หากมิได้ทำชั่ว จักต้องหวาดกลัวไปไย !
คำพูดพวกนี้ แม้จะพูดออกมาอย่างง่ายดาย ทว่า หากได้ฟังจริง ๆ แล้วย่อมต้องรู้สึกได้ถึงอับอายอย่างแน่นอน อย่างน้อยซีหลิงเทียนเหล่ยก็ไม่อาจทำได้ เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคำถามของเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ ยามที่สบตาเข้ากับสายตาที่เต็มไปด้วยเย้ยหยันของเฟิ่งชิงเฉินนั้น ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันเบือนหน้าหนีไปในทันที
ที่แท้ เรื่องก็เป็นเช่นนี้!
การกระทำของซีหลิงเทียนเหล่ยนั้น นับว่าเป็นการกระทำของตนเองทั้งสิ้น ภายในใจของทุกคนที่มองอยู่พลันรู้ดี แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจก็คือ" เพราะเหตุใดกัน? องค์รัชทายาทเหล่ยถึงได้ทำเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อพระองค์งั้นหรือ?"
มิรู้ว่าเป็นผู้ใดที่กล่าวถามขึ้นมา มิรอให้เฟิ่งชิงเฉินได้พูดอันใด ก็พลันมีคนตอบแทนนางว่า "เรื่องเช่นนี้ ยังต้องคิดด้วยหรือ ผู้คนในใต้หล้าล้วนแต่รู้ดี ว่าองค์หญิงเหยาหวาหลงรักลั่วอ๋อง แต่คุณหนูเฟิ่งกลับเป็นอดีตคู่หมั้นของลั่วอ๋อง ยังต้องถามถึงเหตุผลอื่นอีกหรือ? นางย่อมต้องทำไปเพราะความรักอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นนั้น คุณหนูเฟิ่งที่น่าสงสารถึงได้ถูกลากเข้ามาโยงในเรื่องนี้ด้วยอย่างไรเล่า " ประโยคสุดท้าย พลันทำให้คนรู้สึกสะเทือนอารมณ์ยิ่งนัก
"แต่ว่า องค์หญิงเหยาหวามิใช่ต้องแต่งให้ชุนอ๋องงั้นหรือ? นางหาได้แต่งให้ลั่วอ๋องไม่" เรื่องงานมงคลสมรสนี้ เป็นที่รู้โดยทั่วกัน
บุรุษร่างใหญ่หน้าดำผู้หนึ่ง ที่มีอายุอานามสามสิบกว่าปีพลันกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา "ฟ้าย่อมมีตา ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว องค์หญิงเหยาหวาทำลายชื่อเสียงของคุณหนูเฟิ่งเช่นนั้น ตนเองกลับต้องมาโดนกระทำเสียเอง เพียงแค่ฐานะที่มาจากราชวงศ์ จึงต้องไว้หน้าเสียหน่อย มิเช่นนั้น องค์หญิงเหยาหวาจะยินยอมแต่งให้ชุนอ๋องไปได้อย่างไร"
"บังอาจ!" เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยหาคนระบายอารมณ์โกรธออกมาไม่ได้นั้น ก็พลันเห็นบุรุษหน้าดำกำลังพูดคุยเรื่องนี้อยู่พอดี เขาอยากจะสั่งประหารคนผู้นี้ยิ่งนัก แต่ทว่าที่นี่คือตงหลิง แม้ในใจจะรู้สึกไม่พอใจนัก แต่เขาก็ไม่มีอำนาจที่จะไปจัดการกับขุนนางในตงหลิงได้ ยามที่กำลังจะหันไปกล่าวกับฝ่าบาทนั้น ฝ่าบาทพลันชิงออกคำสั่งออกมาเสียก่อน "พวกเจ้า ไปนำตัวใต้เท้าเหยียนออกมาเสีย"
"ขอรับ"ยามที่องครักษ์พลันก้าวเข้าไปหา สีหน้าของใต้เท้าเหยียนพลันตกตะลึงไปในทันที แววตาที่หวาดกลัวเมื่อครู่ พลันสงบลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหันไปกล่าวถ้อยคำดุด่าต่อซีหลิงเทียนเหล่ยว่า "ฮ่าฮ่าฮ่า สิ่งที่องค์รัชทายาทเหล่ยและองค์หญิงเหยาหวาได้กระทำลงไป ยังเกรงกลัวผู้คนพูดถึงงั้นหรือ? ท่านฆ่าปิดปากข้าในวันนี้ ท่านกล้าปิดปากผู้คนในใต้หล้าหรือไม่? องค์รัชทายาทเหล่ย ที่นี่คือตงหลิงหาใช่ซีหลิงไม่ พวกซีหลิงที่แอบเข้ามาในตงหลิงเช่นนี้ ทั้งยังมากระทำตัวกับสตรีผู้สูงศักดิ์ในตงหลิงเช่นนี้อีก ต้องมีจิตใจเช่นไรกัน"
เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจได้ว่า บุรุษหน้าดำผู้นี้ต้องเป็นคนของเสด็จอาเก้าหรือไม่ก็หวังจิ่นหลิงอย่างแน่นอน เมื่อชำเลืองมองพวกเขาทั้งสองคนนั้น หวังจิ่นหลิงเพียงแค่ส่ายหน้าไปมา ทว่า เป็นเสด็จอาเก้าที่พยักหน้าลงเล็กน้อย เพื่อสื่อว่าคนผู้นั้นเป็นคนของเขา เป็นเขาที่ได้สั่งให้สร้างเรื่องขึ้น พร้อมทั้งรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ขึ้นมา
ชั่วชีวิตนี้ของเฟิ่งชิงเฉิน นางมิสมควรต้องมาถูกด่าทอทำให้อับอายเช่นนี้ไม่ นับว่าไม่ยุติธรรมกับนาง
"พวกเจ้ารีบเข้ามาปิดปากเขาเสีย" เมื่อฝ่าบาทได้ยินจนพอใจแล้วนั้น ก็พลันกล่าวเตือนองครักษ์ในทันที
แม้ว่าบุรุษผู้นั้นยังคงก่นด่าต่อไป น่าเสียดายนักที่ผู้คนภายในงานเลี้ยงต่างก็ได้ยินเรื่องราวไปกันหมดแล้ว
ยามที่คนถูกลากออกไปแล้วนั้น เรื่องราวหาได้จบแต่เพียงเท่านี้ไม่ ค่ำคืนนี้ ฝ่าบาทต้องมาตกอกตกใจกับท่าทีเย่อหยิ่งของหนานหลิงจิ่นฝานไม่พอ ก็พลันมีเรื่องของซีหลิงเทียนเหล่ยพรั่งพรูเข้ามาอีก หากฝ่าบาทไม่จัดการเขาแล้ว จะให้ไปจัดการผู้ใดได้
"องค์รัชทายาทเหล่ย เรื่องนี้ ทางซีหลิงต้องมีคำอธิบายให้กับเจิ้น" แม้ว่าทั้งตงหลิงและซีหลิงจะมีกองกำลังที่พอ ๆ กัน หากแต่ฝ่าบาทยังมิอยากก่อศึกสงครามขึ้นมาในยามนี้ อีกทั้งยังเปิดศึกระหว่างแคว้นเพียงเพราะเรื่องของสตรีนางเดียวอีก
หากเหล่าทหารรู้เรื่องนี้แล้วละก็ พวกเขาย่อมต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน หาพวกเขาต้องมาตกตายไปพร้อมกับต้องมารบราฆ่าฟันกับศัตรูเช่นนี้ เพียงเพราะความอับอายสตรีนางเดียว ทั้งยังต้องให้คนอีกเป็นพันเป็นหมื่นมาตายเพราะนางคนเดียวด้วยหรือ?
น่าเสียดายซีหลิงหาได้คิดเช่นนั้นไม่ หากตงหลิงต้องการรบกับซีหลิงนั้น ย่อมมีชัยได้ถึงเจ็ดส่วน พวกเขามีชื่อเสียงทางด้านการรบยิ่งนัก ถึงแม้ว่า แต่ละแคว้นจะแฝงสายลับเข้าไปในทุก ๆ แคว้น แต่ส่วนน้อยมากมักจะไม่ปรากฏตัวมาทำเรื่องเช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเฟิ่งชิงเฉิน
การโยนหินเข้าไปทับถม อย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ หากแต่มิใช่ในยามนี้
"องค์หญิงเหยาหวากับชุนอ๋อง?" ทั้งโจวอ๋องและชิงอ๋อง ต่างพากันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับตงหลิงจื่อชุนในทันที โจวอ๋องพลันยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้ เพื่อสื่อว่าชื่นชมในทันที จู่ ๆ ก็พลันรู้สึกหนาว ๆ ขึ้นมา เมื่อเขาหันหน้ากลับไปนั้น พลันเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธของตงหลิงจื่อลั่วมองมา โจวอ๋องจึงได้ปิดปากเงียบไปในทันที พร้อมทั้ง มิกล้าเอ่ยอันใดออกมาอีก
อีกคนคืออดีตคู่หมั้น อีกคนคือคนรักของเขา ท้ายที่สุด กลับมีอีกคนต้องมาตกอยู่ในหัวข้อข่าวลือมากมาย กับอีกคน มีบุรุษที่เป็นเลิศมากมายเข้ามารายล้อม แม้แต่เสด็จอาเก้าก็ยังถูกใจนาง หากว่าคนรักของตนต้องกลายมาเป็นสตรีของลูกพี่ลูกน้องตนเองนั้น มันช่าง
ลั่วอ๋อง ข้าละเห็นใจเจ้าจริง ๆ !
นับว่า นี่เป็นความคิดของบุรุษส่วนใหญ่ที่มีต่อลั่วอ๋อง ภายในใจของลั่วอ๋องในยามนี้อยากจะฆ่าคนยิ่งนัก แต่ทว่าเขาไม่อาจเอ่ยสิ่งใดออกมาได้ แม้แต่จะเอ่ยคำพูดปกป้องชื่อเสียงของตนเองก็ไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใดกล้าพูดต่อหน้าเขา เขาจึงได้แต่กัดฟันทนอยู่เช่นนี้
บรรยากาศภายในงานเลี้ยงพลันตกอยู่ในความตึงเครียดไปในทันที ทุกคนราวกับรู้สึกว่าต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจกันเลยทีเดียว เกรงว่า หากพวกเขามิทันได้ระมัดระวังตนเอง อาจจะทำให้เกิดเรื่องขึ้นได้ แม้ว่าใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินหาได้แสดงอารมณ์ออกมาไม่ แต่ภายในใจพลันแอบลอบยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
ยามที่นางได้รับความยากลำบากและความอับอายนั้น ความแค้นของนางได้ถูกชำระไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว
ใช่แล้ว เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซีหลิงเหยาหวา ซีหลิงเทียนเหล่ยและตงหลิงจื่อลั่วทำให้นางต้องอับอายมากถึงเพียงนี้ นางย่อมไม่ลืมความแค้นนี้ไปได้อย่างแน่นอน อย่าได้คิดให้โอกาสนางเชียว หากนางมีโอกาสเมื่อใด นางจะต้องเอาคืนพวกเขาเพิ่มเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...