เธอไม่รู้สึกผิดอะไรที่เอาลูกออก เธอยังจำได้ไม่กี่ปีก่อนที่เธอยืนอยู่ข้างๆโจวกุยช่าน พูดว่าถ้าท้องแล้วจะเป็นยังไง?
ตอนนั้นประจำเดือนของเธอช้าไปสิบวันจนเธอรู้สึกกระวนกระวายใจ
ตอนนั้นเฉียวหยูโดนชนและทุกอย่างไม่สามารถย้อนกลับไปได้ แต่เธอตั้งใจที่จะตั้งครรภ์เพื่อได้รับความเมตตาจากผู้ชายคนนั้น
เธอจะจำสีหน้าของเขาในตอนนั้นได้เสมอ เขามองเธอด้วยความรังเกียจราวกับมองกองขยะ "เธอไม่เหมาะให้กำเนิดลูกฉันและฉันจะไม่ปล่อยให้ไอ้นั่นรอดไปได้"
ขณะนั้นเหมือนว่าทั้งความรักความเกลียดหายไป เธอจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่าราวกับว่าเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น
ในที่สุดความเฉยเมยกับความรังเกียจของเขาก็กัดกร่อนใจความอบอุ่นสุดท้ายที่เหลืออยู่ในหัวใจเธอ
เฉียวหยูจงใจนอนใต้รถเธอ เธอไม่ได้ร้องไห้ ตอนโดนที่บ้านทอดทิ้ง เธอก็ไม่ได้ร้อง แต่พอชายคนนั้นพูดอย่างนั้น เธอก็รู้สึกว่าฟ้าถล่มมีดลงมาจนร้องไห้เสียงดัง
ต่อมาเธอสารภาพผิดในการพิจารณาคดีของศาลและยินดีที่จะติดคุก อยากยุติทุกอย่าง
แต่ติดคุกกว่าสามปี ชีวิตแบบนั้นมันคืออะไร?
ความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด การดูหมิ่น ตีด้วยแส้และ ต่อมาเธอได้เรียนรู้โลกนี้ การประจบสอพลอลูกพี่ในคุก
ในช่วงหกเดือนแรก เธอมีชีวิตอย่างน่าสังเวช อาการบาดเจ็บไม่เคยหายดี ต่อมาเธอได้เติบโตขึ้น ซ่อนความโกรธ ความคับแค้นไว้ในใจ หลังจากกดมันไว้นาน ความเกลียดที่มีต่อโจวกุยช่านก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เกลียดการหลอกลวงและความเหี้ยมโหดของเขา
หลังจากที่ได้ปล่อยตัว ก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยเขาไป ถึงโจวกุยช่านจะเกลียดเธอ แต่เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ก็รักเธอ
ดังนั้นเธอจะทรมานเขาทีละนิดอย่างช้าๆ ให้เขาได้ลิ้มรสถึงความสิ้นหวัง
หนานจิ่นผิงกระตุกมุมปาก เธอน่ะอยู่ในนรกแล้ว ไม่รังเกียจที่จะดึงใครมาอยู่ด้วยหรอก
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหาหมายเลขของสือฮว่า พร้อมกับดวงตาที่ฉายแววอบอุ่น
หากถามว่ามีใครที่เธอยังห่วงบนโลกใยนี้ก็ต้องเป็นสือฮว่า
เธอจะจำสีหน้าหวาดกลัวของสือฮว่าตอนที่เธอยอมรับผิดนั้นได้ดี เธอเศร้ามาก
เธอยังเห็นน้ำตาที่หางตาของเธอ สือฮว่าที่แต่ไหนแต่ไรเป็นคนเย็นชา ไม่มีอะไรสามารถทำอะไรใจของเธอได้ แต่ในขณะนั้น เธอเหมือนเด็กที่โดนทอดทิ้ง มองด้วยความไม่เชื่อและพูดอะไรไม่ออก
หนานจิ่นผิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้ววางโทรศัพท์ลงอีกครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้โทรออกไป
สือฮว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนานจิ่นผิง เธอรู้ว่าหนานจิ่นผิงเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถและเฉียวหยูไม่ใช่คู่ปรับของเธอ เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
ไม่กี่วันต่อมาแผลที่มือของเธอก็หายเป็นปกติ ไม่รู้ถงเหยียนไปเอายามาจากไหนแถมบอกว่าสามารถลบรอยแผลเป็นได้ด้วย
เธอยังคงใช้มันด้วยความสงสัยและพบว่ายานั่นใช้ได้ผลจริง แผลเป็นจากน้ำร้อนลวกที่มือของเธอตื้นขึ้นมากและอีกไม่นานก็จะหายไป
ไม่มียวี๋ม่านในแผนกแล้วอากาศก็ดูเหมือนจะสดชื่นขึ้นมาก
เธอไม่ได้มาหลายวันจนเรื่องต่างๆมันสะสามกันมากมาย จนตอนนี้เธอยุ่งมาก ต้องทำโอทีถึงสามทุ่มอยู่ตลอด
เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าด้านนอกก็เห็นว่าแปบๆก็ดึกขนาดนี้แล้วก็รีบปิดไฟ เก็บของจะกลับบ้าน
แต่ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกเธอก็เห็นฮ่อฉวนสือ
น่าแปลกจริงๆ ทำไมผู้ชายคนนี้มีลิฟต์เฉพาะแต่ไหนถึงมาที่ลิฟต์นี้บ่อยๆ
ขณะนี้ทั้งลิฟต์ว่างเปล่า มีฮ่อฉวนสืออยู่คนเดียว แต่สือฮว่าก็ไม่ได้อยากเข้าไป
ฮ่อฉวนสือยังกดปุ่มต่อไปราวกับว่าถ้าเธอไม่เข้าก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไป
วันนี้ทั้งสองที่เพิ่งเจอกันบรรยากาศก็ขมุกขมัว
สือฮว่าที่มึนงงก็ก้าวเข้าไป ฮ่อฉวนสือถึงปล่อยมือลง
สือฮว่ายังกลัวที่ทั้งสองติดอยู่ในลิฟต์ครั้งก่อน เธอจ้องไปที่ตัวเลขที่กำลังวิ่งอยู่จนกระทั่งลิฟต์หยุดลงนิ่งๆ เธอถึงรู้สึกโล่งใจ
"นั่งรถฉัน"
ฮ่อฉวนสือพูดอย่างนั้นทันทีที่เธอก้าวออกจากลิฟต์
สือฮว่าเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ปฏิเสธ ทำสงครามเย็นไปก็ไม่ได้อะไร
หลังจากขึ้นรถ โทรศัพท์มือถือของฮ่อฉวนสือก็ดังขึ้น เขาไม่ได้เลี่ยงสือฮว่า สือฮว่าก็ได้ยินเสียงของมู่หวั่นโจวอย่างชัดเจน
"ฉวนสือ ปัญหาของแผนงานแก้ไขแล้ว คุณดูว่าว่างเมื่อไร เดี๋ยวฉันจะได้เข้าตี้เซิ่ง"
น้ำเสียงของมู่หวั่นโจวเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ยินถึงความรักในนั้น
แต่ใบหน้าฮ่อฉวนสือไร้อารมณ์ "ฉันจะส่งมอบให้หนานสือดูแลเรื่องนี้ จากนี้คุณก็ติดต่องานกับเขาก็พอ"
ใบหน้าของมู่หวั่นโจวแข็งทื่อ ส่งเรื่องนี้ให้หนานสือ เธอก็จะไม่ได้เจอฮ่อฉวนสือแล้ว?
"แต่ก่อนหน้านี้เป็นคุณกับฉันมาตลอด..."
กงมู่ป๋ายที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากมู่หวั่นโจว สายตาจับจ้องมาที่เธอตลอดเวลา
เห็นสือฮว่ากับฮ่อฉวนสือมา สีหน้ากงมู่ป๋ายก็อึมครึมกว่าเดิม
เขาไม่คิดว่าฮ่อฉวนสือจะมา งานเลี้ยงก่อนๆไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของฮ่อฉวนสือด้วยซ้ำ
เขามองไปที่มู่หวั่นโจวอย่างเป็นห่วงก็เห็นใบหน้ามู่หวั่นโจวที่ซีดไปหมดแล้ว
เขารีบเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกทุกข์ใจและอยากจะรั้งเธอไว้ แต่มู่หวั่นโจวกลับปัดมือเขาทันที "คุณจะทำอะไรน่ะ?"
สายตาที่กำลังข่มขู่คน กงมู่ป๋ายก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว เขาจะลืมได้ไง ถึงพวกเขาจะเกิดเรื่องอย่างว่า แต่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นแม้แต่แสง มู่หวั่นโจวไม่อนุญาตให้เขาเข้ามาทำตัวสนิทสนมเวลาอยู่ข้างนอก
เขารีบหลุบสายตาลงแล้วเก็บมือ "หวั่นโจว ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจก็เข้าไปเถอะ อย่าอยู่ข้างนอกเลย"
นี่คือวิลล่าบนภูเขาที่อยู่ชานเมือง ปาร์ตี้จัดขึ้นที่หน้าวิลล่า กลิ่นบาร์บีคิวและไวน์แดงอบอวลไปทั่ว ตอนนี้ก็ดึกแล้วแต่ยังไม่มีใครคิดจะกลับ
"อย่ามายุ่ง กงมู่ป๋าย อยู่ให้ห่างๆฉัน!"
มู่หวั่นโจวมองฮ่อฉวนสือด้วยดวงตาแดงก่ำและบีบแก้วไวน์แดงในมือแน่น
กงมูป๋ายที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดแล้ว การตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ เขาถูกลิขิตให้ต้องทนกับเรื่องพวกนี้
เขากลับไปที่ตำแหน่งของเขาอย่างเงียบๆ และจิบไวน์อย่างเศร้าหมอง
สือฮว่าที่กำลังจะหาที่นั่งก็มีคนคว้าข้อมือเธอไว้ เธอหันไปมองก็เห็นเป็นซิ่วหยู
ซิ่วหยูเลิกคิ้วขึ้นมองพร้อมกับแววตาที่ร้ายกาจ "ฉวนสือ ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม ที่แท้เธอก็คือสือฮว่า วันนั้นที่เห็นเธอที่คาสิโน ถือเป็นการเปิดหูเปิดตาฉันได้มากเลย"
ทุกคนต่างรู้ดีว่าซิ่วหยูเป็นคนอารมณ์ร้าย ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาในตระกูลดีแต่กลับเป็นคนพาล
ว่ากันว่าเขาถูกส่งไปเข้าหน่วยเพราะเขาไปฉกผู้หญิงที่เป็นอาจารย์ เดิมที่พวกเขาราวกับเส้นขนาน แต่ซิ่วหยูที่เจออีกฝ่ายครั้งเดียวในร้านอาหาร วันต่อมาก็พุ่งไปฉกตัวเขาถึงที่บ้าน
เดิมทีผู้หญิงคนนี้มีแฟนอยู่แล้ว แต่ซิ่วหยูไปแยกพวกเขาแล้วเอามาไว้ข้างกายตัวเอง
เขาคิดว่าหลังจากดูแลสักปีสองปี ผู้หญิงอาจใจอ่อน แต่ตอนที่เขาจูบปากเธอครั้งแรกกลับโดนแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายจนเข้าไอซียู
แน่นอนว่าไม่มีทางซ่อนเรื่องนี้จากตระกูลซิ่วได้ ผู้หญิงคนนั้นโดนคุณท่านซิ่วยัดเข้าตาราง พอซิ่วหยูฟื้นก็ไปเอาตัวออกมา
คุณท่านซิ่วแห่งตระกูลซิ่วโกรธมากและบอกว่าเขาจะไม่มีวันให้ทั้งสองคบกันและเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นโดนบังคับ ก็โกรธมากจนเกือบจะฆ่าหลานชายตัวเอง ถ้าไม่โดนคนอื่นขวางไว้ ซิ่วหยูก็คงตายไปนานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้