นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 407

ซือรั่วเฉินพูดถูก คนเราควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะโดยพื้นฐานเพราะโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ

ซือรั่วเฉินได้เริ่มหาผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อซื้อหุ้นแล้ว และเขายังคงเสนออนาคตที่สดใสและราคาอีก 3 เท่า ธรรมชาติของมนุษย์ต่างก็แสวงหาข้อดีและเลี่ยงความอันตราย ไม่มีใครไม่ใจเต้นหรอก

ฮ่อฉวนสือเป็นผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุดและซือรั่วเฉินก็ซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด ไม่ได้คุกคามตำแหน่งประธานอย่างฮ่อฉวนสือ แต่ด้วยส่วนแบ่งของเขาแล้ว ในอนาคตเขาจะเข้าสู่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ซึ่งในสายตาของคนภายนอก MS กรุ๊ปได้เข้าซื้อกิจการตี้เซิ่งไปแล้วครึ่งหนึ่ง

ใบปริญญาที่สองของสือฮว่าคือเศรษฐศาสตร์ แต่วงการเงินที่แท้จริงนั้นสกปรก เป็นการแข่งขันระหว่างคนฉลาดกับคนฉลาด

เท้าข้างหนึ่งของเธอเพิ่งก้าวเข้าไป เธอจะไปกล้าเทียบกับพวกที่อยู่มานานหลายปีได้ยังไง

ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้น สือฮว่าก็ได้สูญเสียพลังไปแล้ว

ในช่วงครึ่งวันนี้ เธออ่านหนังสือจนแทบบ้าเพื่อซึมซับความรู้ทุกรูปแบบ

อย่างไรก็ตามข่าวลือจากโลกภายนอกเริ่มรุนแรงขึ้น และบางคนก็เผยแพร่ข่าวลือว่า MSกรุ๊ปจะซื้อตี้เซิ่ง

ถ้าสือฮว่ายังคงอยู่เฉียนสุ่ยวาน เกรงว่าอีกสองสามวันตี้เซิ่งต้องถูกซือรั่วเฉินยึดครองแน่

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เธอตรงไปที่ตี้เซิ่ง

ซือรั่วเฉินค่อยๆผ่านพวกผู้บริหารระดับสูง และเธอเหลือเวลาไม่มากนัก

สือฮว่านั่งบนเก้าอี้ที่ห้องทำงานของฮ่อฉวนสือ เธอเอื้อมมือไปลูบโต๊ะด้วยแววตาที่วูบไหว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตี้เซิ่งตกอยู่ในวิกฤต ครั้งก่อนที่ฮ่อฉวนสือไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ผู้บริหารระดับสูงที่มีความทะเยอทะยานหลายคนก็ต้องการเลือกประธานใหม่

เธอดูที่ใบเรียกเก็บเงินประจำปีของตี้เซิ่ง และกำหนดการหมุนเวียนของเงินทุนที่เธอสามารถใช้ได้ จากนั้นเธอก็เรียกหนานสือ "ซือรั่วเฉินตอนนี้กำลังซื้อหุ้นของเราและเรายังสามารถซื้อหุ้นของ MSกรุ๊ปผ่านตลาดรองได้"

หัวใจของหนานสือสั่น ซือรั่วเฉินมีความทะเยอทะยานที่จะได้ตี้เซิ่งและคุณสือต้องเผชิญกับความท้าทายและเดินเข้าด้านหลัง MSกรุ๊ปเพื่อดำเนินการตามแผนการซื้อกลับ

นี่เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ หากลงทุนทั้งหมดของตี้เซิ่ง บริษัทใหญ่เช่นนี้คงจะไม่สามารถดำเนินการได้ต่อ

สงครามธุรกิจจริงมันน่ากลัว ฝ่ายระดับสูงต่อสู้กันแต่ฝ่ายที่โชคร้ายเป็นคนที่ไม่มีปากมีเสียง ถ้าสองฝ่ายสู้กันแบบนี้ ต้องมีคนไม่น้อยที่จะทั้งขายหุ้นและซื้อหุ้นแน่

ความประมาทเพียงเล็กน้อยอาจถูกทำลายได้

"คุณสือ ท่านประธานไม่อยู่ เกรงว่าแผนใหญ่อย่างนี้..."

สือฮว่าชำเลืองมองเขา "ถ้าเราไม่เริ่มโจมตี งั้นคุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร? นั่งรอความตาย? ฉันว่าซือรั่วเฉินมีหุ้นมากกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ของตี้เซิ่งอยู่ในมือแล้ว หากผู้บริหารระดับสูงที่เหลือทั้งหมดล้มเหลว เขาจะเข้าสู่สำนักงานใหญ่ของตี้เซิ่งได้อย่างราบรื่น ตอนนี้ฮ่อฉวนสือไปต่างประเทศ เราก็ไม่รู้สถานการณ์ของเขา ถ้าเขากลับมา ทุกอย่างจะสายเกินไป หนานสือ คุณเชื่อฉัน เขาคือสามีของฉัน กำลังใจของฉัน ฉันไม่มีทางทำร้ายเขา ฉันจะทำอย่างดีที่สุด"

ไฟในใจของหนานสือถูกจุดขึ้นทันที แผนการย้อนกลับ ใครแพ้ก็ต้องถอนตัวจากตลาดจิงตู

อย่างที่คุณสือพูด ถ้าไม่เผชิญกับความยากลำบากแล้วรอท่านประธานกลับมาก็จะสายเกินไป

ธรรมชาติของมนุษย์คือความเห็นแก่ตัว ในเมื่อผู้บริการระดับสูงมีโอกาสและสามารถทำเงินได้มากพร้อมๆกัน แล้วจะอยู่ที่ตี้เซิ่งไปทำไม

คนสวยของเวินเซ่อที่จิงตูมีชื่อเสียงมาก ผู้บริหารระดับสูงบางคน ผู้หญิงคนเดียวก็เอาอยู่ แต่บางคนก็ใช้สี่คนถึงคลายได้

ซือรั่วเฉินยุ่งอยู่กับการจัดการกับตี้เซิ่ง กลับไม่ได้สังเกตว่าหลังบ้านตัวเองไฟไหม้แล้ว และเขาคงไม่คิดว่าสือฮว่าเลือกที่จะต่อสู้กลับ แถมใช้หลักการหรือวิธีการของผู้อื่นมาฝึกฝนตัวเองอีก

ฮีโร่แพ้เพราะหลงในตัวผู้หญิง และสือฮว่าเป็นผู้หญิง ถึงได้คิดวิธีนี้ขึ้นมา ในสายตาของคนอื่นอาจจะหยาบคายแต่ก็ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ที่คุ้มค่าคือ กงมู่ป๋ายครั้งนี้ช่วยเธอไว้มาก ได้ยินมาว่าเธอเลือกผู้หญิงที่เวินเซ่อและส่งคนที่เธอซ่อนไว้อย่างดีอย่างใจกว้างด้วย

นายน้อยผู้งดงามอย่างกงมู่ป๋ายกับฮ่อซือหนานมีชื่อเสียงมาก คนสวยที่เขาซ่อนไว้ต้องมีคุณภาพดีแน่

สือฮว่ารับของขวัญอย่างตรงไปตรงมา เดิมอยากโทรไปขอบคุณด้วยตัวเอง แต่เสียงของกงมู่ป๋ายทางนั้นเหมือนจะสั่นตลอดเวลา ใครก็ฟังออกว่าเขาประหม่ามาก ประหม่าจนเสียงสั่นเทา

สือฮว่ารู้สึกงุนงงและหัวเราะเบาๆ "รอฉันเสร็จงานแล้วจะเลี้ยงข้าวคุณนะ ถือเป็นการขอบคุณแล้วกันนะ"

กงมู่ป๋ายรีบโบกมือและพูดว่า "ไม่ต้องไม่ต้อง"

เขาแทบจะวางสายอย่างรีบร้อน ใบหน้าแดงก่ำราวกับว่ามีไข้สูง

สือฮว่ารับความใจดีของเขา รูปลักษณ์คนสวยพวกนี้ดูดีที่สุดในบรรดาสาวงาม ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำให้ผู้ชายพอใจเก่งอีกด้วย

สิ่งที่ชีวิตหนึ่งของผู้ชายที่ชอบที่สุดนอกจากเงินทองและอำนาจแล้ว ก็คือผู้หญิงงามที่ไม่มีใครหนีพ้น