"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ ยังมีข้าอยู่ทั้งคน แม้ว่าตอนนี้ข้าจะไม่มีพลังที่มากพอที่จะไปต่อกรกับสี่แคว้นและเก้าเมือง แต่สักวันหนึ่งข้าจะต้องทำได้" เสด็จอาเก้าไม่ได้สัญญากับเฟิ่งชิงเฉิน เขาเพียงแต่บอกให้นางรับรู้ถึงความคิดและความปรารถนาในใจเขา......
"เสด็จอาเก้า ท่าน......" อยากจะครอบครองปฐพี
คำพูดประโยคหลัง เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดออกมา แต่สายตาของนางได้เปิดเผยออกมาแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเสด็จอาเก้าจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้ ทำไมที่ผ่านมานางมองไม่ออกบ้างเลยนะ นางคิดมาตลอดว่าเสด็จอาเก้ามองชีวิตตนเองแค่เพียงในตงหลิง นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองไกลมากกว่านั้น......
เสด็จอาเก้ายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยโดยที่ไม่ได้พูดสิ่งใด เขามองหน้าเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อสายตาคนทั้งสองประสานกัน เฟิ่งชิงเฉินก็มองเห็นความแน่วแน่ในแววตาของเสด็จอาเก้า
คนอย่างตงหลิงจิ่วไม่เคยยอมก้มหัวให้ผู้ใด การที่จะมาเป็นเช่นนี้ได้ จะต้องมีอำนาจที่มากพอ
เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าจะวางแผนไว้อย่างไร นางรู้แต่เพียงว่าหากเสด็จอาเก้าต้องการทำสิ่งใด นางก็จะผลักดันอย่างเต็มที่ เพราะว่า......นางก็เป็นเหมือนเสด็จอาเก้า ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใด
อาศัยแค่กำลังของนางเพียงคนเดียวคงไม่พอ หากนางรวมพลังกับเสด็จอาเก้า ก็มีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น เฟิ่งชิงเฉินบอกเสด็จอาเก้าว่า "หากมีสิ่งใดที่ข้าพอจะช่วยได้ ข้าจะทำอย่างสุดความสามารถ ข้าก็อยากมีพลังที่ทำให้ผู้คนหวั่นเกรง"
"ได้ ข้าจะจำไว้ อนาคตของข้าจะมีเจ้าอยู่ด้วย" เสด็จอาเก้าไม่ปฏิเสธเฟิ่งชิงเฉิน เขามองนางเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตมานานแล้ว ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะยินยอมหรือไม่ เฟิ่งชิงเฉินก็ต้องอยู่เคียงข้างเขาในการดูความขาขึ้นขาลงของเมืองทั้งเก้า
อนาคตของข้าจะมีเจ้าอยู่ด้วย นี่จะเรียกว่าคำสารภาพได้ไหมนะ? ในขณะที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังครุ่นคิดถึงความหมายที่แท้จริงของคำพูดประโยคนี้อยู่นั้น ซุนซือสิงก็ได้พาทงจือและทงเหยาบุกเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำเอาเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินตกใจมาก
แล้วสายลับล่ะ?
"เสด็จอาเก้า ชายกับหญิงต่างกัน เชิญพ่ะย่ะค่ะ......" ซุนซือสิงเข้ามาห้ามเสด็จอาเก้า แถมยังมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เฟิ่งชิงเฉินพอจะดูออกว่าซุนซือสิงคงรู้เรื่องนางกับเสด็จอาเก้าแล้ว นางไม่ได้ห้ามปรามซุนซือสิงแต่อย่างใด นางเองก็อยากดูว่าเสด็จอาเก้าจะตอบโต้เช่นไร
ล้อเล่นน่ะ อย่าคิดว่าได้ผู้หญิงมาครอบครองแล้วจะเลิกเอาอกเอาใจนางได้
"เอ่อ......" เสด็จอาเก้าแม้จะไม่พอใจเพียงไร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาที่ขุ่นเคืองของซุนซือสิงกับทงจือและทงเหยา เขาก็ไม่อาจหน้าด้านอยู่ต่อได้
เสด็จอาเก้าค่อยๆปล่อยเฟิ่งชิงเฉิน ก่อนเขาจะลุกยืนก็ไม่ลืมที่จะช่วยจัดแจงผมให้กับเฟิ่งชิงเฉิน ทำเอาซุนซือสิงโกรธจนแทบอยากบุกเข้าไปคว้ามือของเสด็จอาเก้าไปเหวี่ยงทิ้ง
โชคดีที่เสด็จอาเก้าดึงมือกลับเสียก่อน จังหวะที่ซุนซือสิงกำลังเดินเข้าไปด้วยความโมโหนั้น เสด็จอาเก้าก็เดินออกไปอย่างลอยหน้าลอยตา ทำราวกับว่าตนเองไม่เคยบุกเข้าไปในห้องส่วนตัวของหญิงสาว
ก่อนเสด็จอาเก้าจะออกไป เสด็จอาเก้าก็ส่งสัญญาณมือให้กับสายลับ สื่อความหมายว่าเมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้ทุกคนไปพบเขา!
"ซวยแล้ว ท่านอ๋องทรงไม่พอพระทัย จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ วันนี้ต้องถูกลงโทษแน่ๆเลย แต่ว่า......ท่านอ๋อง ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ขวางนะ แต่ติดตรงที่สถานภาพของอีกฝ่าย คุณชายซุนเป็นศิษย์ของแม่นางเฟิ่ง หากแม่นางเฟิ่งรู้ว่าพวกเราไปทำร้ายศิษย์ของนาง พวกเราก็คงไม่รอดเหมือนกัน"
"ท่านอาจารย์ ท่านก็จะยังเป็นอาจารย์ที่ข้าเคารพยกย่องอยู่เสมอ ไม่มีผู้ใดจะมาแทนที่ได้" แม้คนทั้งโลกจะพูดว่าท่านไม่ดีอย่างไร ในสายตาของข้า ท่านเป็นคนที่ดีที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ ข้าเข้าใจท่านเสมอ
ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ซุนซือสิงจากเด็กที่เคร่งขรึมและตรงไปตรงมา กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมรอบคอบ รู้ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าในขณะที่น้ำตาคลอเบ้า ความเคารพและความใส่ใจที่ทั้งสามมีให้กับนางทำให้นางรู้สึกอบอุ่นใจ "ข้าโชคดีที่มีพวกเจ้าอยู่เคียงข้าง วางใจเถอะ หลังจากนี้ไปทุกอย่างต้องดีขึ้น ทงจือ ช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าที ข้าจะไปจวนรัชทายาท"
เสด็จอาเก้าพูดถูก หากต้องการมีชีวิตอิสระ ไม่ถูกคนอื่นบีบบังคับ ก็จะต้องมีอำนาจและกำลังที่มากพอ แม้ตอนนี้จะยังไม่มีสิ่งใดในมือเลย แต่นางก็ต้องเริ่มต้นลงมือทำได้แล้ว
อันดับแรก ต้องกำจัดเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เรื่องการแข่งขันกับซูหว่านจะต้องจัดการให้จบสิ้นโดยเร็ว ให้ซูหว่านรีบๆไสหัวไป ให้ซูหว่านไปให้พ้นหูพ้นตานางเสียที......
เมื่อรัชทายาททราบว่าเฟิ่งชิงเฉินมาเยือน ก็รีบมาพบเฟิ่งชิงเฉินในทันที
เสด็จอาเก้าพักอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กซีชวีมาได้เดือนกว่าแล้ว จนตอนนี้ก็ยังไม่ยอมย้ายกลับ เรื่องนี้คนทั้งเมืองหลวงรู้ดี หากจะบอกว่าเสด็จอาเก้าไม่มีใจให้กับเฟิ่งชิงเฉินคงไม่มีใครเชื่อ
ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา คนที่ใจกล้าหน่อยก็จะบอกว่านี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม แม้แต่ฮ่องเต้เองก็เคยเปรยเป็นนัยๆว่าให้เสด็จอาเก้ากลับไปยังจวนอ๋องเก้าได้แล้ว แต่เสด็จอาเก้าก็ทำเป็นไม่รับรู้ เขามักจะอ้างว่าตนเองกำลังพักฟื้น และที่จวนเฟิ่งก็มีหมอที่วิเศษที่สุดในแว่นแคว้น
หลายๆคนอาจคิดว่าหมอเทวดาคือหมอที่วิเศษที่สุดในแว่นแคว้น แต่รัชทายาทรู้ดีว่า ในใจของเสด็จอาเก้า คนๆนั้นต้องเป็นเฟิ่งชิงเฉิน ในใจของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีผู้ใดจะมาแทนที่ได้......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...