นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1398

“เจ้าเป็นใคร?”

คนที่ปรากฏตัวออกมานั้นแต่งการในชุดสะอาด ท่าทางของเขาดูสง่าผ่าเผย มีผมสีขาวทัดอยู่บนใบหูทั้งสองข้าง ใบหน้าขาวราวกับหยก รูปลักษณ์ของเขาค่อนข้างดูเด็ก จึงยากที่จะบอกว่าอายุเท่าไหร่

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ เจ้าเข้าไปในค่ายกลหยินแห่งความชั่วร้าย เหตุใดจึงไม่รู้สึกหวาดกลัว?”

ก้าวร้าวและเต็มไปด้วยการคุกคาม เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาและถามกลับไป “เหตุใดข้าต้องกลัว ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เจ้าทำลงไปนั้นเป็นแค่ของปลอม ต่อให้เป็นผีจริง ข้าเองก็ไม่กลัว”

“ช่างกล้ายิ่งนัก ตาเฒ่าตี๋ดูคนไม่ผิดจริง ๆ ในเมื่อเจ้าไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อค่ายกลหยินแห่งความชั่วร้ายของข้า เช่นนั้นข้าจะมอบโอกาสให้เจ้าอีกครั้งหนึ่ง” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ดูเหมือนว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ

“ให้โอกาสข้า? เจ้าเป็นใคร?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รู้สึกตกใจกับคำขู่ของอีกฝ่าย และไม่ได้พูดจาเย่อหยิ่งตอบโต้กลับไป

นางมั่นใจว่าชายผู้นี้ไม่ธรรมดา หากหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงจะดีกว่า หลายปีที่ผ่านมานี้นางอดทนกับเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมามาก นางสาบานว่าหลังกลับมาจากเป่ยหลิง ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเฟิ่งหลี นางจะไม่ทนอีกต่อไป

ทนมานาน นานจนรู้สึกชินชา เหมือนกับที่นางพึ่งพาเสด็จอาเก้ามาเป็นเวลานาน ทำให้นางรู้สึกว่านางไม่เป็นตัวของตัวเอง

ความชื่นชมปรากฏขึ้นมาจากแววตาของชายผู้นี้ พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้โกรธหรืออ่อนโยน “มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร”

“ท่านล้อเล่นแล้ว พ่อกับแม่ของข้าจากไปแล้ว ข้าเติบโตมาเพียงลำพัง ไม่มีญาติมิตรคนใดมาปกป้อง” เฟิ่งชิงเฉินระมัดระวังในคำพูด นางไม่มีทางเปิดเผยตัวตนของนางออกมาเพียงเพราะคำพูดของอีกฝ่าย

“ไม่มีญาติมิตรคอยปกป้อง มันก็ไม่ได้แปลว่าเจ้าจะไม่มีญาติมิตร สาวน้อย เจ้าคิดว่าเจ้าปกปิดตัวตนของเจ้าไว้ดีแล้วงั้นหรือ ต่อหน้าที่คนรู้เรื่องราวที่แท้จริง เจ้าไม่มีทางปกปิดมันไว้ได้”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง คนผู้นี้จะต้องรู้อะไรบางอย่างเป็นแน่

“พวกเจ้าออกไปก่อน” ชายผู้นั้นโบกมือ หลี่เจ๋อพาคนของเขาออกไปโดยไม่พูดอะไรสักค่ำ จากนั้นก็ให้คนคอยรักษาการณ์อยู่ในระยะไกล แต่ก็ไม่ได้ยินว่าคนที่อยู่ด้านในกำลังพูดอะไรกัน แค่เพียงป้องกันไม่ให้คนนอกเข้าไปเท่านั้น

“ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เจ้าอยากจะพูดอะไร?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่าย เสด็จอาเก้าและเซวียนเส้าฉีอยู่ที่นี่ นางไม่จำเป็นต้องกลัว

ชายผู้นั้นก้าวเข้ามา มองไปที่ร่างของเฟิ่งชิงเฉิน ส่ายหน้าและกล่าวว่า “พูดอะไร? เจ้าอยากฟังอะไร? เฟิ่งชิงเฉิน หรือข้าควรเรียกเจ้าว่าเฟิ่งหลีเฉิน”

“เจ้ากำลังพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ” ในใจของเฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความตกใจ แต่นางก็ไม่กล้าแสดงมันออกมา

“เอาล่ะ เลิกเล่นได้แล้ว ข้าจะให้เจ้าได้ดูนี่” ชายผู้นั้นมองไปรอบ ๆ และรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ เขาจึงหยิบแผ่นป้ายหยกออกมายื่นให้เฟิ่งชิงเฉิน “ทายาทของเฟิ่งหลีทุกคนจะมีมันอยู่ เจ้าคงจะคุ้นเคยกับมันดี”

ลวดลายบนแผ่นป้ายคำสั่งเหมือนกับแผ่นป้ายคำสั่งของเฟิ่งหลีอ๋องที่เฟิ่งชิงเฉินได้มาจากแม่ทัพใหญ่ซื่อไม่มีผิด เพียงแต่วัสดุที่ทำขึ้นนั้นไม่ได้พิเศษเหมือนกับของนาง ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและหนักแน่น

“เจ้าเป็นใคร? ข้าควรเรียกเจ้าว่าอะไร” เฟิ่งชิงเฉินกำแผ่นหยกไว้ในมือแน่น นางคิดไม่ถึงเลยว่า นางจะได้เจอกับคนในตระกูลของตนเองเร็วถึงเพียงนี้ นางยังไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือ

“ในที่สุดก็เลิกเสแสร้ง?” ชายผู้นั้นพูดติดตลกออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่เล่นด้วย ใบหน้าของนางยังคงเยือกเย็น ชายผู้นั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ กล่าวแนะนำตัวเองออกมาว่า “ข้าชื่อ เฟิ่งหลีหยู ตามลำดับแล้วข้าน่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า แม้จะห่างกันพอสมควรก็ตาม”

“ลูกพี่ลูกน้อง? เจ้าอายุเท่าไหร่?” ความสงสัยปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ดูจากรูปลักษณ์ของชายผู้นี้แล้ว อายุของเขาน่าจะใกล้เคียงกับพ่อของนาง

“แคก แคก......ตามลำดับเครือญาติ เจ้าควรเรียกข้าว่าพี่ชาย แต่หากตามอายุ ข้าก็อาจจะเทียบเท่าพ่อของเจ้า” ในตอนที่เฟิ่งหลีหยูพูดออกมา เขาไม่เคยละสายตาไปจากเฟิ่งชิงเฉินเลยแม้แต่น้อย

กลิ่นอายของลูกสาวแห่งตระกูลเฟิ่งหลี ไม่เจอกันตั้งหลายปี ในที่สุดก็ได้พบเจอกันอีกครั้ง!

“มีสิทธิ์อะไร? เจ้ากำลังพูดเรื่องคุณสมบัติกับข้างั้นหรือ? ร่างกายของเจ้ามีสายเลือดของตระกูลเฟิ่งหลีไหลเวียนอยู่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ความรู้สึกของเจ้า? ข้าต้องการทดสอบเจ้า เหตุใดจะต้องสนใจความรู้สึกของเจ้า เลือดที่ไหลอยู่ในร่างกายของเจ้า รู้สึกว่าจะเป็นของตระกูลลู่ที่เป็นโจรสลัดใช่ไหม?” แววตาของเฟิ่งหลีหยูเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “หากเจ้าไม่ใช่ลูกสาวโดยชอบธรรมของเฟิ่งหลี ด้วยสายเลือดโจรสลัดแห่งตระกูลลู่ครึ่งหนึ่งในร่างกายของเจ้า เฟิ่งหลีคนสังหารเจ้าไปแล้ว เลือดของตระกูลขุนนางไม่อาจแปดเปื้อน”

“ดังนั้นพวกเจ้าจึงทอดทิ้งข้า?” เสียงของเฟิ่งชิงเฉินเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว” เฟิ่งหลีหยูยอมรับอย่างใจกว้าง หากไม่ใช่เพราะในร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินมีสายเลือดของโจรสลัดอยู่ คนในตระกูลก็คงไม่มีความขัดแย้งใด ๆ และยอมรับเลี้ยงดูเฟิ่งชิงเฉิน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องการการยอมรับจากพวกเจ้า ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ข้ายังมีชีวิตรอดมาได้ หลังจากนี้ข้าก็สามารถใช้ชีวิตของข้าต่อไปได้เช่นกัน” ชนชั้นสูงไม่อาจยอมรับตระกูลต่ำต้อย และชนชั้นล่างก็ไม่มีวันได้เป็นขุนนาง

เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด ตระกูลขุนนางมักจะแต่งงานกับขุนนางเท่านั้น ไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหนก็ยังถือเป็นตระกูลสูงส่ง ไม่มีทางเป็นตระกูลที่ต่ำต้อย แต่ถึงจะต่ำต้อยเพียงใด มันก็ยังดีกว่าที่จะไปแต่งงานกับโจรสลัด

หวัง เซี่ย ชุย ทั้งสามตระกูลมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน และชายคนโตจะแต่งงานกับลูกสาวคนโต แม้ว่าตระกูลเฟิ่งหลีจะไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีต แต่พวกเขาก็ไม่มีวันยอมรับในเรื่องการแต่งงานกับลูกสาวของโจรสลัด

ภูมิหลังแม่ของนางไม่ค่อยดีนัก แต่นั่นแล้วมันยังไง ชื่อเสียงของเฟิ่งหลีเองก็แทบไม่เหลืออยู่แล้วเช่นกัน

“ไม่ต้องการการยอมรับจากพวกข้า? หากไม่ได้รับการยอมรับจากพวกข้า เจ้าก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น อย่าคิดว่าพวกข้าจะทำไม่ได้ ความแข็งแกร่งที่เฟิ่งหลีรักษาไว้ มันเกินกว่าที่เจ้าจินตนาการไว้มาก แม้ว่าเจ้าจะมีอำนาจและได้รับการคุ้มครองจากตระกูลขุนนาง แล้วมันยังไง? เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกของเฟิ่งหลี เพื่อรักษาความภาคภูมิใจของเฟิ่งหลีเอาไว้ ตระกูลเฟิ่งหลียอมใช้พลังทั้งหมดในการสังหารคนอย่างเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถ แต่เจ้าจะสู้กับพลังทั้งหมดของตระกูลเฟิ่งหลีได้งั้นหรือ?” หากเป็นผู้หญิงคนอื่น ตระกูลเฟิ่งหลีคนไม่มีทางสนใจ แต่......

ลูกสาวที่โดยชอบธรรมของเฟิ่งหลีนั้นต่างออกไป ผู้ที่ครอบครองตราประทับลูกสาวผู้ชอบธรรมของเฟิ่งหลี หากไม่เป็นประโยชน์ต่อเฟิ่งหลี สิ่งที่รออยู่ก็มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น

“เจ้ากำลังขู่ข้า?” เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจ คนบนโลกนี้ให้ความสัมพันธ์กับสายเลือดเป็นอย่างมาก และนางก็ไม่อาจต่อสู้กับคนทั้งโลก นี่คือสิ่งที่พวกเขาสืบทอดกันมานับหมื่นปี ไม่ใช่สิ่งที่คนเพียงคนเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และในฐานะที่นางเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มีสายเลือดเฟิ่งหลี นางก็หนีไม่พ้น......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ