“พวกเขามาได้ยังไง?”
เฉียวเย่ตอบว่า “เฟิงฮูหยินกับคุณชายเฟิงนำของขวัญมาจำนวนมาก บอกว่าตั้งใจมายินดีที่พระชายาตั้งครรภ์ และมาขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้กับจวนจิ้งอ๋องด้วยขอรับ”
“เรื่องก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว จะมาก็คงมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ทำไมถึงนึกขึ้นได้ว่าจะมาล่ะ? มากะทันหันแบบนี้ จะต้องคิดไม่ซื่อแน่ๆ”
เซียวปี้เฉิงกับหยุนหลิงคิดเหมือนกัน เฟิงฮูหยินรักลูกชายอย่างกับอะไรดี ครั้งก่อนเฟิงเหยียนถูกพวกเขาสั่งสอนขนาดนั้น ไม่ได้กินพวกเขาทั้งเป็นก็ไม่เลวแล้ว จะมาขอโทษได้ยังไงกัน
แต่เฟิงฮูหยินมาเอง เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวแทนของจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิง จะไล่กลับไปก็ไม่ได้
เซียวปี้เฉิงรู้ดีแก่ใจ จวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิงข่าวเร็วอย่างกับอะไรดี คงจะรู้เรื่องที่เขามีโอกาสกลับมาเห็นได้อีกครั้ง ก็ถงหาข้ออ้างมาเยี่ยม
“เฉียวเย่ เจ้ารับเฟิงฮูหยินไปรอที่ห้องโถงก่อน เดี๋ยวข้าตามไปทีหลัง”
หยุนหลิงหรี่ตา ไม่สนใจตวนอ๋องอีก นางเข้าไปพยุงเซียวปี้เฉิงเดินไปที่ห้องโถง
พอเดินเข้าไป ก็เห็นกล่องสีแดงเล็กๆใหญ่ๆกองอยู่เต็มห้องโถงอันกว้างใหญ่ กองเหมือนภูเขาเลย
ฮูหยินเฟิงมีรูปหน้าทรงไข่สายตาคม รักษาผิวได้ดีมาก ดูเหมือนหญิงอายุสามสิบต้นๆ
พอเจอหยุนหลิง นางก็ลดสายตาเย็นชาลง แล้วเดินเข้าไปรับด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เจอกันนานหลายวัน ท่านอ๋องกับพระชายาสบายดีไหมเจ้าคะ?”
เซียวปี้เฉิงสีหน้าเรียบเฉย ตอบอย่างเฉยชาว่า “ขอบใจที่เฟิงฮูหยินเป็นห่วง ข้าสบายดี”
เพิ่งพูดจบ เฟิงฮูหยินก็เห็นตวนอ๋องที่อยู่ด้านหลัง สายตาก็เป็นประกายทันที
“บังเอิญจัง ท่านตวนอ๋องก็อยู่เหรอ?”
ตวนอ๋องทักทายอย่างไม่คุ้นชิน “ขอคารวะป้าสะใภ้”
ฮองเฮาในตอนนี้คือหญิงสกุลเฟิง ตวนอ๋องกับเฟิงเหยียนเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เฟิงเหยียนมีชื่อเสียงที่ไม่ดีภายนอก ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเรียบเฉยมาตลอด
แต่เฟิงฮูหยินลับเป็นมิตรมาตลอด ทักทายจนตวนอ๋องรับไม่ไหว
เป็นไปตามที่คิดไว้ พอเห็นตวนอ๋องมาด้วย เฟิงฮูหยินก็ทิ้งเซียวปี้เฉิงสองสามีภรรยาไว้ข้างหลัง พูดคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบกับเขา
“ช่วงนี้ฮองเฮาสบายดีหรือไม่?”
“ได้ยินว่าองค์หญิงหกไปพักผ่อนที่วัด จะกลับมาวันไหนหรือ? ลูกสาวของข้าอยากไปเยี่ยมหานางมากเลยนะ”
“สีหน้าของท่านตวนอ๋องดูไม่ดีมาก ช่วงนี้อ่านหนังสือจนดึกดื่นหรือเปล่า?”
ในตอนที่ตวนอ๋องไม่รู้ว่าจะตอบเฟิงฮูหยินยังไง หยุนหลิงก็สังเกตเห็น สายตาที่ดุร้ายดั่งงูพิษกำลังจ้องเขม็งมาที่ตัวเอง
นางหันไปมอง เฟิงเหยียนที่ไม่ทันระวังก็สบตากับนางเข้าอย่างจัง เขารีบลดสายตาลงอย่างรวดเร็ว
“ข้ารู้สึกว่าสองแม่ลูกนี่คิดไม่ซื่อ”
ได้ยินนางพึมพำเสียงเบา เซียวปี้เฉิงก็พูดเสียงเบาว่า “ของที่ตระกูลเฟิงส่งมาให้อย่าใช้เลย เดี๋ยวรับไว้แล้ว ค่อยหาเหตุผลขายออกไป แลกเงินกลับมาใช้ก็ได้แล้ว”
หยุนหลิงพยักหน้า ใช้สายตาสอดส่องไปยังของขวัญที่กองเป็นภูเขาอย่างละเอียด
ไม่ลองไม่รู้ พอได้ลองแล้วก็ตกใจหมด
สายตาของนางมืดมนลง นางรีบกระซิบพูดกับเซียวปี้เฉิง “ของขวัญพวกนั้นเหมือนจะมีสัตว์อยู่ด้วยนะ”
พลังวิญญาณมีระบบหนึ่ง นั่นก็คือการสอดส่องสิ่งมีชีวิตรอบกาย
ชาติก่อน ตอนที่หยุนหลิงอยู่ในสมาคม ความสามารถนี้เป็นวิชาที่นางเลือกเรียน เด็กที่มีระบบพลังวิญญาณจะมีความสามารถด้านนี้อยู่แล้ว
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
เฟิงเหยียนที่ยืนอยู่มุมห้องจนจะกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอยู่แล้ว ก็ถึงพูดขึ้นอย่างลีลาและไม่พอใจ
“เดือนก่อน หน้าประตูจวนเหวินกั๋วกง ข้าพูดจาไม่ดีต่อจิ้งอ๋องกับพระชายา ถูกท่านปูลงโทษ ข้ารู้ว่าตัวแล้วว่าตัวเองทำผิดครั้งใหญ่ ล่วงเกินท่านทั้งสอง ขอท่านทั้งสองให้อภัยด้วย”
ไม่รอเซียวปี้เฉิงกับหยุนหลิงตอบ เฟิงฮูหยินก็รีบแย่งพูดว่า “ลูกชายไม่รู้เรื่องรู้ราว จิ้งอ๋องอย่าว่าอะไรเขาเลย ท่านตวนอ๋องปกติก็เป็นคนใจดี ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็มักจะปรองดองกันไว้เสมอ เจ้าเป็นพี่ใหญ่ ไว้หน้าป้าสะใภ้สักครั้ง บอกให้พวกเขาสองพี่น้องคืนดีกันหน่อย”
หยุนหลิงฉีกยิ้มเล็กน้อย ในใจกลับกลอกตามองบนไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เฟิงฮูหยินกล้าดียังไงกันนะ
เห็นได้ชัดว่าตวนอ๋องไม่ถนัดจัดการคนหน้าหนาแบบนี้ มองเซียวปี้เฉิงกับหยุนหลิงอย่างลังเล “น้องสาม ในเมื่อป้าสะใภ้พูดเช่นนี้แล้ว……”
“ในเมื่อเฟิงฮูหยินกับคุณชายเฟิงตั้งใจมาก้มหน้าขอโทษจากใจจริง พวกเราจะไม่ให้อภัยได้ยังไงล่ะ?”
หยุนหลิงยิ้มตาหรี่แล้วพูดตอบ เฟิงฮูหยินแอบมองค้อนนาง
ยัยคนปากร้าย นางก้มหน้าขอโทษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ตวนอ๋องมองหยุนหลิงอย่างตกตะลึง เห็นได้ชัดว่า เขาคิดไม่ออกว่าด้วยนิสัยที่ร้ายกาจของนางแล้ว จะยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ยังไง
เซียวปี้เฉิงพูดโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนว่า “ฮูหยินนำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้แบบนี้ เห็นได้ถึงความจริงใจ หากถือโทษคุณชายต่อไป ท่านอ๋องคงจะดูเป็นคนใจแคบเกินไป”
นางปีศาจน้อยตนนี้ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องผ่านไปง่ายๆแน่ เซียวปี้เฉิงรู้จักนิสัยของหยุนหลิงดี จึงปล่อยให้นางพูดต่อไป
“แต่ไม่รู้ว่าของขวัญพวกนี้ คุณชายเฟิงได้เตรียมชิ้นไหนไว้บ้าง?”
เซียวปี้เฉิงรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก เฟิงฮูหยินเลิกคิ้วขึ้น เริ่มทำการแนะนำของขวัญพวกนี้ น้ำเสียงมีความภาคภูมิและโอ้อวด
ตระกูลเฟิงค่อนข้างมีเงิน แม้จะเป็นคนในราชวงศ์ ก็ยังเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลย
ใช้โอกาสที่เฟิงฮูหยินพูดอยู่ตงชิงก็แอบเดินกลับเข้ามาในห้องโถง นำยาหอมส่งให้หยุนหลิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ