้าที่เย็นชาของหวังซู่เลยแม้แต่น้อย ดวงตาของหวังจิ่นหลิง นางจะรักษาให้ได้
"ใต้เท้าหวัง เรื่องนี้มาถึงขึ้นนี้แล้ว ท่านและข้าล้วนไม่มีทางเลือก ให้ข้าพบคุณชายใหญ่เถอะ"
"เฟิ่งชิงเฉิน ฝันไปเถอะ ข้าไม่เห็นด้วย" แน่นอนว่าหวังซู่ย่อมเข้าใจว่าคำพูดของเฟิ่งชิงเฉินนั้นมีเหตุผล แต่ทว่า...
หนังสือเล่มนี้เริ่มวันนี้ อัพเดทห้าบททุกวัน หวังว่าทุกท่านสนับสนุน!
หนังสือเล่มนี้เริ่มวันนี้ อัพเดทห้าบททุกวัน หวังว่าทุกท่านสนับสนุน!
หนังสือเล่มนี้เริ่มวันนี้ อัพเดทห้าบททุกวัน หวังว่าทุกท่านสนับสนุน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...