ยามที่นั่งอยู่บนรถม้าขององครักษ์เสื้อโลหิตนั้น แม้จะเป็นการเข้าออกตัวเมือง ก็ไม่มีผู้ใดกล้ามาตรวจสอบเลยสักคน ดังนั้น การเดินทางในครานี้ จึงเต็มไปด้วยความราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง
ฉะนั้น เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินกลับเข้าเมืองหลวงมาจึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้เอาได้
หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินพาเสี่ยวจื้อไปฝังเสร็จแล้วนั้น เมื่อกลับเข้ามาในเมืองหลวง ก็เป็นเวลาพลบค่ำพอดี
เมื่อคนขับรถม้ามาส่งเฟิ่งชิงเฉินถึงหน้าประตูจวนแล้วนั้น ก็รีบกลับไปในทันที
ไม่รู้ว่า เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปที่องครักษ์เสื้อโลหิตนานหรือไม่ ในตอนนี้บนถนนจึงไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมาเลยแม้แต่น้อย เสมือนว่าถนนเส้นนี้ได้ถูกผู้คนปล่อยทิ้งร้างไปเสียแล้ว
ด้วยตัวบ้านที่เก่าแก่ จึงทำให้แผ่กลิ่นอายบรรยากาศที่เสื่อมโทรมออกมา ดูไร้ชีวิตชีวายิ่งนัก เสมือนจะเป็นการบอกว่า เจ้าของจวนเฟิ่งไม่อยู่ที่จวน ดังนั้น ภายในจวนเฟิ่งจึงดูเงียบเหงา
เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ที่หน้าประตูจวนเฟิ่ง พร้อมทั้งเงยมองป้ายที่เขียนว่า "จวนเฟิ่ง"สองคำนั้น ภายในใจรู้สึกแปลกประหลาดออกมา ทั้งยังนางก็มิได้ละสายตาไปจากป้ายจวนเป็นเวลานาน
ไม่ว่าจะเสื่อมโทรมหรือน่าหดหู่มากเพียงใด อย่างไรที่นี่ก็คือบ้านของนาง ที่นี่ ทำให้นางรู้สึกได้ถึงคำว่าบ้าน ทำให้นางรับรู้ว่า ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของคนยุคนี้ ทำให้รู้สึกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเดินเข้ามาภายในจวนเฟิ่งนั้น เฟิ่งชิงเฉินพลันรู้สึกได้ถึงการเกิดใหม่อีกครั้ง ทั้ง
ยังเต็มไปด้วยความยินดีและความขอบคุณเสียมากมาย แล้วจึง ค่อย ๆ ก้าวไปด้านในทีละก้าว
เสียงประตูที่ถูกเปิดออกดังยิ่งนัก ประตูจวนเฟิ่งบานใหญ่ที่อวี่เหวินหยวนฮั่วถีบออกด้วยความเต็มแรงนั้น ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อย่างไรก็คงไม่มีผู้ใดกล้ามาเยือนจวนเฟิ่งอีก
เมื่อเดินอยู่ภายในจวนเฟิ่งที่เงียบเหงา ความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน ก็ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้น ภายในจวนยังมีโจวสิงอยู่อีกคนหนึ่ง ในยามนี้ เหลือเพียงแค่นางคนเดียวแล้ว ทุกอย่างล้วนแต่ต้องเริ่มใหม่หมด อีกทั้ง สิ่งที่นางพยายามไปทั้งหลายทั้งมวลนั้น ล้วนแต่เปล่าประโยชน์สิ้นดี
เสียงหัวเราะอันแผ่วเบา ทำให้นางพอคลายเหงาไปได้บ้าง พร้อมกับแอบให้กำลังใจตนเองเล็กน้อย
"ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น"
"เฟิ่งชิงเฉิน หากผ่านวันนี้ไปได้ก็เป็นวันใหม่แล้ว"
เมื่อมองไปเห็นฝุ่นที่เกาะอยู่บนโต๊ะเก้าอี้นั้น เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ไปตักน้ำมาเพื่อทำการปัดกวาดเช็ดถู พร้อมทั้งอาบน้ำชำระตัว แล้วจึงผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดใหม่ ทั้งยังไม่ลืมที่จะทำแผลให้ตนเองอีกด้วย
หลังจากที่จัดการตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เฟิ่งชิงหลิงก็พลันพบว่าท้องของตนเองร้องประท้วงเสียแล้ว วันนี้ทั้งวันยังไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องนางเลย ทว่า
ในจวนหาได้มีสิ่งใดพอให้นางประทังความหิวโหยไปได้
อีกทั้ง ท้องฟ้าในภายนอกก็มืดมิดเสียแล้ว ถึงแม้ว่านางไม่อยากจะออกไปนอกจวนก็ตาม หากแต่ นางก็ไม่อาจอดทนต่อท้องร้องเช่นนี้ไปได้เหมือนกัน เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ไปค้นหาเงินทองที่ตนเองเคยเก็บซ่อนไว้ออกมา
มีเพียงหนึ่งตำลึงเงินเท่านั้น นี่เป็นเงินทั้งหมดที่มีอยู่ภายในจวนของนางแล้ว เงินที่ซูเหวินชิงให้นางมาหนึ่งพันตำลึงทองนั้น นางก็ได้ให้หวังชีเอาเงินเก้าร้อยตำลึงไปลงพนันเอาไว้ ส่วนที่เหลือนางก็ได้มอบให้โจวสิงไปหมด
นางยากจนยิ่งนัก!
เฟิ่งชิงเฉินจึงทำปากยื่นออกมาด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ เมื่อล็อคห้องนอนตนเองเรียบร้อยแล้วนั้น ก็พลันนึกไปถึงห้องผ่าตัดที่ตระกูลหวังสร้างขึ้นมาให้นาง เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เดินเข้าไปสำรวจดูเสียสองสามรอบ
ห้องทั้งสองห้องนั้น ตรงกลางพลันถูกกั้นด้วยฉากกั้น พร้อมทั้งโคมไฟหกดวงที่อยู่ภายใน ทั้งยังมีหน้าต่างที่เป็นกระจกอีก และยังมีเตียงผ่าตัดที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ พร้อมกับโต๊ะผ่าตัด
ทุกอย่างล้วนแต่ทำตามที่นางต้องการ
เฟิ่งชิงหลิงจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ
วันพรุ่ง นางจะต้องเดินทางไปตรวจร่างกายของหวังจิ่นหลิง ถ้าหากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด นางก็จักได้เริ่มทำการผ่าตัดได้ในทันที
นางหวังว่าดวงตาของหวังจิ่นหลิงจักสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง นั้นก็เป็นเพราะ เพื่อให้มองเห็นความงดงามของโลกใบนี้ได้ทดแทนที่เสี่ยวจื้อไมาสามารถมีชีวิตอยู่มองเห็นมันได้แล้ว
เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ปิดประตูห้องผ่าตัดลง ยามที่กำลังหันกายเดินออกไปทางประตูใหญ่ของจวนนั้น เมื่อกำลังเดินผ่านทางด้านหน้าของเรือน ก็พลันได้ยินเสียงเปิดประตูดังเข้ามาในทันที
ในยามนี้ เป็นผู้ใดที่มาเยือนกัน?
เฟิ่งชิงเฉินจึงได้หันกายไปหลบซ่อนอยู่ด้านหลังประตูจวนในทันที
"ดีจริง ๆ ดีจริง ๆ ที่เจ้าไม่เป็นอะไร เจ้าออกมาจากองครักษ์เสื้อโลหิตแล้ว เจ้ามีชีวิตรอดออกมาจากพวกองครักษ์เสื้อโลหิต ใช่แล้ว เจ้าคงมิใช่ผีสางใช่หรือไม่?"
"มือของข้า ยังคงอุ่น ๆ อยู่ จะเป็นผีไปได้อย่างไร" เฟิ่งชิงเฉินพลันแย้มยิ้มออกมา
"ใช่ใช่ใช่ มือของเจ้ายังอุ่นอยู่ เจ้ามีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว ดีแล้ว" รอบดวงตาทั้งสองข้างของซูเหวินชิงพลันแดงก่ำขึ้นมาในทันที
อวี่เหวินหยวนฮั่วจึงได้นำดาบเก็บเข้าไปในฝัก พร้อมกับเดินช้าไปหนึ่งก้าว หากแต่ใบหน้าที่แฝงไปด้วยความปิติยินดีนั้น ไม่อาจหลบสายตาผู้ใดไปได้ "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้านี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ เข้าไปในดงองครักษ์เสื้อโลหิตเช่นนั้น ยังสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ เจ้านี่มันสุดยอดจริง ๆ "
ผู้ที่มีปฏิกิริยาช้ามากที่สุด ก็คือโจวสิง ทว่า เมื่อสติของโจวสิงกลับมาแล้วนั้น เขาก็พลันเข้าไปผลักซูเหวินชิงออก แล้วก็เข้าไปกอดเฟิ่งชิงเฉินในทันที
"พี่ ท่านออกมาแล้ว ท่านมีชีวิตออกมาแล้วใช่หรือไม่? ดีจริง ๆ ดีจริง ๆ ที่ท่านไม่เป็นอันใด ท่านไม่เป็นอันใด ข้ามิได้ฝันไปใช่หรือไม่?"
เมื่อถูกคนผลักออกเช่นนั้น สีหน้าของซูเหวินชิงพลันมืดคล้ำยิ่งนัก ทว่า เมื่อได้ยินคำพูด"พี่"จากปากของโจวสิงนั้น เขาจึงได้เก็บอารมณ์เอาไว้
"ไม่เป็นอันใดแล้ว ข้ามีชีวิตกลับมาแล้ว ไม่กี่วันมานี้ เจ้าคงกังวลน่าดูเลย" เฟิ่งชิงเฉินพลันตบไปที่หลังของโจวสิงเบา ๆ หลังจากที่โจวสิงสงบสติอารมณ์ของตนได้แล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ให้ไปกล่าวทักทายอวี่เหวินหยวนฮั่วกับซูเหวินชิงว่า "ไม่กี่วันมานี้ ข้าคงทำให้พวกท่านลำบากไม่น้อย"
ได้ฟังจากคำพูดของพวกเขาแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ได้ในทันทีว่า มิใช่พวกเขาที่ไปหาเสด็จอาเก้า อีกทั้ง พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางออกมาจากองครักษ์เสื้อโลหิตแล้ว
เช่นนั้น เป็นผู้ใดกัน?
หรือเป็นเสด็จอาเก้าที่ต้องการจะช่วยนางเอง?
เฟิ่งชิงเฉินพลันส่ายหัวของตนเองไปมา เพื่อเรียบเรียงความน่าจะเป็นที่อยู่ภายในหัว
หากว่าเสด็จอาเก้าต้องการจะช่วยนางจริง ๆ เหตุใดจึงต้องรอให้ผ่านไไปถึงห้าวันด้วยเล่า
ยามที่อยู่ภายในองครักษ์เสื้อโลหิตถึงห้าวันนั้น นางเสมือนตกอยู่ในขุมนรกก็ไม่ปาน ถ้าหากนางมิได้พบบาดแผลบนตัวลู่เส้าหลินนั้น เกรงว่า เฟิ่งชิงเฉินก็คงเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง หากช่วยออกมาในยามนั้น มันจะไปมีความหมายอันใดกัน?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฟิ่งชิงเฉินพลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที
นับว่าโชคดี โชคดีที่นางรู้ทักษะการแพทย์ มิเช่นนั้น เกรงว่าชีวิตของนางคงได้จบเห่เป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...