นางเล่นไม้เท้าของไท่ซ่างหวงในมือ ฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างน่าสนใจ
ตงชิงที่อยู่ด้านหลังได้ยินแล้ว ก็โกรธจนกลอกตามองบน สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
นึกถึงพระชายาที่รักตวนอ๋องมากตงชิงก็อดไม่ได้มองไปยังหยุนหลิง กลัวว่านางจะเสียใจ
ยังดีที่หยุนหลิงเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรตงชิงจึงโล่งอก
“ขอเสด็จพี่ระวังคำพูดด้วย หยุนหลิงเป็นพระชายาของข้า”
เซียวปี้เฉิงกระตุกยิ้ม มีความสับสนและประชด
“ตอนนี้นางท้องอยู่ และยังยุ่งกับงานในเรือน ดูแลข้า เสด็จปู่กับพวกผู้ชาย ถ้าข้าลงโทษนางแค่เพราะทะเลาะกับคนอื่นเล็กๆน้อยๆ นางคงจะรู้สึกเสียใจแย่”
หยุนหลิงหวั่นไหวตงชิงก็ซาบซึ้งจนแทบจะร้องไห้ออกมา
นางเข้าใจท่านอ๋องผิดไป คิดว่าเซียวปี้เฉิงตาบอดใจก็บอดด้วย ไม่คิดว่าเขาจะมีความคิดที่กระจ่างชัดเจนขนาดนี้!
ตวนอ๋องมองเขาด้วยสายตาตกตะลึง สายตาเหมือนตกใจและโกรธ ไม่เข้าใจความคิดของเซียวปี้เฉิงเลย
“เจ้าสาม เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ ตั้งเล็กจนโต คนที่ปกป้องหยุนหานมากที่สุดคือเจ้า เจ้ายังเคยสาบานว่าจะปกป้องนางไปตลอดชีวิต!”
ตงชิงโกรธจนแอบกัดฟันกรอด
เสียแรงที่ก่อนหน้านั้นนางยังแอบหลงรักตวนอ๋องอยู่บ้าง รู้สึกว่าอีกฝ่ายสุภาพอ่อนโยนเข้าหาง่าย ไม่เหมือนจิ้งอ๋องที่หน้าโหดเย็นชา
ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ตาบอดใจดำ!
“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไร หรือทำอะไร”
แตกต่างก็อาการกระตือรือร้นของตวนอ๋อง สีหน้าของเซียวปี้เฉิงนิ่งเฉยอยู่ตลอดเวลา แต่พอได้ยินคำพูดแบบนี้แล้ว สีหน้าก็เริ่มเย็นชาขึ้นมาทันที
“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของเมื่อวาน ข้าอนุญาตหยุนหลิงไปนานแล้ว คนทั่วไปไม่มีรับสั่งห้ามเข้าจวน”
ตวนอ๋องโกรธจนควันออกหู อดไม่ได้ตะคอกด่าเสียงดังว่า
“ได้……ได้! ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ามีความหวังให้ฉู่หยุนหลิงรักษาตาของเจ้าใช่ไหม เจ้าถึงได้ตามใจนางขนาดนี้ ถึงขนาดยอมทรยศมิตรภาพกับหยุนหานอีก! ข้ารู้สึกเสียใจแทนนางจริงๆ!”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเซียวปี้เฉิงก็มืดมนลงทันที กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด
“ทุกคนต่างก็รู้ว่าท่านตวนอ๋องจิตใจกว้างเสมือนหุบเขาและมหาสมุทร ตอนนี้เห็นแล้วคงจะเป็นจริงอย่างที่ว่า ช่างแปลกใจยิ่งนัก”
น้ำเสียงที่พูดขึ้นด้วยเสียงหัวเราะดังขึ้น ตวนอ๋องรีบหันไปมอง ก็เห็นหยุนหลิงถือไม้เท้ายืนอยู่นอกประตู
เมื่อวานตวนอ๋องเคยลองฝีปากที่สุดยอดของหยุนหลิงแล้ว ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้เลยว่านางไม่ได้ชมเขาอยู่
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
คงเป็นเพราะก่อนหน้านั้นเคยเสียเปรียบ ตอนที่เผชิญหน้ากับหยุนหลิง เห็นได้ชัดว่าตวนอ๋องดูหมดความมั่นใจไปเยอะ
“ข้าบอกว่าท่านตวนอ๋องจิตใจกว้างจังเลยนะ ทั้งที่รักน้องสาวนอกสมรสของข้ามาก ยังจะแสร้งมาพูดต่อหน้าท่านอ๋องของข้าโดยหน้าไม่เปลี่ยนว่าพวกเขาสองคนเคยเป็นคู่สร้างคู่สมและรักกันมากมาก่อน”
ตวนอ๋องหน้าแดงก่ำ แต่กลับไม่ได้ตอบโต้เรื่องที่เขาชอบฉู่หยุนหาน
หยุนหลิงหัวเราะแล้วมองเขา “ความเมตตาของท่าน ผู้คนเห็นแล้วคงพากันถอนหายใจ มีเพียงท่านที่ใช้ให้สามีข้าไปปกป้องหญิงอื่น ดูไม่มีเหตุผลเกินไปไหม?”
พูดตามตรง หยุนหลิงไม่เข้าใจความคิดของตวนอ๋องจริงๆ
ผู้ชายปกติทั่วไปเห็นผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบเลิกกับคู่รักแล้ว น่าจะดีใจมากไม่ใช่เหรอ จากนั้นก็รีบตามจีบจนติด
เห็นได้ชัดว่า ตวนอ๋องรู้ว่าตัวเองผิด สีหน้าจึงดูกระอักกระอ่วนและอึดอัด
คำพูดเมื่อกี้เขาแค่อยากจะพูดกับเซียวปี้เฉิงสองคน แต่ไม่คิดว่าหยุนหลิงจะมาได้ยินเข้า
“ข้า……”
สีหน้าของตวนอ๋องอึ้งมาก พี่น้องร่วมกันมายี่สิบกว่าปี นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวปี้เฉิงพูดกับเขาอย่างเย็นชาแบบนี้
“ท่านตวนอ๋อง สามีของข้าเป็นห่วงท่าน ให้ท่านกลับไปรักษาตัวที่จวน จะเรียกว่าไล่ได้อย่างไรกัน?”
หยุนหลิงควงไม้เท้าของไท่ซ่างหวงเล่น แล้วเดินเข้าไปใกล้ตวนอ๋องช้าๆ
“ถ้าท่านไม่เข้าใจว่าอะไรคือไล่ ข้าจะแสดงให้ท่านดูนะ”
สีหน้าของตวนอ๋องเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้า……เจ้าอยากทำอะไร มาเรือนซู่สือ เหตุใดต้องเอาไม้เท้ามาด้วย?”
“หื้ม นี่เป็นไม้เท้าของไท่ซ่างหวง ท่านให้ข้ามา”
หยุนหลิงชูไม้เท้าขึ้นควงสองที เหมือนกำลังทดลองความถนัดมือ
“ไท่ซ่างหวงบอกแล้วว่า ตอนที่เขาไม่อยู่ในจวน ถ้ามีหมาตัวไหนสะเออะเข้ามาหาเรื่องข้า ก็ใช้ไม้เท้านี่ปาดหัวมันไปแรงๆได้เลย!”
พอพูดจบ ตวนอ๋องก็รู้สึกปวดหลังหัวที่ถูกตีขึ้นมา
เขานึกถึงเหตุการณ์ที่ต้องเจอเมื่อวาน สายตาก็อดไม่ได้มองไปยังไม้เท้านั่น สีหน้าของเขาก็เกรงกลัวไปหมด
หยุนหลิงคงไม่ได้จะฟาดเขาใช่ไหม?
ไม่รู้ว่าทำไม ตวนอ๋องรู้สึกว่านางอาจจะทำจริงๆ
ยังดีที่เฉียวเย่มาช่วยตวนอ๋องได้ทันเวลา
“พระชายา ท่านอ๋อง เฟิงฮูหยินกับคุณชายเฟิงเหยียนจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิงขอเข้าพบขอรับ”
เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วแน่นเป็นปม “เฟิงเหยียน?”
หยุนหลิงครุ่นคิดสักพักใหญ่กว่าจะคิดออกว่าเฟิงเหยียนคือใคร นั่นคือคุณชายที่ตอนนางกลับบ้านแม่ แล้วถูกนางกับเซียวปี้เฉิงสั่งสอนที่หน้าประตูจวนเหวินกั๋วกงนี่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ