องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 491

ตงเอ๋อร์หมุนตัวเดินออกไป อ๋องตวนรีบโค้งเอวอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนขึ้นมา อวิ๋นหลัวฉวนดึงแขนเสื้อข้างหนึ่งของอ๋องตวนไว้ และกล่าวว่า“มันจะตกเพคะ!”

“ไม่ตกหล่นลงหรอก !ข้าไม่มีทางให้ฉวนเอ๋อร์ตกลงไปแน่“อ๋องตวนอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนเข้าไป อวิ๋นหลัวฉวนถูกวางลงอ๋องตวนจึงรีบหยิบกระปุกยาแล้วเทยาออกมาสองเม็ด จากนั้นก็ได้กินกันคนละเม็ด

อ๋องตวนมีความคึกคักอย่างเต็มที่ นั่งลงแล้วดึงจับคางของอวิ๋นหลัวฉวนขึ้น และจูบสัมผัสกล่าวว่า“ฤทธิ์ยารวดเร็ว ข้ารู้สึกร้อนเหลือเกิน ฉวนเอ๋อร์ร้อนหรือไม่?”

อวิ๋นหลัวฉวนพยักหน้า ทั้งตัวของนางร้อนรุ่มเช่นกัน

อ๋องตวนถามว่า“สองเดือนมานี้เจ้าไม่สนใจข้า ข้าอยากจะรู้ว่าเพราะเหตุใด?”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยพลิกตัวไป

“ฉวนเอ๋อร์ ใช่หรือไม่ว่าข้า.....มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทำไม่ถูกต้อง?ทำให้เจ้าไม่พึงพอใจ ข้าได้เริ่มตั้งใจทำภารกิจในทุกวันแล้ว”ตั้งใจทำภารกิจที่ดีคือการเรียนรู้ที่เป็นท่านอ๋องที่ชอบมีมาตรฐาน เพื่อที่จะทำคุณประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์นั่นเอง

“มิใช่เรื่องนี้เพคะ”อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

“เช่นนั้นคือเรื่องอันใดหรือ?”อ๋องตวนมีความรู้สึกเป็นกังวลใจ

อวิ๋นหลัวฉวนหมุนตัวมองอ๋องตวน และกล่าวว่า“ท่านอ๋องยังนึกถึงจวินฉูฉู่อยู่หรือไม่เพคะ?”

อ๋องตวนชะงักงัน มีความรู้สึกที่ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี

อวิ๋นหลัวฉวนมีสีหน้าไม่ดี นางกล่าวว่า“มิใช่หม่อมฉันที่พยายามอิจฉาริษยา แต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไร เพียงแค่อยู่กับท่านอ๋อง ก็นึกถึงจวินฉูฉู่แล้ว นึกถึงอดีตของท่านอ๋องกับจวินฉูฉู่ที่รักกันกลมเกลียว หม่อมฉันก็รู้สึกไม่ดีแล้วเพคะ”

“ฉวนเอ๋อร์ จวินฉูฉู่เคยเป็นพระชายาของข้า ข้าดูแล้ว นางทำเรื่องไม่ดีจริงๆ ไม่คุ้มค่ากับการที่ข้าต้องรักใคร่ ข้ามีฉวนเอ๋อร์แล้วยิ่งไม่ได้ให้ความสนใจอะไรที่ตัวนาง แต่ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าในใจของข้ายังมีภาพเงาของนางอยู่

แต่ข้าไม่มีทางปฏิบัติต่อเจ้าอย่างคนใจเป็นสองแน่นอน!

นางตายแล้ว ฉวนเอ๋อร์ยังต้องคิดเล็กคิดน้อยอะไรกันหรือ?”

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกน้อยใจอย่างมาก กล่าวด้วยความอึดอัดว่า“หม่อมฉันก็ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อย แต่ข้ามักไม่เป็นสองรองใคร และจับต้องนึกแต่เรื่องนี้เลยข้ามผ่านมันไปไม่ได้เลยเพคะ”

อวิ๋นหลัวฉวนก็ไม่อยากเป็นเช่นนี้ แต่พอนางนึกว่าในใจของท่านอ๋องมีจวินฉูฉู่ นางก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว

อ๋องตวนนั่งอีกด้าน เริ่มมึนงง

ตงเอ๋อร์ออกไปได้มุ่งตรงไปที่จวนแม่ทัพ ครั้งนี้อาอวี่กำลังเดินออกมาจากจวนแม่ทัพ เขาก็เพิ่งจะส่งฉีเฟยอวิ๋นไว้ที่จวนแม่ทัพ เปลี่ยนชุดแล้วก็เตรียมจะออกไปหาตงเอ๋อร์ เรื่องที่ตกลงสัญญาไว้แล้ว ไม่สามารถที่จะไม่ทำได้

ทั้งสองฝ่ายเจอกัน ตงเอ๋อร์ชะงักงันก่อน เห็นอาอวี่สวมใส่ชุดสีดำ บุคลิกหน้าเกรงขาม คิดไม่ถึงว่าจะมีอาการใจลอยแบบนี้

อาอวี่เดินออกมาจากจวนแม่ทัพแล้วกล่าวทักทายว่า“มาหาข้าหรือ?”

“อืม ใช่ ชุดของท่านชุดนี้สวยจริง ซื้อมาจากที่ใดกันหรือ?”ตงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่าอาอวี่หน้าตาไม่เลวและเสื้อผ้ก็ไม่เลวด้วย

อาอวี่ก้มศีรษะลงมอง กล่าวว่า“นี่คือชุดที่แม่นางอวิ๋นจิ่นมอบแก่ข้า สวยหรือไม่?”

“สวยมาก!”ตงเอ๋อร์มีความคิดหนึ่ง อาอวี่กับอวิ๋นจิ่นเป็นคู่กันกลุ่มเดียวกันแน่นอน

“ไปกันเถิด พวกเราไปเผากระดาษกัน”ตงเอ๋อร์พาอาอวี่เดินออกไป ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงวัดกวงลู่ที่กรมพิธีการจัดการทำงานกัน

อาอวี่เงยหน้าขึ้นมองตงเอ๋อร์และกล่าวถามว่า”ท่านคงไม่คิดที่จะตีคู่หมั้นท่านเฉาเหวินผู้นั้นตายหรอกนะ หลังจากนั้นก็มาเผากระดาษตั๋วเงินให้เขา?”

“ท่านนี่ทึ่มจริง”ตงเอ๋อร์ก้าวเท้าเดินขึ้นไป อาอวี่เดินขึ้นตามไปที่วัดกวงลู่ พอมาถึงด้านในวัดกวงลู่ ได้มีคนออกมาถามว่าเป็นผู้ใดต้องการมาทำสิ่งใด

“ข้าเป็นคนของจวนกั๋วกง ชื่อตงเอ๋อร์ พวกท่านเข้าไปแล้วบอกกล่าวรองเสนบดีเฉาเหวินด้วยว่าข้ามาแล้ว มีเรื่องจะคุยกับเขา”

“แม่นางตงเอ๋อร์ !”พอเจอตงเอ๋อร์ เฉาเหวินได้กุลีกุจอต้อนรับ มือพับประสานกันแล้วโค้งเอวลงเก้าสิบองศา อาอวี่มองจนนิ่งอึ้ง แต่ตงเอ๋อร์มีสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา

“วันนี้มาเยี่ยมเยือนค่อนข้างกะทันหัน นี่คือสหายของข้า เขาได้ยินว่าข้ามีคู่หมั้นแล้ว เลยมาดูกับข้าโดยเฉพาะ รบกวนแล้ว”

ตงเอ๋อร์พูดแล้วหันเดินเข้าไปในจวนรองเสนาบดี เฉาเหวินรีบลุกขึ้นพินิจพิเคราะห์อาอวี่ มีความแปลกใจเลยถามว่า “เป็นคนของจวนกั๋วกงหรือ?”

ตงเอ๋อร์ส่ายศีรษะกล่าวว่า“มิใช่ เป็นคนของจวนอ๋องเย่ เขาเป็นองครักษ์ของพระชายาเย่ ข้าคือองครักษ์ของพระชายาตวน พวกเราเจอกันบางครั้งบางคราว วันนี้ได้รู้ว่าข้ามีว่าที่สามี เขาไม่ยอมเชื่อ ข้าเลยพาเขามาด้วยเสียเลย”

“นั่นถือว่าเป็นแขกพิเศษ เชิญด้านในได้เลย”เฉาเหวินเป็นคนกิริยามารยาทสุภาพอ่อนน้อม แต่ทว่ากลับพูดจาเร็ว รีบเชื้อเชิญอาอวี่เข้าไปด้านใน อาอวี่พยักหน้าแล้วเดินตามไป

ทั้งสองเข้าไปแล้วได้ถูกเชิญไปที่ห้องโถงด้านหน้า พอนั่งลงคนรับใช้เอาชามาให้ อาอวี่ดื่มชาหนึ่งกลืน รู้สึกว่าเป็นชาดีมาก แต่วันนี้ที่สามารถดื่มชาชนิดนี้ได้ก็คงมีไม่มาก

ตงเอ๋อร์ก็ดื่มหนึ่งกลืนเช่นกัน นางวางจอกชาลงแล้วมองบริเวณโดยรอบ ไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง นางลุกขึ้นยืนกล่าวว่า“ข้ากับอาอวี่ออกมายังมีภารกิจที่ต้องจัดการ ผ่านมาที่นี่เลยแอบแวะเวียนมา วันนี้ขอตัวลาก่อน วันพรุ่งหากว่ามีเวลาข้าจะมาหาท่าน”

เฉาเหวินรีบตอบตกลง แล้วส่งตงเอ๋อร์กลับที่หน้าประตู

ทั้งสองคนเดินไปไกล เฉาเหวินหัวเราะอย่างเยือกเย็นขึ้น กล่าวว่า”ล้วนเป็นพวกคนอับจนที่ไม่เคยพบโลก เข้ามาที่จวนรองเสนาบดีลูกตาจนจะล่วงลงมาแล้ว”

“คุณชายใหญ่ ท่านอย่าพูดซี้ซั้วไปเรื่อย ระวังหน้าต่างมีหูประตูมีตาขอรับ นายท่านสั่งว่า เรื่องตั๋วเงินความมั่งคั่งไม่สามารถแพร่งพรายสู่ภายนอกขอรับ”

“กลัวอันใด จวนนี้เป็นท่านแม่ที่เอามาจากเรือน ผู้ใดกล้าพูดคำพูดที่ไม่มีหลักฐานหรือ?”

เฉาเหวินหมุนตัวเข้าด้านใน อาอวี่กับตงเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลได้เดินกลับมาอีกครั้ง ทั้งสองคนอยู่นอกกำแพง อาอวี่ได้กล่าวว่า“หลังจากนี้หนึ่งชั่วยามหากว่าข้ายังไม่ออกมา ท่านรีบไปรายงานพระชายาเย่ที่จวนท่านแม่ทัพเลยนะ หากว่าข้าออกมา พวกเราก็กลับพร้อมกัน"

“เช่นนั้นระวังตัวด้วย!”

ทั้งสองคนตกลงกันเรียบร้อยแล้ว อาอวี่อยู่บนกำแพง และตงเอ๋อร์เป็นผู้ดูต้นทาง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ