เวลาเหมาะสมอย่างมาก เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าเสื้อของตนและเสด็จอาเก้านั้นเป็นสีเดียวกัน แบบคล้ายกัน ในขณะที่นางอยากไปเปลี่ยนก็พบว่ามันไม่ทันแล้ว แขกของเสด็จอาเก้ามาถึงแล้ว....
เสด็จอาเก้าส่งคำเชิญให้ใคร ถือเป็นเกียรติของผู้นั้น หนึ่งปีคงไม่มีสักครั้งเดียว คนที่ได้รับนั้นอย่างมาก
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ใบเชิญของเสด็จอาเก้า ไม่ว่าจะคิดอย่างไร มีความสุขหรือไม่ ก็ไม่มีใครกล้ามาสาย
โดยปกติแล้วผู้มีอำนาจสูงสุดจะต้องมาถึงคนสุดท้ายเพื่อที่จะแสดงยศศักดิ์ของตนออกมา เพื่อที่จะได้รับชื่นชมยินดีของทุกคน แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป คนที่มาถึงคนแรกเป็นเสด็จอาเก้า
ร่างกายขององค์รัชทายาทอ่อนแอเช่นเคย เมื่อเห็นเสด็จอาเก้ามาแต่ไกล องค์รัชทายาทก็เร่งฝีเท้า เดินเร็วเพียงไม่กี่ก้าวก็ทำให้องค์รัชทายาทหน้าแดงและหายใจหอบเหนื่อย
ไม่น่าแปลกใจที่ตงหลิงจื่อลั่วไม่รีบจัดการองค์รัชทายาทเช่นนี้ ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองว่าเขาเป็นคู่แข่งได้จริง ๆ ร่างกายอ่อนแอเช่นนี้ จะแบกรับหน้าที่ดูแลบ้านเมืองได้อย่างไร
เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินที่สวมชุดหรูหรายืนอยู่ตรงหัวมุม องค์รัชทายาทก็ตกใจ เขารู้สึกตกใจและไม่เข้าใจเล็กน้อย
เสด็จอาเก้าเชิญทานข้าว แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับแต่งกายเด่นเช่นนี้ นางต้องการเป็นที่สนใจมากกว่าเสด็จอาเก้าหรือ? ๆ โชคดีที่จวนของเสด็จอาเก้าไม่มีพระชายา ไม่เช่นนั้นเฟิ่งชิงเฉินทำเช่นนี้จะต้องโดนเกลียดอย่างแน่นอน
"ชิงเฉินคาราวะองค์รัชทายาท" เฟิ่งชิงเฉินโค้งตัวและคำนับ ไม่ใช่เพราะนางไม่อยากคุกเข่า แต่เพราะว่าหากนางคุกเข่าลง เสื้อจะเลอะเทอะ
"มิต้องมากพิธีรีตอง" ดวงตาขององค์รัชทายาทเป็นประกาย และส่งยิ้มให้เฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นเขาเดินตรงเข้าไปหาเสด็จอาเก้า เมื่อเข้าไปและเห็นชุดของเสด็จอาเก้าแล้ว องค์รัชทายาทตกใจอย่างมาก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่กระจ่างออกมา
เฟิ่งชิงเฉินผู้นี้ไม่ลืมแสดงเจตจำนงของตนตลอดเวลา ไม่คิดว่านางจะไปสืบการแต่งกายของเสด็จอาเก้ามา เพื่อที่จะสวมชุดคล้ายกัน นางต้องการให้ซูหว่านยอมถอยให้นางหรือ?
ผู้หญิงนี่ชอบใช้เล่ห์กลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เสียจริง แต่พวกนางไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ องค์รัชทายาทคำนับเสด็จอาเก้า " เสด็จอา"
เขาไม่ได้เอ่ยคำว่า "เก้า" ออกมา องค์รัชทายาทจงใจกล่าวให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น
"องค์รัชทายาท มานั่งเถิด" หลังจากที่เสด็จอาเก้านั่งลง องค์รัชทายาทก็เดินตามและนั่งในตำแหน่งแรกจากด้านล่างซ้าย เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ที่มุมห้อง ไม่รู้ว่าตนควรเข้าไปหรือไม่ และนางควรนั่งที่ไหน
ตามหลักแล้ว ชายและหญิงจะต้องแยกกันนั่ง แต่เสด็จอามีโต๊ะเพียงตัวเดียว เสด็จอาเก้าคงอยากให้ทุกคนนั่งด้วยกัน
เสด็จอาเก้าดูเหมือนจะรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกอึดอัด เขาจึงยกมือขึ้น "นั่ง"
ชายและหญิงจะไม่นั่งในที่นั่งเดียวกันนี่คือกฎ แต่เมื่ออยู่ในพระราชวังกฎเหล่านี้จะเบาลงเล็กน้อย ใครจะกล้าว่าราชวงศ์
"ใช่" เฟิ่งชิงเฉินตอบรับและก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หลังจากเดินไปสักพัก เฟิ่งชิงเฉินตระหนักได้ว่าชายเสื้อของนางปักด้วยไหมทองเป็นรูปดอกบัว นางไม่ได้สังเกตมาก่อน เพราะตอนแรกนางมิได้มองดูที่ชายเสื้อ
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินก้าวไปข้างหน้า ชายเสื้อพลิ้วไหวไปมา ดอกบัวชายเสื้อนั้นผลิบานออกมา เมื่อชายเสื้อเก็บกลับมาเป็นทรงเดิม ดอกบัวก็หุบลงอีกครั้ง หากมิใช่เพราะเดิน หรือเพราะแสง จะไม่มีทางพบลายนี้แน่นอน
เพราะเมื่อมีแสงมาก ไหมทองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
เมื่อเห็นว่ามองค์รัชทายาทเริ่มเอาไม่อยู่แล้ว ตงหลิงจื่อลั่ว องค์หญิงอันผิง ตงหลิงจื่อชุน หวังชี เซี่ยซานและหวังจิ่นหลิง ตี๋ตงหมิงก็มาถึงพอดี
เสด็จอาเก้าและองค์รัชทายาทมิต้องยืนขึ้น แต่เฟิ่งชิงเฉินนั้นต่างจากพวกเขา ปกติแล้วนางต้องคำนับคนเหล่านี้ ตอนนี้แม้ว่าไม่ต้องคำนับ แต่นางก็ต้องยืนขึ้นต้อนรับ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคุณหญิงในจวน ช่วยพวกเขารับแขก แม้ว่าองค์รัชทายาทจะรู้สึกแปลกๆ แต่เสด็จอาเก้ามิได้ว่ากระไร เขาจึงพูดกระไรมิได้
เมื่อทุกคนเห็นเฟิ่งชิงเฉินต่างก็ตะลึงอย่างมาก พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเสด็จอาเก้าจะเชิญเฟิ่งชิงเฉินมาด้วย และเมื่อเห็นเสื้อผ้าของเฟิ่งชิงเฉิน มีหลายคนไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ตงหลิงจื่อลั่วเย็นชาเช่นเดิม สีหน้าของเขาประชดประชัน ตงหลิงจื่อชุนนั้นเป็นกันเองอย่างมาก แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อเสด็จอาเก้ามองอยู่ เขาไม่กล้าเอ่ยปาก เขายิ้มให้เฟิ่งชิงเฉินและเดินขึ้นไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง
องค์หญิงอันผิงไม่กล้าก่อปัญหาต่อหน้าเสด็จอาเก้า จึงทำได้แค่เฉยเมยต่อเฟิ่งชิงเฉิน ทำได้เพียงส่งยิ้มดูหมิ่นนางไปเป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดว่านางดูถูกเฟิ่งชิงเฉินอย่างมาก
หวังจิ่นหลิงยังคงยิ้ม แต่เซี่ยซานและหวังชีเป็นเหมือนกับองค์รัชทายาท พวกเขามองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นมิได้กล่าวกระไร
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าชุดนี้จะสร้างปัญหา แต่ทำได้เพียงอดทน ก็ที่นี่เป็นถิ่นจองเสด็จอาเก้า นางรับของเขามาจึงต้องยอมเขาเป็นธรรมดา
"นั่งได้ตามสบาย" ในที่สุดเสด็จอาเก้าก็รับแขก แต่พวกเขาไม่กล้านั่งลง เพราะที่นั่งนั้นมีตำแหน่งพิเศษ ตงหลิงจื่อลั่วนั่งถัดจากเสด็จอาเก้า ต่อมาเป็นองค์หญิงอันผิง ตงหลิงตื่อชุนและตี๋ตงหมิง
ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชายและหญิง แน่นอนว่าต้องนั่งตามตำแหน่งสถานะ ระหว่างตี๋ตงหมิงและ เฟิ่งชิงเฉินมีที่นั่งว่างอยู่หนึ่งที่ ที่นั่งนี้เซี่ยซานหรือหวังชีมานั่งก็ย่อมได้ เพราะเฟิ่งชิงเฉินนั่งอยู่ส่วนท้ายของโต๊ะอยู่แล้ว ฉะนั้นทั้งซ้านและขวาจึงต้องเป็นหวังชีและเซี่ยซาน คนใดคนหนึ่ง แต่ว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...