องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 279

หนานกงเย่เหลือบมองเขาและกล่าวว่า “เช่นนั้นท่านก็อย่าลุกเลย”

ประตูเป็นประตูแบบบานเลื่อนที่เปิดเข้าไป หลังจากลั่นดาลเรียบร้อยแล้วหนานกงเย่จึงมองไปทางฉีเฟยอวิ๋นซึ่งกำลังแช่น้ำอยู่ในภายใต้ไอน้ำ

ในเวลานี้ฉีเฟยอวิ๋นกำลังหลับตาเพื่อพักผ่อนร่างกาย ร่างกายของนางค่อยๆ ชุ่มชื้นขึ้นเมื่ออยู่ในน้ำ

หนานกงเย่ลงไปในน้ำและตรงไปหาฉีเฟยอวิ๋น กอดนางไว้จากทางด้านหลัง

“ข้าแค่พลั้งปากออกไป อวิ๋นอวิ๋นอย่าคิดเป็นจริงเป็นจังเลย”

ฉีเฟยอวิ๋นลืมตาขึ้นและหันไปมองหนานกงเย่ที่อยู่ด้านหลัง ดูเหมือนคิ้วของเขาจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่นางไม่ได้ใส่ใจนัก

นางเพียงแค่เอนหลังพิงไหล่ของหนานกงเย่และกล่าวว่า “มีคนมาดร้ายหม่อมฉันเยอะเหลือเกิน เกรงว่าวันหนึ่งหม่อมฉันจะไม่ตื่นขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นท่านอย่าได้ก่อเรื่องยุ่ง อย่าได้เป็นฟืนเป็นไฟ อย่าฆ่าคน นั่นไม่ใช่สิ่งที่หม่อมฉันต้องการ ท่านอ๋องอยู่ได้โดยปราศจากหม่อมฉัน”

“ข้าทำไม่ได้”

หนานกงเย่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ ถ้านางไม่อยู่แล้วจริงๆ ชีวิตของเขาก็ไม่มีความหมาย

ฉีเฟยอวิ๋นมองหนานกงเย่ที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง นางพิงตัวเขาและไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งสองคนอาบน้ำออกมาและเห็นหนานกงเหยี่ยนนอนอยู่บนเตียงของพวกเขาราวกับว่าหลับไปแล้ว

ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกมึนๆ และหลับลงไปจริงๆ

“ใครก็ได้เข้ามา พระชายาฟื้นแล้ว ไปเตรียมถังอาบน้ำไว้ให้ท่านอ๋องตวนแช่ยาเสีย”

เมื่อได้ยินว่าฉีเฟยอวิ๋นฟื้นแล้ว อาอวี่ก็รีบเข้ามาเตรียมถังไม้ให้

บรรยากาศภายในห้องดูแปลกๆ ฉีเฟยอวิ๋นสวมชุดคลุมผ้าฝ่ายสีขาวยาวระพื้น ดูเหมือนหงส์ขาวที่กำลังมองอ๋องตวน อ๋องตวนมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างใจลอยเล็กน้อย อยากจะพูดบางอย่างแต่สุดท้ายก็หันหน้าหนี

อย่าไปมองอะไรที่ไม่ดี อย่ามอง

ฉีเฟยอวิ๋นหันหลังและลากชุดคลุมหางนกยูงเดินผ่านไป แสงจันทราสีขาวส่องประกายอยู่บนเสื้อคลุมและส่องสะท้อนอยู่ภายในห้อง

หนานกงเย่หันไปมองฉีเฟยอวิ๋นที่เดินเข้าไปในห้องทดลอง รอให้คนมาเติมน้ำร้อนลงในถังอาบน้ำ

“ลงไปสิ”

อาอวี่และคนอื่นๆ มองอ๋องตวนที่นอนอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเวลานี้เกิดอะไรขึ้น

ประตูปิดลงเสียงดังปัง หนานกงเหยี่ยนแทบจะจมน้ำตายอยู่ในถังไม้เพราะถูกหนานกงเย่โยนเข้าไปทั้งอย่างนั้น

หนานกงเหยี่ยนคิดจะออกมา แต่หนานกงเย่เอ่ยอย่างเยาะหยันว่า “ท่านไม่ต้องออกมาแล้ว แช่อยู่ในนั้นนั่นละ”

ว่าแล้วหนานกงเย่ก็หันหลังลากเสื้อคลุมเดินไปทางด้านหลัง เมื่อเข้าประตูไปแล้วจึงถอดเสื้อคลุมออกและเปลี่ยนไปสวมเสื้อคลุมสีขาวที่มีเอกลักษณ์

“ทำอะไรหรือ”

หนานกงเย่ประหลาดใจ ตอนนี้ฉีเฟยอวิ๋นกำลังแกว่งขวดทรงกระบอกที่ถืออยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

“ไม่มีอะไรเพคะ แค่อยากรู้ว่าพิษของจวินฉูฉู่เป็นพิษอะไร มันเกือบจะทำให้หม่อมฉันแท้ง กันไว้ดีกว่าแก้”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่คิดเลยว่าจะมีพิษชนิดนี้อยู่ในสมัยโบราณเช่นนี้ เป็นพิษที่เข้ามาในร่างกายของนางถึงสองครั้งและทำให้นางถูกวางยาพิษโดยไม่ทันสังเกตเห็น

ถ้าไม่ใช่เพราะระบบต้านพิษในร่างกาย ตอนนี้นางคงตายเพราะพิษนี้ไปแล้ว

จวินฉูฉู่เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง นางจะมีพิษแปลกๆ เช่นนี้ได้อย่างไร

ฉีเฟยอวิ๋นไม่เข้าใจ

หนานกงเย่ยืนเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ ฉีเฟยอวิ๋นตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกประหลาดใจมาก “แปลกมาก ข้าไม่เคยเห็นพิษแบบของนางมาก่อนเลย”

หนานกงเย่หยิบมาดูนิดหนึ่ง “เจ้าไปเอาพิษนี่มาจากไหน”

“หม่อมฉันสงสัยตั้งแต่ตอนที่นางให้กล่องกับหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงเปิดดูนิดหนึ่ง แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ตอนนั้นหม่อมฉันรู้สึกว่าหัวใจกำลังจะหยุดเต้น เลือดลมก็แปรปรวน ดังนั้นหม่อมฉันจึงใช้ปลายนิ้วปาดเศษผงบนพื้นผิวมาเล็กน้อย

หลังจากคิดดูแล้ว บนกล่องนั้นกับบนปิ่นสีชาดจะต้องมีสักที่หนึ่งที่มีพิษติดอยู่”

“บนปิ่นสีชาดมีพิษ” หนานกงเย่แน่ใจ ฉีเฟยอวิ๋นหันไปมองหนานกงเย่

“เหตุใดท่านจึงมั่นใจนัก” ฉีเฟยอวิ๋นประหลาดใจ

“ท่านอ๋องตวนบอกว่าเขาเห็นกล่องนั่น เขาน่าจะหยิบมันดูแล้วแต่ไม่เป็นอะไร แสดงว่าเขาไม่ได้แตะปิ่นสีชาด ซึ่งน่าจะมีแค่ที่ปิ่นสีชาดเท่านั้นที่มีพิษ” หนานกงเย่กลับออกไปหาอ๋องตวนที่ด้านนอก

แม่นมเว่ยพยักหน้า “บ่าวเข้าใจแล้วเพคะ ท่านอ๋องเย่ พระมเหสีเพิ่งมีรับสั่งให้พระชายาตวนไปเข้าเฝ้า อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนท่านอ๋องเย่ เรื่องนี้ท่านอ๋องเย่คิดเห็นว่าควรทำเช่นไรเพคะ”

“ข้าสัญญากับท่านอ๋องตวนไว้แล้วว่าจะไม่สืบสาวเรื่องนี้ แต่พระมเหสีจะทรงจัดการอย่างไรนั้นข้าจะไม่เข้าไปก้าวก่าย”

“เพคะ”

แม่นมเว่ยหันกลับไปมองแม่นมอีกคนที่มาจากในวังและพยักหน้าให้ เป็นเชิงบอกว่าแจ้งให้ทราบแล้ว

มีการทำความสะอาดที่จวนอ๋องเย่ส่วนนี้อีกครั้ง ฉีเฟยอวิ๋นไม่เป็นไรแล้ว และอ๋องตวนก็ย้ายไปพักที่จู๋อวิ๋นไจ

อวิ๋นหลัวฉวนกลับไปที่จวนกั๋วกงกับแม่นมเว่ย

ทุกอย่างถูกจัดการให้เข้าที่เข้าทาง ในวังส่งคนมาตรวจเรื่องพิษให้ฉีเฟยอวิ๋น พร้อมกันนั้นก็มาดูอาการอ๋องตวนด้วย

แม้ว่าบาดแผลของอ๋องตวนจะดีขึ้นแล้ว แต่การหลอกหมอหลวงก็ไม่ใช่เรื่องยาก

หมอหลวงสองคนกลับไปรายงานที่วัง ในขณะที่จวินฉูฉู่คุกเข่ารับโทษอยู่นอกพระตำหนักหวาหยาง

พระมเหสีหวาเชิญราชครูจวินและฮูหยินกั๋วกงเข้าวังพร้อมกัน แต่ฮูหยินกั๋วกงไม่ได้เข้าวังเพราะต้องดูแลอาการแพ้ท้อง

ส่วนราชครูจวินมาพาจวินฉูฉู่กลับไปอบรมสั่งสอน

พระมเหสีหวาทรงมีรับสั่งไปถึงราชครูจวินถึงที่จวนว่าให้อ๋องตวนหย่ากับพระชายา

เมื่ออ๋องตวนทราบเรื่องก็ทนอยู่เฉยไม่ได้และเข้าไปที่วังเพื่อขอความเมตตา

พระมเหสีหวาปิดประตูไม่ให้เข้าพบ

“ท่านอ๋องกลับไปเถิดเพคะ”

แม่นมออกมาจากตำหนักหวาหยางเพื่อเกลี้ยกล่อมอย่างไม่เต็มใจนัก อ๋องตวนได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่ยอมแพ้

แม้ว่าบาดแผลบนร่างกายจะหายดีแล้ว แต่เพื่อหลอกพระมเหสีหวา เขาจึงตั้งใจใช้กริชแทงลงบนหน้าอกจนเห็นเป็นรอยบาดแผลและยอมเสียเลือดนิดหน่อย

เมื่อแม่นมเห็นเลือดไหลออกมาจากหน้าอกของอ๋องตวน นางก็รีบกลับเข้าไปหาพระมเหสีหวาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ