หนานชสือผงะ ท่านประธานโกรธคุณสือจริงหรือเนี่ย?
เขาเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง และคิดว่าดวงอาทิตย์ของวันนี้อาจจะขึ้นทางทิศตะวันตก
คนๆนี้ไม่เคยเสียเวลากับเรื่องอะไรพวกนี้มาก่อน
"ออกไปได้แล้ว"
เสียงของฮ่อฉวนสือเย็นชา มือของเขาแตะแป้นพิมพ์ตลอดเวลาอย่างไม่บอกอารมณ์ใด
หนานสือพยักหน้าอย่างรวดเร็วและตอนออกมาก็ไม่ลืมปิดประตูห้องทำงานอย่างมีสติ
มือของฮ่อฉวนสือที่กดแป้นพิมพ์หยุดลงทันที คิ้วขมวดก่อนจะกดต่อไป
อีกด้านหนึ่ง สือฮว่าจ้องไปที่โทรศัพท์อย่างทำอะไรไม่ถูก
เธอยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่เท้า อกไปไหนมาไหนก็ต้องมีคนไปรับไปส่ง แถมฮ่อฉวนสือก็อยู่ที่ตี้เซิ่ง ถ้าเธอออกไปหาลำพัง ต้องมีข่าวลืออีกมากแน่
เธอที่กำลังจะยอมแพ้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย
"คุณสือครับ ญาติของคุณมาวุ่นวายอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวันแล้ว ปั่นป่วนไปหมดเลยจนพวกเราจะรับมือไม่ไหวแล้วครับ"
เป็นบอดี้การ์ดของเธอที่จัดเตรียมไปปกป้องคุณยายของเธอ
เมื่อสือฮว่าได้ยินดังนั้น เธอก็รู้สึกโกรธ ตอนนี้คุณยายกำลังป่วยหนักและต้องการไตที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วน พวกลูกพี่ลูกน้องที่ไม่เคยออกเงินเลยสักบาทดันไปก่อเรื่องไปโรงพยาบาล!
เธอรีบขอให้คนรับใช้ของตระกูลฮ่อช่วยเข็นเธอออกไป เธอต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูยายของเธอ
ทันทีที่เธอถูกเข็นออกจากลิฟต์ เธอก็ได้ยินเสียงดังข้างนอก
"นั่นคือยายของฉัน! พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาขวางพวกเรา! ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันจะโทรหาตำรวจนะ!"
มีพยาบาลหลายคนยืนอยู่ตรงโถงทางเดินด้วยสีหน้าลำบากใจ คนพวกนี้มาที่นี่ตั้งแต่เที่ยงและก่อเรื่องมาจนถึงตอนนี้
พูดยังไงก็ไม่ฟัง พอเข้าไปโดนตัว พวกเขาก็ล้มลงกับพื้นร้องไห้จนรบกวนคนอื่น
รอบๆมีแต่ห้องคนไข้ และผู้ป่วยจำเป็นต้องพักผ่อน แต่ก็ไม่สามารถคุยเหตุผลกับคนพวกนี้ได้เลย
เมื่อสือฮว่าเห็นใบหน้าของพวกเขา ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที ต้องมีคนคอยชี้ทางแน่คนพวกนี้ถึงได้รู้ห้องของคุณยายได้
"สือฮว่า เธอมาแล้วเหรอ เรามาที่นี่เพื่อขอความยุติธรรมจากคุณยาย"
"จะให้ท่านตื่นมาสั่งสอนเธอ พอเธอมีดีก็เริ่มดูถูกเรา"
สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ถ้าคุณยายเป็นคนเริ่ม สือฮว่าเสร็จแน่
"ไสหัวไปซะ!"
สีหน้าของสือฮว่าเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ เธอจ่ายเงินไปมากเพื่อช่วยชีวิตคุณยาย คนพวกนี้เข้ามาก่อเรื่องหวังจะให้คุณยายตาย!
"สือฮว่า?! เธอพูดอะไร! เธอพูดกับเราแบบนี้ได้ยังไงกัน เธอนี่มันเหมือนแม่เธอไม่มีผิด พวกไร้มารยาท!"
สือฮว่าเกลียดถึงการพูดถึงหลิ่วชิงเฉี่ยนมากที่สุดในชีวิต ไม่ว่าโลกภายนอกจะพูดถึงยังไง อย่างน้อยในฐานะแม่ หลิ่วชิงเฉี่ยนก็มีคุณสมบัตินั้นอยู่
เธอให้ชีวิต จากไปก็ยังทิ้งเงินจำนวนมากไว้ให้เพื่อไปโรงเรียน แม้ว่าจะเพราะโรคซึมเศร้าเลยทุบตีและดุด่าตัวเองบ่อยครั้ง
แต่หลิ่วชิงเฉี่ยนในเวลานั้นก็เจ็บปวดมากกว่าเธอสิบเท่า ดังนั้นเธอจึงไม่เคยโทษแม่
"แม่เธอไปขายตัว อย่าคิดว่าพวกเราจะไม่รู้ ไม่งั้นเธอจะไปเอาเงินมากมายนั่นมาจากไหนในเวลาสั้นๆล่ะ ได้ยินมาว่าเธอโดนพวกภรรยาคนรวยเทรมานจนตาย ใครให้เธอไปคว้าสามีคนอื่นล่ะ สมน้ำหน้า! แม่แบบนั้นจะไปสอนลูกได้ยังไงกัน"
เป็นลูกพี่ลูกน้องคนโตของสือฮว่าที่พูดอย่างเหนือกว่า ไม่รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิด
คนในบ้านเกิดพูดถึงหลิ่วชิงเฉี่ยนอยู่ตลอด ทุกคนสงสัยว่าเงินของหลิ่วชิงเฉี่ยนได้มาจากการขายร่างกายของเธอ หลังจากนั้น หลิ่วชิงเฉี่ยนก็หอบลูกกลับบ้าน ดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงที่โดนทอดทิ้ง
ดังนั้นชื่อเสียงของหลิ่วชิงเฉี่ยนเลยยุ่งเหยิงแ แม้แต่สือฮว่าก็พลอยโดนไปด้วย
ดวงตาสือฮว่าอันแหลมคมของสือฮว่าเหลือบไปเห็นบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ "โยนเธอออกนอกหน้าต่างไปเลย"
สีหน้าของบอดี้การ์ดฉายแววลำบากใจ โยนออกไป? แต่นี่คือญาติของเธอเลยนะ
ผู้หญิงคนนั้นตกใจกลัวในพริบตาเดียวก่อนถอยหลังกลับไป "สือฮว่า นี่แกกล้า! แม่เธอทำเรื่องแบบนั้นยังไม่ให้คนอื่นพูดอีก เหอะ คิดว่าไม่มีใครรู้ว่าแม่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนงั้นเหรอ! ฉันจะบอกอะไรให้ แม่เธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของคุณยายด้วยซ้ำ คุณยายรับมาเลี้ยง ดีที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ พวกเราก็ไม่อยากมีผู้หญิงไร้ยางอายมาเป็นญาติหรอก!"
สือฮว่าถึงกับผงะ แม่ไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณยาย? เธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
แต่พอคิดไปก็ดูจะเข้าท่า
สภาพในชนบทไม่ค่อยดีนัก แม่ไปจิงตูเพื่อทำงาน เพราะเธอสวยเลยหลงเข้าไปในแวดวงบันเทิงและได้พบกับสือเฉียงที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจในเวลานั้น ตอนนั้นไม่มีเงิน ไม่มีเงินทุน แม่เลยนำของที่ติดตัวไป ขายสร้อยข้อมือเป็นเงินก้อนโต
ตามทรัพย์สินของครอบครัวของยาย คงไม่มีสร้อยข้อมือมีค่านั้นได้ ตัวตนที่แท้จริงของแม่คือใครกันแน่?
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นท่าทางหม่นหมองเธอก็คิดว่าเธอกลัวและเลิกคิ้วอย่างมีชัย "แม่เธอคงไม่รู้ว่าเธอมาจากไหนด้วยซ้ำ เหอะ แม่เธอมันป่าเถื่อน ชั้นต่ำ เรามาหลบภัยกับเธอ เพราะเห็นเธอมีค่า อย่ามาหน้าด้านหน่อยเลย!"
สือฮว่าเงยหน้าขึ้นส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ด
บอดี้การ์ดเดินตรงมาที่ผู้หญิงโดยไม่ลังเล ก่อนยกเธอขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง
สือฮว่าก้มหน้าลงและค่อยๆบีบมือแน่น
"ครอบครัวของคุณยาย สามารถปลูกถ่ายไตได้ไหมคะ"
ถ้าทำได้ ถ้าให้เงิน คนพวกนั้นก็ต้องยอมแน่
สีหน้าของแพทย์ที่ดูลำบากใจแต่ในที่สุดก็บอกความจริงที่ซ่อนตัวอยู่
"คุณสือครับ คุณยายมีกรุ๊ปเลือดพิเศษมากเป็นเลือด RHลบ ที่หายาก กรุ๊ปเลือดนี้หายากมากในประเทศ แม้แต่การถ่ายเลือดก็หายากมากยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปลูกถ่ายไต กรุ๊ปเลือดในหมู่ญาติของคุณมีน้อยมาก หากถ่ายเลือดผิดก็อาจทำให้อวัยวะล้มเหลวและถึงขั้นเสียชีวิตได้"
สือฮว่าไม่ได้พูดอะไร ตอนยังเป็นเด็กเคยตรวจร่างกายที่ถูกจัดขึ้นในชนบท เป็นความจริงที่ว่าไม่มีใครมีกรุ๊ปเลือดนี้
"คุณสือ ผมไม่อยากบอกความจริงกับคุณเลย ผมอยากให้คุณมีความหวัง แต่คุณยายของคุณกรุ๊ปเลือดพิเศษ ดังนั้นโปรดเตรียมใจด้วยนะครับ"
ดวงตาของสือฮว่าเป็นสีแดงในทันที ลำคอก็แหบแห้ง "ฉันเข้าใจแล้วค่ะหมอ ขอบคุณค่ะ"
หลังจากออกจากห้องทำงาน เธอเห็นบอดี้การ์ดหลายคนกำลังอธิบายกับตำรวจ รู้ว่าพวกเขาถูกส่งมาโดยตระกูลฮ่อ ตำรวจก็ไม่ได้อะไรมากก่อนจะออกไป
"เข็นฉันกลับที"
เธอพูดกับคนรับใช้ที่อยู่ข้างหลัง รู้สึกร่างกายเหนื่อยล้าเหลือเกิน
คืนนี้ เธอฝันมากมาย เดี๋ยวก็ยายที่กอดเธอแล้ววิ่งข้ามสันเขา เดี๋ยวก็แม่ที่จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เธอตกใจจนเหงื่อออกแล้วรีบเปิดไฟข้างเตียง
เธอไม่ได้ฝันถึงผู้หญิงคนนั้นมานานมากแล้ว ความทรงจำของเธอก็คลุมเครือมาก รู้แค่ว่าเธอจากไปตอนเที่ยงและไม่กลับมาอีกเลย หลังจากนั้นก็ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเธอ
คุณยายที่อุ้มเธอในตอนเด็กไปที่หมู่บ้านเพื่อเก็บขี้เถ้า ไม่มีใครบอกว่าแม่ของเธอเสียชีวิตได้ยังไง มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับแม่ในหมู่บ้าน ทุกคนคิดว่าแม่ของเธอโดนคนรวยจัดการ
แต่เธอไม่เชื่อ ต่อมาเธอได้ถามยายของเธอหลายครั้ง แต่คุณยายก็ไม่รู้
ความทรงจำที่เธอที่มีต่อผู้หญิงคนนั้นคือเธอเดินตามผู้ชายสองสามคนในเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำออกไป ทุกคนต่างบอกว่านั่นคือก้อนเงินของเธอ บอกว่าเธอทำตัวไม่ดี
สือฮว่ากระพริบตา เธอได้รับความรักของแม่น้อยจนน่าสงสาร แต่ก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นรักเธอ
ผู้ชายชุดดำสวมแว่นกันแดด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหน้าตาเป็นยังไง ตอนเธอตามไปก็เห็นเพียงรอยสักที่คอเท่านั้น
งูเห่าที่ชูคอขึ้น ลายนั่นยาวเท่านิ้วนาง เธอจำได้อย่างชัดเจน
แต่หลายปีที่ผ่านมา เธอก็ไม่เคยเห็นผู้ชายที่มีรอยสักแบบนั้นอีกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้