เย่เฉิงมีประโยชน์มากกว่าตระกูลซู ดังนั้นจึงไม่สนใจตระกูลซู สนใจแต่เพียงการกระชับความสัมพันธ์กับเย่เฉิง จิ่วชิงช่าง......คิดการได้รอบคอบจริงๆ!
ปู้จิงหยุนเหลือกตามองบนให้หลานจิ่วชิงเห็น รู้ทั้งรู้ว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวที่ชื่อเฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่ยอมรับก็ช่างเถอะ หลังเกิดเรื่องแล้วยังยืนพูดหน้าตาย บนโลกนี้คงมีแต่หลานจิ่วชิงที่ทำได้ ความหนาของหน้าเขาช่างน่าตื่นตะลึงเสียจริง
"หลานจิ่วชิง เจ้ายังจะหน้าตายได้มากกว่านี้อีกไหม?" ปู้จิงหยุนกล่าวอย่างหงุดหงิด ตระกูลซูกับเย่เฉิงไม่ได้เป็นอริกัน จะกระชับความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่ายก็ย่อมได้อยู่แล้วนี่
"คนที่หน้าตายคือเสด็จอาเก้าต่างหาก ข้าไม่เคยทำเรื่องที่ไร้ยางอายมาก่อน" หลานจิ่วชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
"เอะอะก็ไปลงที่เสด็จอาเก้า เป็นลูกผู้ชายที่ใจกล้าหน่อยสิ" ปู้จิงหยุนเบ้ปากพร้อมทำท่าดูหมิ่น
"เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับการเป็นลูกผู้ชายล่ะ นี่คือความจริง" หลานจิ่วชิงไม่แยแส
"ความจริง? ก็ช่างพูดออกมาได้ การที่เจ้าพูดออกมาเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าในใจเจ้าจะเข้าใจความหมายของมันดีหรือเปล่า อยากให้เรื่องนี้มาช่วยสานสัมพันธ์กับเย่เฉิง เสด็จอาเก้าคงไม่ได้ต้องการหว่านล้อมซูหว่านกับเย่เย่หรอกกระมัง?" ปู้จิงหยุนมองหลานจิ่วชิงด้วยความสงสัย เสด็จอาเก้าไม่ได้ใจดีขนาดนั้นที่จะให้เย่เย่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
"เจ้าอยู่กับเป่าเอ๋อมากเกินไปแล้ว ก็เลยใสซื่อเหมือนกับนางงั้นสิ?" หลานจิ่วชิงพูดจากระทบกระเทียบแล้วตบบ่าปู้จิงหยุน
"เสด็จอาเก้าปฏิเสธซูหว่าน ทำให้ซูหว่านต้องเสียหน้า นางคงจะเคียดแค้นเสด็จอาเก้าเป็นแน่ หากให้ซูหว่านแต่งงานกับเย่เย่ เย่เย่หลงใหลซูหว่านมาก เพียงนางเป่าหูเขาเล็กน้อยก็สามารถทำให้เย่เย่กลายเป็นศัตรูกับเสด็จอาเก้าได้ เสด็จอาเก้าต้องสิ้นคิดจริงๆจึงส่งซูหว่านไปให้กับเย่เย่"
"ต่อให้เย่เย่ไม่แต่งงานกับซูหว่าน เขาก็ไม่มีทางช่วยเสด็จอาเก้าอยู่ดี" ปู้จิงหยุนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกถึงเย่เย่ก็ทำให้เขานึกถึงความอัปยศของตัวเอง หากเป็นไปได้เขาก็อยากกำจัดเย่เย่เสีย
เหอะๆ แต่เขาไม่สามารถทำได้ เพราะเย่เย่ยิ่งใหญ่ในเย่เฉิง หากสังหารเย่เย่ เมืองเย่เฉิงไม่มีทางปล่อยเขาเอาไว้แน่ แต่เมื่อได้ยินว่าเย่เย่อาจไม่ได้แต่งงานกับซูหว่านที่ตนเองหมายปอง ก็ทำให้ปู้จิงหยุนรู้สึกโล่งใจขึ้น
หลานจิ่วชิงยิ้มและกล่าวว่า "ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร เสด็จอาเก้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเย่เย่หรอก ขอเพียงให้เขายอมให้ความร่วมมือกับเสด็จอาเก้าก็พอแล้ว เรื่องของซูหว่านพวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล เดี๋ยวข้าทำให้ทุกอย่างคลี่คลายเอง ตอนนี้ข้ากำลังเป็นกังวลกับเรื่องความปลอดภัยของเฟิ่งชิงเฉิน"
"หนานหลิงจิ่นฝานเป็นคนที่คิดร้ายและชอบการแก้แค้น ครั้งก่อนเพราะเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้เขาเจอเรื่องเดือดร้อนในตงหลิงจนต้องวิ่งหนีกลับหนานหลิงแทบไม่ทัน"
"ส่วนหนานหลิงจิ่นสิงที่คอยแย่งชิงอำนาจกับเขาก็ดันเคยได้รับความช่วยเหลือจากเฟิ่งชิงเฉินมาก่อน มีทั้งศัตรูและคู่แค้น หนานหลิงจิ่นฝานไม่มีทางปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปแน่นอน การมาเยือนตงหลิงของเขาในครานี้ ดูเผินๆเหมือนเป็นแค่การมาหารือเรื่องแต่งงาน แต่อันที่จริงแล้วเขากลับมาเพื่อแก้แค้นต่างหาก เขาไม่หมายตาเสด็จอาเก้าหรอก แต่เฟิ่งชิงเฉินกำลังตกอยู่ในอันตรายแน่นอน"
หลานจิ่วชิงพูดพร้อมกับจ้องมองหน้าปู้จิงหยุน ปู้จิงหยุนจะทำเป็นไม่หือไม่อือก็ไม่ได้ จึงได้แต่เอ่ยว่า "ที่เจ้าพูดพล่ามมาตั้งนาน คือต้องการให้ข้าช่วยปกป้องเฟิ่งชิงเฉินใช่หรือไม่? วางใจเถอะ ข้าไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินถูกลอบสังหารหรอก แล้วอีกอย่างในเมืองหลวงจะมีคนร้ายแฝงตัวเข้ามาง่ายๆได้อย่างไร"
ปู้จิงหยุนอยากถามหลานจิ่วชิงจริงๆว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นมีอะไรดีจนทำให้เขาครุ่นคิดไปใหญ่โต แต่เอาเถอะ ปู้จิงหยุนลืมไปหมดแล้ว ครั้งแรกที่เขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกดีกับนางเช่นเดียวกัน
"ช่วยเฟิ่งชิงเฉินสร้างจวนเฟิ่งขึ้นมาใหม่งั้นหรือ? จิ่วชิง นี่เจ้าจะดีกับนางถึงเพียงนี้เชียวหรือ?" ซูเหวินชิงเริ่มบ่น ทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม หลานจิ่วชิงก็โยนมาให้เขาทำทุกอย่าง หลานจิ่วชิงทำเกินไปแล้ว
เพียงแค่มองดูแววตา หลานจิ่วชิงก็รู้ว่าซูเหวินชิงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า "ใครบอกว่าเรื่องนี้ทำเพื่อเฟิ่งชิงเฉินล่ะ นี่มันเป็นเรื่องของส่วนรวม"
"เรื่องของส่วนรวมงั้นหรือ? จิ่วชิง เจ้าโกหก" ปู้จิงหยุนตำหนิอย่างไม่เกรงใจ "ช่วยเฟิ่งชิงเฉินสร้างจวนเฟิ่งขึ้นมาใหม่เรียกว่าเรื่องส่วนรวมอย่างนั้นหรือ? ทำไมเจ้าไม่ให้เสด็จอาเก้าไปทำล่ะ เสด็จอาเก้าเรียกใช้คนงานได้นี่นา"
สองคนนี้ไม่พอใจเฟิ่งชิงเฉินหรือไม่พอใจพฤติกรรมช่วงนี้ของเขากันแน่นะ? หลานจิ่วชิงคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า
"เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลเฟิ่งหลี ในอดีตแผนที่เส้นโลหิตมังกรจิ่วโจวถูกแบ่งเป็น 9 ส่วน ตระกูลเฟิ่งหลีถือครองอยู่ 1 ส่วน ไม่แน่ว่าแผนที่เส้นโลหิตมังกรจิ่วโจวที่อยู่ในมือตระกูลเฟิ่งหลีอาจจะอยู่ที่จวนเฟิ่งก็เป็นได้ เพียงแต่ว่าเฟิ่งชิงเฉินยังไม่รู้ เพลิงไหม้ในครั้งนี้เผาจวนเฟิ่งจนวอดวาย อาจจะมีความลับบางอย่างเผยให้เห็นก็เป็นได้ จะอย่างไรก็ตามแต่ เมื่อพอจะมีความเป็นไปได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าแล้วจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือไม่ได้นะ"
"จิ่วชิงพูดได้ดี แต่ว่าแผนที่เส้นโลหิตมังกรจิ่วโจวจะอยู่ที่จวนเฟิ่งหรือเปล่าล่ะ?" ซูเหวินชิงรอคำตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
พวกเขาตามหาแผนที่เส้นโลหิตมังกรจิ่วโจวมาหลายปีแล้ว แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ได้มาจากซีหลิงเทียนเหล่ยแค่เพียงส่วนเดียว อีกแปดส่วนที่เหลือไปตกอยู่ที่ใดก็ไม่มีใครรู้ หากจวนเฟิ่งมีแผนที่เส้นโลหิตมังกรจิ่วโจวจริงๆล่ะก็ นั่นถือเป็นเรื่องที่โชคดีมาก......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...