หนานกงเซวียนเยี่ยเดินไปฝนหมึกอีกด้าน
อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปมอง ก่อนจะหยิบกระดาษพู่กันมาเขียนบทกลอน
ปฐพีอันไร้ซึ่งรากเหง้า ไหนเลยจะกล้าร่ายกวีรัก เมฆีไร้จันทราพรรณนา กลับทางเดิมนั่นแลคือทางออก
หนานกงเซียนเยี่ยจดจ่อกับบทกวีสักพัก จากนั้นก็หยิบพู่กันเขียนเสริมหนึ่งประโยคว่า ฟ้าบันดาลบุพเพสันนิวาส
อวิ๋นจิ่นอึ้งชั่วครู่พลันปรายตามองหนานกงเซวีนเยี่ย
"องค์ชายรองอย่าได้ทำลายชื่อเสียงเพราะอวิ๋นจิ่นเลยองค์ชายรอง" อวิ๋นจิ่นรีบย่อกายคำนับ
หนานกงเซวียนเยี่ยเอื้อมพระหัตถ์จับข้อมืออวิ๋นจิ่น อีกฝ่ายรีบชักมือถอยหลัง
หนานกงเซวียนเยี่ยคลี่ยิ้มอ่อนโยน "คาดว่าเจ้ายังคงไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใด ที่นี่คือจวนอ๋องเจ็ด ข้าคือองค์ชายสองของท่านอ๋องเจ็ด ข้ามีนามว่า หนานกงเซวียนเยี่ย เป็นพี่น้องฝ่ายบิดากับองค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน
แต่หลายวันก่อนพี่ใหญ่ของข้าเกิดเรื่องที่ศาลพิเศษกลาง เพราะเรื่องนี้ท่านอ๋องเย่ก็พลอยโดนยาพิษไปด้วย ยามนี้ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือรอด
ตอนนี้จวนอ๋องเจ็ดของข้าตกกระไดพลอยโจนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เจ้าเห็นข้าเป็นองค์ชายวันนี้ แต่ไม่อาจล่วงรู้ว่าวันใดข้าจะไร้บรรดาศักดิ์ ไม่ใช่ถูกเนรเทศก็คือตัดหัวหลุดจากบ่า
หากเจ้าไม่ยินดีอยู่ ข้าก็จะไม่ฝืน ถ้าเกิดเจ้าอยู่ต่อ หากข้าผ่านมรสุมครั้งนี้ไปได้ ข้ายังสามารถเป็นองค์ชายสองของจวนอ๋องเจ็ด เชื่อว่าข้าจะเป็นทายาทสืบทอดฐานันดรแน่นอน
ข้ายินดีแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายาเอก เจ้ายินดีผ่านมรสุมครั้งนี้กับข้าหรือไม่?"
อวิ๋นจิ่นไตร่ตรองเนิ่นนาน "อวิ๋นจิ่นไม่คู่ควรเป็นพระชายาเอกหรอกเพคะ แต่อวิ๋นจิ่นยินดีอยู่ต่อเพคะ องค์ชายรองให้หม่อมฉันมีงานทำก็เพียงพอแล้วเพคะ"
"เจ้าอยู่ต่อก็ดี"
หนานกงเซวียนเยี่ยจับมืออวิ๋นจิ่น ทว่านางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย หนานกงเซวียนเยี่ยจึงคลายมือออก "อยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อน ว่างๆมาคุยเล่นกับข้าได้ มีอะไรก็สั่งข้ารับใช้ได้เลย หากเจ้าอยากไปเดินเล่น เจ้าก็เรียกสาวใช้ไปเป็นเพื่อนได้เลย"
"หากอวิ๋นจิ่นอยากเข้าพบองค์ชายรองล่ะเพคะ?" อวิ๋นจิ่นถาม
"ใช้คนไปเชิญสิ"
"ทราบแล้วเพคะ"
เป็นอันว่าอวิ๋นจิ่นตกปากรับคำจะอยู่ในจวนอ๋องเจ็ด คนในจวนรู้ว่าหนานกงเซวียนเยี่ยพาสตรีกลับมาผู้หนึ่ง ณ ตอนนี้พระชายาอ๋องเจ็ดจมปลักอยู่แต่ความเศร้าโศก ไม่ใคร่สนใจเรื่องนี้ ส่วนท่านอ๋องเจ็ด ในความทุกข์ใจก็ยังคงเกิดความสงสัย จึงเรียกอวิ๋นจิ่นเข้าพบ
ยามที่ท่านอ๋องเจ็ดสั่งการให้ข้ารับใช้บริพารไปเรียกตัวอวิ๋นจิ่น นางก็หาตัวหนานกงเฮ่าเริ่นแล้วพาออกจากจวนอ๋องเจ็ดเป็นที่เรียบร้อย
เด็กอายุหกขวบยังไม่รู้สนกลใน มีเพียงพี่ใหญ่ให้พี่สาวผู้นี้มารับตัวเขา
อวิ๋นจิ่นพาเด็กออกมาทางประตูเล็กหลังจวนอ๋องเจ็ด เมื่อนางเปิดประตูออกมาพลันรีบแบกเด็กขึ้นหลัง จากนั้นก็รีบเดิน
เมื่อถึงถนน นางก็วิ่งผลุนผลันไปยังจวนอ๋องเย่ทันที
พ่อบ้านอาวุโสเห็นอวิ๋นจิ่นพาเด็กกลับมาก็ประหวั่นพรั่นพรึง
อวิ๋นจิ่นไปที่สวนดอกกล้วยไม้ เพราะฉีเฟยอวิ๋นรอนางอยู่ตรงนั้น
เมื่อเห็นอวิ๋นจิ่นมาพากลับมา ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้คุยอะไรกับนาง รีบถามเด็กทันควัน "เจ้ารู้จักหนานกงเฮ่าฉือไหม?"
เด็กรีบผงกศีรษะหงึกๆ "รู้จัก"
"อืม เขาเสียชีวิตแล้ว"
เด็กได้ตื่นตกใจ เมื่อได้ยินก็ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล
ฉีเฟยอวิ๋นมองอวิ๋นจิ่นปราดหนึ่ง "ลำบากเจ้าแล้ว"
เมื่อมั่นใจสถานะของเด็กแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า "เจ้าดูแลเขาอยู่ในเรือนนี้ อย่าให้ใครรู้"
"เพคะ"
ฉีเฟยอวิ๋นย่อเข่าลง "เมื่อกี้หลอกเจ้านะ แต่พี่ชายเจ้าถูกคนจับตัวไปแล้ว"
เมื่อเด็กได้ยินประโยคนี้ก็ไม่ร้องไห้ฟูมฟายอีก เขารีบสูดน้ำมูกมองฉีเฟยอวิ๋น แล้วหล่นอยู่ด้านหลังอวิ๋นจิ่นด้วยความหวาดกลัวฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า "ข้าจะช่วยพี่ชายเจ้า แต่ต้องให้พี่ชายเจ้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ก่อน เจ้ายินดีมอบของให้ข้า เพื่อให้พี่ชายเจ้าดูหรือไม่?"
เด็กมักจะหลงกลง่าย ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวสองสามประโยคเด็กก็เชื่อว่าเป็นจริงแล้ว
"พี่ชายข้าพึ่งซื้อให้ข้าหลายวันก่อน คนอื่นไม่รู้" เด็กปลดเสื้อ แล้วแหวกให้เห็นปลอกคอเงินแท้
ฉีเฟยอวิ๋นถาม "มีเพียงพี่ชายเจ้ารู้หรือ?"
"ของเด็กผู้นั้นเพคะ"
“……”
หนานกงเย่อึ้งชั่ววูบ ดวงตาหงส์ประกายแสงชื่นบานมองไปยังใบหน้าฉีเฟยอวิ๋น "หลอกข้าหรือ?"
"ท่านอ๋องหลอกง่ายหรือ"
"ข้าหลอกง่ายที่ไหน ข้าบ้ากามต่างหาก งมงายเสียจนไม่ลืมหูลืมตาเลย"
หนานกงเย่โค้งตัวอุ้มฉีเฟยอวิ๋นขึ้นมา ก่อนจะหมุนกายขึ้นเตียง
ฉีเฟยอวิ๋นโดนอุ้มขึ้นเตียง จึงนอนรอหนานกงเย่
"ช่วงนี้ร่างกายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" หนานกงเย่แหวกม่านออก จากนั้นปลดกระดุมเสื้อ
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว "ระวังหน่อยจะดีมากเลยเพคะ"
"เช่นนั้นข้าจะเบาหน่อย ลำเลียงเสบียงให้เจ้าเสียก่อน"
ฉีเฟยอวิ๋นหัวเราะ "ท่านอ๋อง ขยันลำเลียงเสบียงเกินไปหรือเปล่า ท่านพึ่งหายดี จะไหวหรือเพคะ?"
"ข้ายังหนุ่มยังแน่น มีเสบียงเพียงพออยู่แล้ว"
"ท่านอ๋องหน้าไม่อาย"
"มีพระชายาแล้วจะหวงหน้าอีกทำไม?"
หนานกงเย่ทิ้งตัวลงไป ฉีเฟยอวิ๋นก็ให้ความร่วมมือ ทั้งสองทำศึกกันสักพักก็พักผ่อนออมแรง จากนั้นหนานกงเย่ก็ไปอาบน้ำ ต่อด้วยการเริ่มศึกบนเตียงอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศภายในห้องร้อนระอุยิ่งนัก สุดท้ายทั้งสองก็ร่วมอาบน้ำด้วยกัน ฉีเฟยอวิ๋นจึงจะออกไป
คนในศาลพิเศษกลางหลับใหลกันหมด ฉีเฟยอวิ๋นจึงไปในคุกได้อย่างอิสระเสรี
ไม่มีผู้ใดสนใจ มีเพียงยามเฝ้าประตูถามไถ่สองสามประโยค
ฉีเฟยอวิ๋นพักในศาลพิเศษกลาง จึงบอกสถานะไป
คนในศาลพิเศษกลางให้ความเคารพนาง นางจึงเข้าไปง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ