นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1315

จับคนร้ายได้แล้ว แต่ทว่ากลับไม่ได้รับข้อมูลที่ใช้ได้ใดๆ จากปากอีกฝ่ายเลย ยิ่งไม่รู้เรื่องของคนที่สั่งการอยู่เบื้องหลังด้วย

“ท่านได้ทรมานเขาหรือไม่” เฟิ่งชิงเฉินกินขนมในจสนจนหมด แล้วจิบชาไปอึกหนึ่งถึงจะเอ่ยปากขึ้น

พวกเขามีผู้ต้องสงสัยมากมาย และมีบุคคลที่เป็นไปได้มากมายด้วย แต่ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีหลักฐานนั้น จะไม่มีใครเชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของพวกเขา

ซานชุ่นติงเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ห้ามเกิดเรื่องกับเขาเด็ดขาด

เสด็จอาเก้าส่ายศีรษะ “เพลานี้ เปิ่นหวังไม่ทรมานเขาหรอก” หากจะทรมาน ก็ต้องทรมานต่อหน้าครอบครัวตระกูลจั่น

“ไม่ได้ทรมานก็ดีแล้ว ประเดี๋ยวทางตระกูลจั่นกับจิ่นหลิงมาถึงจะหาว่าเราทุบตีเขารุนแรงแล้วหาคนใดคนหนึ่งมาเป็นแพะรับบาปอีก” เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าคิดไปในทางเดียวกัน

“ทรมานเขาไปก็ไร้ประโยชน์ เขาเป็นเพียงมือสังหารรับจ้างเท่านั้น ถึงจะทุบตีเขาจนตาย เขาก็อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ว่าจ้างนั้นคือใคร” พอซานชุ่นติงรู้ว่าคนที่เขาไปทำร้ายคือโต้วโต้ว เขาก็เสียสติไปครึ่งหนึ่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีทรมาน เขาก็จะสารภาพออกมาเอง

โต้วโต้วเป็นสมบัติของเหล่าสัตว์ประหลาดอาวุโสพันธมิตรนักฆ่า ซานชุ่นติงทำร้ายโต้วโต้ว ถึงเสด็จอาเก้าจะยอมปล่อยเขาไป ทว่าพันธมิตรนักฆ่าไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่

การสารภาพจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้ารู้สึกว่าท่านสามารถลงมือกับองค์หญิงหมิงเว่ยก่อนได้ ไม่ใช่เพราะข้าไม่ถูกกับนางนะ แต่เพราะหลายวันมานี้ นางไม่ปกติจริงๆ” เฟิ่งชิงเฉินเล่าความสงสัยของตน และพฤติกรรมแปลกๆ ขององค์หญิงหมิงเว่ยเมื่อคืนออกมา

เสด็จอาเก้าพยักหน้า “เปิ่นหวังเองก็เคยสงสัยว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับนาง แต่ไม่รู้ว่านางแสดงเป็นตัวละครใดในเรื่องนี้กันแน่”

การตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนถึงจะมีคนอื่นเข้ามายุ่งด้วย แต่หนานหลิงจิ่นฝานไม่มีทางหลุดพ้นไปแน่ เขาสั่งให้คนคอยสอดส่องดูองค์หญิงหมิงเว่ยมาตลอด เพียงแต่เขาซ่อนตัวดีเหลือเกิน ไม่มีท่าทีน่าสงสัยเลยสักนิด ถึงจะสงสัยเขา แต่ก็ไม่มีหลักฐาน

“มีคำพูดของโจ่วอันประโยคหนึ่งพูดถูกมาก เขาบอกว่า ผู้อาวุโสเหวินหยวนวอนหาที่ตายจริงๆ ซานชุ่นติงบอกว่าขณะที่ผู้อาวุโสเหวินหยวนลงจากรถม้า เขาตั้งใจเผยจุดสำคัญออกมา ไม่อย่างนั้นซานชุ่นติงคงไม่สามารถเอาชีวิตผู้อาวุโสเหวินหยวนไปได้ในดาบเดียวหรอก” เสด็จอาเก้านึกถึงคำพูดเมื่อคืนของซานชุ่นติง ในใจยิ่งมั่นใจว่าต้องมีคนควบคุมอะไรบางอย่าง ทำให้ผู้อาวุโสเหวินหยวนต้องตายแน่ๆ

“ท่านเจออะไรบ้างหรือไม่” เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยถาม

เสด็จอาเก้าส่ายศีรษะ “คนที่ไปตระกูลจั่นกับสำนักศำษาจี้เซี่ยยังไม่กลับมา แต่ทว่าถึงจะเจออะไร ก็คงใช้อะไรมากไม่ได้นัก เพราะนี่เป็นกับดักที่หนานหลิงกับตงหลิงสร้างไว้ให้กับเปิ่นหวัง ไม่มีทางหลุดออกไปได้ง่ายๆ แน่”

“ผู้อาวุโสเหวินหยวนตายไปแล้ว ถึงเปิ่นหวังจะขุดสาเหตุการตายของเขาขึ้นมา ก็ไม่มีคนเชื่อหรอก แต่กลับกันจะคิดว่าเปิ่นหวังตั้งใจสาดน้ำสกปรกให้กับผู้อาวุโสเหวินหยวน เพื่อเอาตัวรอด เพราะต้องทราบเสียก่อนว่าการที่บังคับให้ผู้อาวุโสเหวินหยวนตายได้นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่นอน”

“อย่าว่าแต่ไม่มีหลักฐานเลย ถึงจะมีก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนนั้น ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ กับตงหลิง หนานหลิงเลย” ฝ่าบาทกับหนานหลิงจิ่นฝานช่างเลือดเย็นเสียจริง เพื่อจะเอาตัวเสด็จอาเก้าไปถึงขั้นต้องสังหารผู้อาวุโสเหวินหยวนเลยทีเดียว

หากจับจุดอ่อนของผู้อาวุโสเหวินหยวนได้จริงๆ เช่นนั้นผู้อาวุโสเหวินหยวนตัวเป็นๆ น่าจะมีประโยชน์กับฮ่องเต้มากกว่าที่เป็นศพ

“ไม่มีผลประโยชน์ใดจริง ผู้อาวุโสเหวินหยวนตายที่ตงหลิง คนภายนอกย่อมลือกันถ้วนว่าตงหลิงไม่ให้ความสำคัญกับผู้มีความรู้ ไม่ให้ความใส่ใจกับผู้มีฝีมือ” ไม่ว่าจะเป็นการสอบคัดเลือกขุนนาง หรือแนะนำคนในครอบครัวล้วนก็เพื่อคัดเลือกคนที่มีความสามารถให้กับฮ่องเต้ ฮ่องเต้เองก็ทรงชอบพระทัยคนมีฝีมืออยู่แล้ว เพราะอย่างไรฮ่องเต้เองก็ต้องการให้มีคนมาช่วยทรงงานด้วย

มิเช่นนั้นผู้อาวุโสเหวินหยวนและสำนักศึกษาจี้เซี่ยก็คงไม่มีตำแหน่งสูงส่งเพียงนี้

“หากฝ่าบาทเปิดโปงท่านออกมาเพื่อบรรเทาความโกรธของศิษย์เหล่านั้น พวกเขายังจะไม่พอใจตงหลิงอีกหรือไม่” เฟิ่งชิงเฉินเชื่อว่า ฝ่าบาทผู้นั้นต้องทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้เป็นแน่

เสด็จอาเก้าเองก็เชื่อเช่นนั้น เสด็จพี่ผู้นั้นของเขาไม่มีทางมองเขาเป็นพี่น้องแน่ หากเปลี่ยนเป็นเขา เขาเองก็คงเป็นแบบนั้นเช่นกัน

“ดังนั้น เปิ่นหวังคิดว่า ลงมือก่อนได้เปรียบ” เสด็จอาเก้าเอ่ยอย่างลึกซึ้งคาดเดาไม่ถูก เฟิ่งชิงเฉินมองเสด็จอาเก้าแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขามีภาพต้นไผ่อยู่ในใจจึงไม่ได้ถามไถ่ต่อ

โต้วโต้วฟื้นขึ้นมาในตอนเย็นวันนั้นเหมือนดั่งที่เฟิ่งชิงเฉินพูด สีหน้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อย พอตกดึกก็สามารถเดินบนพื้นได้แล้ว

ความสามารถในการฟื้นตัวอันผิดปกตินี้

จวบจนถึงบัดนี้ เฟิ่งชิงเฉินพบว่ามีเพียงความสามารถในการฟื้นตัวของหลานจิ่วชิงเท่านั้นที่เทียบกับโต้วโต้วได้ ทั้งสองคนนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้มีมาแต่กำเนิดเหมือนกัน แต่เป็นการบำรุงด้วยโอสถต่างหาก

เพราะคนที่มีทักษะในการฟื้นตัวสูงแต่กำเนิดนั้นพบได้น้อยมาก แต่นี่กลับพบทีเดียวสองคน ช่างไม่ปกติเลยจริงๆ

เสด็จอาเก้าเป็นคนทำอะไรระมัดระวังมาก แม้แต่เฟิ่งชิงเฉินที่คอยไปๆ มาๆ ในห้องโต้วโต้วก็ไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าพาตัวโต้วโต้วไปตั้งแต่เมื่อใด ส่วนเรื่องให้โต้วโต้วพูดกับซานชุ่นติงว่าอะไรนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เพราะคนตระกูลจั่นและหวังจิ่นหลิงใกล้จะมาถึงกันแล้ว สองสามวันนี้เสด็จอาเก้าจึงยุ่งหัวหมุนจนไม่ได้พักผ่อนดีๆ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นห่วงมากนัก

แบบนี้ถึงจะเป็นคนเหล็กก็ทนไม่ได้หรอก

แต่ทว่าเสด็จอาเก้าที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นห่วงนั้นกำลังตรวจดูข่าวสารที่คนใช้ส่งมาให้ในขณะนี้ เมื่อเขาเห็นการสอบสวนของตระกูลจั่นแห่งหนานหลิง บนใบหน้าอันเย็นชาของเสด็จอาเก้าพลันเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง มิน่าล่ะผู้อาวุโสเหวินหยวนถึงเลือกที่จะตาย เพียงแต่ว่า…ผู้อาวุโสเหวินหยวนไม่ทราบหรือว่ามีคนหนึ่งที่สามารถตรวจสอบเรื่องแบบนี้ได้ ย่อมมีอีกคนหนึ่งที่รู้น่ะ”

ปัง…เสด็จอาเก้าเก็บข่าวสารในมือกลับเข้ากล่อง เมื่อคิดว่าจะได้เจอกับหวังจิ่นหลิงในวันพรุ่งนี้ เสด็จอาเก้าจึงเผยรอยยิ้มอันมีเลศนัยออกมา

ครั้งนี้ หวังจิ่นหลิงต้องยอมศิโรราบ!

ข่าวสารเดียวกันสามารถข่มขู่ผู้อาวุโสเหวินหยวนได้ เช่นนั้นก็ย่อมข่มขู่ผู้ที่เคารพนับถือผู้อาวุโสเหวินหยวนอย่างหวังจิ่นหลิงได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ