องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 154

ภายในห้องเรือนหลั่นชิง หยุนหลิงเหลือกับข้าวไว้ให้เขาครึ่งโต๊ะ เย็นไปแล้วหลายรอบและนำไปอุ่นมาใหม่ ตอนนี้ยังอุ่นอยู่บ้าง

เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร เซียวปี้เฉิงที่ไม่ค่อยได้กินอะไรมาทั้งวัน ค่อยรู้สึกหิวขึ้นมา นั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหารแล้วก็กินอย่างมุมมามขึ้นมา

หยุนหลิงยังไม่หลับ กำลังอ่านตำราแพทย์ที่เยียนอ๋องมาเอามานาง เมื่อเห็นแล้วก็เดินมานั่งลงข้างโต๊ะ

“ทำไมถึงได้หิวขนาดนี้ อยู่ในวังเสด็จพ่อไม่ให้เจ้าทานข้าวหรือ?”

เซียวปี้เฉิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “เสด็จพ่อโกรธโมโหจนอิ่มแล้ว ยังจะเลี้ยงข้าวอะไรข้า”

หยุนหลิงไม่รู้เรื่องเวินหวยหยู นึกว่าเจาเหรินตี้โกรธโมโหเพราะเรื่องไส้ศึกทูเจวี๋ย สายตาของนางมองเห็นบาดแผลบนหน้าผากเซียวปี้เฉิง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะเบาๆ

เซียวปี้เฉิงร้องเจ็บขึ้นมา

“ข้าไปเอายามาทาให้เจ้า เสด็จพ่อก็จริงๆเลย ไม่รู้หรือว่าการตีคนไม่ควรที่จะตีหน้า? ทำไมถึงมาทำร้ายบนใบหน้าของเจ้า”

หยุนหลิงไม่ใช่คนที่เห็นแก่ความงาม แต่นางก็ต้องยอมรับว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวที่ทำให้นางรู้สึกพึงพอใจก็ใบหน้านี้แหละ

เซียวปี้เฉิงก็ไม่พูดอธิบายเหตุผล ปล่อยให้หยุนหลิงเอายามาช่วยทาให้กับเขา ดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย มุมปากอมยิ้ม

เพราะความเป็นห่วงเป็นใยของหยุนหลิงในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกมีความสุข อดไม่ได้ที่จะคว้าจับมือของอีกฝ่าย ฝ่ามือรู้สึกนุ่มนวลและอบอุ่น

“เป็นห่วงข้าหรือ?”

หยุนหลิงหยุดชะงัก ลักษณะท่าทีทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ช้าก็ชักมือตบหน้าเซียวปี้เฉิงด้วยท่าทีรังเกียจ

“สำรวมหน่อย แค่ทายาให้เจ้ายังจะมาลวนลามข้า เลี่ยนไหม”

เซียวปี้เฉิงถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เดิมเสด็จพ่อก็ไม่พอใจกับการที่พี่ใหญ่ดื้อดึงจะแต่งงานกับฉู่หยุนหาน ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ ยิ่งรู้สึกผิดหวังอย่างมาก”

หยุนหลิงพยักหัว เกิดเรื่องแบบนี้แทรกขึ้นมา นางคิดว่าต่อไปคิดอยากให้ตวนอ๋องเป็นองค์ชายราชทายาทนั้นคงยาก นอกเสียจากหลังสืบเรื่องนี้แล้ว เหลียนฮูหยินกับฉู่หยุนหานต่างไม่เกี่ยวข้องกับคนทูเจวี๋ย

นางถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจว่า “น่าเสียดายจริงๆ หรงฉานที่งดงามสดใสคนหนึ่ง ถูกพวกเขายกให้คู่ครองกับสมองหมูอย่างตวนอ๋อง เดิมนางเป็นคนที่ไม่มีพิษมีภัยอะไรคนหนึ่ง ต่อไปเมื่อมีลูกกับตวนอ๋อง ลูกจะโง่แค่ไหน”

หยุนหลิงเพิ่งพูดเสร็จ คู่สามีภรรยาใหม่ที่กำลังทะเลาะกันอยู่ต่างก็จามขึ้นมา

เซียวปี้เฉิงอมยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “การแย่งชิงอำนาจนั้นโหดร้ายแบบนี้แหละ เกิดมาในราชวงศ์และตระกูลขุนนาง ไม่มีใครสามารถแต่งงานได้เองตามความประสงค์”

ตวนอ๋องเป็นแบบนี้ เขาเองก็เป็นแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว เขาโชคดีกว่าตวนอ๋อง