นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 304

เสด็จอาเก้าจากไปแล้ว แต่ดอกบัวก็ยังอยู่ที่เดิม นางจะไม่ยอมให้เสด็จอาเก้าทำให้ตนเสียอารมณ์ในการชมดอกบัว

นานๆทีจะได้ใช้ชีวิตว่างๆ เฟิ่งชิงเฉินทิ้งเรื่องที่เสด็จอาเก้าอาจโกรธเอาไว้ก่อน จากนั้นก็เริ่มชมดอกบัวอย่างสบาย เรือเล็กของเสด็จอาเก้ายังมิได้ไปไกล เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ตามเรือกลับมาโดยไม่เกรงใจ

เรือร่องกลางสระบัว เฟิ่งชิงเฉินที่สวมชุดสีแดงสดดูเด่นยิ่งกว่าดอกบัวที่อยู่ในบึง รอยยิ้มที่สดใจ เสียงหัวเราะที่ไพเราะ ทำให้คนเห็นอยากเก็บและปกป้องมันเอาไว้ ให้นางได้มีความสุขและไร้ความกังวลเช่นนี้ไปตลอด

คนพายเรือหัวเราะตามนางไปด้วย เพราะเสียงหัวเราะของเฟิ่งชิงเฉินนั้นทำให้คนรอบตัวอยากหัวเราะไปด้วย

เสด็จอาเก้านั่งอยู่ที่จุดชมวิว และเขาเห็นภาพนี้ได้ชัด มือของจับแก้วเหล้าของเขาย่อนลง จากนั้นเขาก็อมยิ้ม แววตาส่งรอยยิ้มนั้นออกมาเช่นกัน

ขันทีที่รับใช้ก็หัวเราะเช่นกัน เขากระตือรือร้นในการรินสุราให้เสด็จอาเก้าอย่างมาก และอยากจะกล่าวเชยชมอย่างจริงจังสักสองสามคำ แต่สายตาของเสด็จอาเก้าจับจ้องไปที่ตัวเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้

"ไปสั่งให้คนเตรียมขนมเอาไว้ และตามคนโรงดนตรีมาด้วย" เสด็จอาเก้าแอบได้ยินเฟิ่งชิงเฉินกล่าวว่า "หากมีใครบรรเลงเพลงให้ฟัง พร้อมดื่มชาและกินขนมสักเล็กน้อยมันคงจะดีอย่างมาก"

"ขอรับ" ขันทีรีบลงไปเตรียมการ แต่แอบพูดในใจว่า "ว่าแล้ว คนที่เสด็จอาพอใจ ไม่ว่าทำกระไรก็ดูชอบใจทั้งสิ้น"

ดอกบัวในสระน้ำเป็นที่รักที่หวงของเสด็จอาเก้าอย่างมาก กลิ่นหอมของดอกบัวนี้เป็นหนึ่งในกลิ่นดอกไม้ที่เสด็จอาไม่แพ้ อีกทั้งดอกบัวถือว่าเป็น บุรุษแห่งดอกไม้ ฉะนั้นดอกไม้ที่เสด็จอาเก้าชอบก็คือดอกบัว

ดอกบัวในสระนี้ได้รับการดูแลอย่างดีจากคนของจวนอ๋องเก้า ในตงหลิงนี้ไม่มีดอกบัวที่ไหนงามไปกว่าดอกบัวของเสด็จอาเก้า

ปกติแล้วหากใครอยากจะมาชมดอกไม้ ทำได้แค่ยืนชมอยู่ที่จุดชมวิว เสด็จอาเก้าจะไม่มีวันยอมให้เข้าไปที่สระบัวอย่างแน่นอน แม้แต่จักรพรรดิหรือฮองเฮาก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้.......

คุณหนูเฟิ่งไม่เพียงแต่สามารถล่องแพในสระบัวได้ อีกทั้งยังเด็ดดอกบัวได้อีกด้วย

ต้องยอมรับว่าคุณหนูเฟิ่งเป็นคนที่แปลกอย่างมาก เพราะคุณหนูที่ชมดอกไม้นั้น ไม่มีใครเด็ดดอกไม้เลย มีแต่คุณหนูเฟิ่งที่ทำเช่นนี้ นางดูเป็นตัวเองและเมื่อทำเช่นนี้ก็มิได้ทำให้ใครรู้สึกเกลียดชัง แต่ที่สำคัญคือเสด็จอาเก้าไม่เกลียดชังเขา คนอื่นก็ไม่กล้าเกลียดชังเช่นกัน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเสียงกู่เจิงดังมาก เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเขาบรรเลงกระไร แต่เมื่อฟังเสียงดนตรีนี้ท่ามกลางบึงบัว ทำให้สบายใจและหายร้อนทันที.....

เฟิ่งชิงเฉินใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายแช่ในสระดอกบัวแห่งนี้ และเสด็จอาเก้าอยู่กับนางไปประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นเขาก็ลงไป

เขาไม่ใช่เฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่ได้ว่างเช่นนี้ ในเมื่อคืนนี้เขาได้เชิญคนมากินข้าว เขาจึงต้องเตรียมการเอาไว้เสียก่อน แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงที่เขาจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เมื่อเสียเวลาไปแล้ว เขาจะต้องได้รับผลตอบแทน

ในเมื่อจักรพรรดิไม่ต้องการให้ซีหลิงเหยาหวาแต่งงานกับตงหลิงจื่อลั่ว ฉะนั้นเขาเป็นน้องชายที่ดี จึงต้องช่วยให้เสด็จพี่ได้สมดั่งหวัง

อาหารเขาไม่อร่อย!

ผู้คนในลานยุ่งอย่างมาก มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินที่เอาใบบัวมาปิดหน้าอย่างเชื่องช้า และแอบนอนหลับอยู่ใต้ใบบัว จนเมื่อรอให้คนไข้มาปลุกนาง จึงพบว่าฟ้ามืดแล้ว

เมื่อมองไปที่เสื้อผ้ายับๆของตน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกอาย " สาวใช้ของฉันอยู่ที่ใด?" นางไม่รู้จะทำอย่างไรก็เสื้อนี้ ตอนนี้นางหวังพึ่งได้เพียงสาวใช้มากความสามารถทั้งสองของนาง เหมือนว่าบนรถม้าของนางจะมีเสื้อสำรองอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่หรือไม่

คนรับใช้ของจวนเสด็จอาเก้า เข้มงวดเช่นเดียวกับเสด็จอาเก้า นางคำนับ " คุณหนูเฟิ่งมิต้องเป็นห่วง เสื้อผ้าของท่านเตรียมเอาไว้แล้ว เชิญท่านไปเตรียมตัวได้เลย"

เสด็จอาเก้าจะปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินสวมเสื้อผ้าที่หวังจิ่นหลิงเตรียมไว้ตลอดทั้งวันได้อย่างไร การร่องเรือนั้นจะทำให้เสื้อสกปรก และเฟิ่งชิงเฉินก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก นางหลับทำให้เสื้อผ้านี้ไม่มีสามารถไปเจอผู้คนได้เลย

แต่เมื่อนางสวมใส่แล้วพบว่า เนื้อผ้าของเสื้อผ้าชิ้นนี้เย็นและสดชื่น เมื่อสวมใส่บนร่างกายรู้สึกสบายกว่าอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิด มิน่าล่ะใครๆก็อยากจะมียศมีศักดิ์ เมื่อมีอำนาจมีความมั่งคั่งมันดีเช่นนี้นี่เอง

เสื้อผ้าที่ต่างกันต้องคู่กับเครื่องประดับผมและการแต่งหน้าที่แตกต่างกัน เครื่องแต่งกายวังที่ดูซับซ้อน จะใส่เพียงปิ่นนั้นมิได้ เพราะปิ่นนั้นไม่สามารถงคู่ควรกับชุดที่ซับซ้อนนี้ได้ สาวใช้แกะเครื่องประดับบนหัวของเฟิ่งชิงเฉินออก ปล่อยผม และหวีขึ้นมาใหม่

ต้องยอมรับว่าความเป็นมืออาชีพของสาวใช้ในยุคนี้ เทียบได้กับมืออาชีพในยุคปัจจุบัน เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รู้สึกว่าปวดหัวเพราะถูกดึงผม ไม่นานก็หวีเรียบร้อยแล้ว

เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าที่ประดับหัวนี้เรียกว่าอะไร นางรู้เพียงว่ามันงามอย่างมาก ประณีต และซับซ้อน เมื่อสาวใช้สวมเครื่องประดับผมนี้ให้นาง เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าตนในกระจกนั้นแตกต่างจากตนในวันปกติอย่างมาก

สง่างาม สูงส่ง ชุดพระราชวังรัดเอวนั้นแสดงให้เห็นรูปร่างที่งดงามของนาง

นี่นางเองหรือ? นางงดงามเช่นนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เฟิ่งชิงเฉินแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตนเห็น จนกระทั่งสาวใช้ก้าวไปข้างหน้าและชมว่า "คุณหนูเฟิ่งงามแต่เดิมแล้ว ฉะนั้นไม่ว่าจะแต่งอย่างไรก็งาม คุณหนูเฟิ่งเปลี่ยนมาสวมรองเท้าที่มีพื้นนิ่มเถิด เดินไปมาในจวนหากใส่รองเท้านี้จะสบายเท้ายิ่งกว่า

สาวใช้คุกเข่ากับพื้นและเปลี่ยนรองเท้าให้เฟิ่งชิงเฉิน พวกนางเอาทุกสิ่งที่หวังจิ่นหลิงมอบให้นางออกจากตัวนางหมดจนไม่รู้ตัว จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นของจวนอ๋องเก้าทั้งหมด

จากหญิงสาวที่ดูธรรมดา กลายเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในชั่วพริบตา เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งสาวพยุงนางเดินเข้าไป ทันทีที่เจอเสด็จอาเก้าที่สวมชุดสีครามอยู่ใต้แสงเทียนนั้น นางจึงรู้สึกได้ว่า..............

ไม่นะ ... เสด็จอาเก้าเล่นงานนางอีกแล้ว คราวนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนางก็คงแก้ตัวไม่ได้แล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ