เฟิงอู๋ชิงเหลือบมองอู๋ซัง “งั้นไว้รอให้หนานกงเย่กลับมาค่อยบอกเรื่องอื้อฉาวของอู๋ฮัวให้เขาฟัง รอให้หนานกงเย่หย่ากับนางแล้วฆ่าเสีย!”
“อื้ม”
อู๋ซังพยักหน้า แบบนี้จะเป็นการหลีกเลี่ยงการฆ่าศิษย์ร่วมสำนักได้ อย่างน้อยหมอเทวดาก็จะไม่ฆ่าเขา
อาอวี่กับคนอื่นๆ รีบมาและเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นขึ้นรถม้าไปแล้ว
มีสมุนไพรปรุงยาอยู่ในรถ อาอวี่เห็นฉีเฟยอวิ๋นนอนอยู่ข้างๆ กองสมุนไพรและดูอ่อนแรงมาก
“พระชายา”
“กลับไปที่จวนอ๋องเย่ก่อน” อาอวี่รีบส่งฉีเฟยอวิ๋นกลับไปที่จวนอ๋องเย่โดยมีเว่ยหลินชวนกับเวยฉือตามไปด้วย
อู๋ซังถามเฟิงอู๋ชิง “นายท่าน แล้วเราล่ะขอรับ”
“ไปดูกันเถอะ”
ฉีเฟยอวิ๋นอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องเย่ นางบอกคนอื่นๆ ว่าได้รับบาดเจ็บและจำเป็นต้องรักษาตัว
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา ราชครูจวินก็มาพบ
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้น “เป็นข้าที่ประมาท ทุกอย่างนั้นคงต้องให้ท่านราชครูกราบทูลให้ฝ่าบาทฟัง”
ราชครูจวินกุมมือของตนเองไว้และหลับตาลงอยู่เป็นเวลานาน เขาออกไปโดยไม่พูดอะไรและตรงเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ
เมื่อราชครูจวินจากไป ฉีเฟยอวิ๋นจึงหันไปมองฮูหยินรอง
ทั้งสองคนคุยกันถูกคอ แม้ว่าฮูหยินรองจะไม่เห็นพวกเด็กๆ แต่นางก็อารมณ์แจ่มใสขึ้นตั้งมาแต่ถึงจวนอ๋องเย่ ดังนั้นนางจึงฟื้นตัวได้ดี
หลังจากฉีเฟยอวิ๋นอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินรองอยู่สองชั่วยาม ราชครูจวินก็กลับมา
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นยืน จากนั้นราชครูจวินจึงกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงทราบเรื่องที่จวินโม่ซ่างหลบหนีแล้ว เวลานี้พระองค์ส่งคนออกไปไล่ตามแล้ว พระชายาเย่พักอย่างสบายใจได้
เกี่ยวกับเรื่องที่จวินโม่ซ่างหลบหนีออกจากคุกและเข้ามาที่จวนอ๋องเย่ มีข้ากับฮูหยินรองเป็นพยาน ดังนั้นจึงไม่มีใครว่าอะไรได้”
เพื่อปกป้องชื่อเสียงของฉีเฟยอวิ๋นและเพื่อปกป้องเกียรติของอ๋องเย่ ราชครูจวินทำได้แค่ต้องรายงานเช่นนี้
จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
คนที่ไม่หลบหนีมาตลอดสองเดือน วันนี้ได้หนีออกไปแล้ว และนั่นย่อมมีเรื่องที่ไม่มีใครรู้
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวขอบคุณและเป็นฝ่ายออกไปก่อน
ราชครูจวินเหลือบมองไปทางประตูและเดินไปหาฮูหยินรอง เขานั่งลงและจับมือของฮูหยินรองไว้ “ได้คุยกับนาง มีความสุขหรือไม่”
“มีความสุขสิเจ้าคะ นางไม่ได้มีเจตนาร้าย เวลาพูดคุยก็ไม่มีอะไร แค่พูดเรื่องทั่วๆ ไปเท่านั้น ข้าใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวมาตั้งแต่เด็ก ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน ถึงแม้จะเป็นพ่อแม่ก็ยังทำหน้าตาโศกเศร้าทุกครั้ง ข้าใช้ชีวิตมาทั้งชีวิต ในที่สุดก็มีคนมาพูดคุยกับข้า นั่นไม่นับว่าดีหรอกหรือ” ฮูหยินรองดึงมือกลับ นางไม่เข้าใจ อายุก็เท่านี้แล้ว เวลาทำอะไรเหตุใดจึงยังยึดติดอยู่อีก
ราชครูจวินร้องอ้อ “ถ้าเจ้าชอบ เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่ดีกว่า อันที่จริงที่จวนอ๋องเย่ก็สงบกว่าจวนราชครูจริงๆ ”
“.....” ฮูหยินรองไม่อยากจะพูดอะไรมาก คนที่ประพฤติตัวอยู่ในกฎเกณฑ์มาทั้งชีวิต แต่จะเลิกเมื่อแก่ตัวนะหรือ
ไม่มีอะไรจะพูด
แค่ตัวเองก็ดูแลไม่ได้แล้ว
ราชครูจวินมองใบหน้าของฮูหยินรองอย่างพินิจ “วันนี้สีหน้าของเจ้าดีขึ้นมาก”
“อื้ม”
ฮูหยินรองเงยหน้ามองราชครูจวินนิดหนึ่งและก้มหน้าลงอีกครั้ง
ราชครูจวินถอนหายใจ “ข้าจำได้ว่าตอนที่เจ้ายังเด็กเจ้ามีใบหน้าที่กลมเล็ก ดวงตากลมโต รูปร่างก็กลมๆ
ปกติเจ้าจะตามมาข้างหลังข้า ถ้าข้าทำผิด เจ้าก็จะถูกเฆี่ยนตี”
ความทรงจำของราชครูจวินยังคงแจ่มใสเหมือนใหม่เมื่อนึกเหตุการณ์ในวัยเด็ก
เขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตนเองยังจำเรื่องที่ก่อนหน้านี้คิดว่าลืมไปแล้วได้
ฮูหยินรองพยักหน้า “อื้ม”
“ไม่ใช่แค่นั้น ข้าจะบอกอะไรให้...” อวิ๋นหลัวฉวนกำลังจะพูด แต่คิดว่าพูดไปคงไม่ดีเท่ากับการแสดงฝีมือให้ฉีเฟยอวิ๋นดู ดังนั้นนางจึงหันไปกวักมือเรียกคนที่อยู่ข้างหลัง และคนที่อยู่ด้านหลังก็หอบลูกคิดเข้ามา
ฉีเฟยอวิ๋นแปลกใจ “ท่านนำสิ่งนี้มาทำไม”
“ท่านลองดูก็รู้เอง” อวิ๋นหลัวฉวนนำขึ้นมา แล้วก็มีคนนำสมุดบัญชีมาให้อวิ๋นหลัวฉวน อวิ๋นหลัวฉวนมีมือที่เล็กเรียวดูเข้ากับรูปลักษณ์ของนางเป็นอย่างดี
อวิ๋นหลัวฉวนนำลูกคิดขึ้นมาขณะพลิกหน้าสมุดบัญชี นางดีดลูกคิดคิดบัญชี ในชั่วพริบตาก็มีเสียงดังป้อกแป้กรัวขึ้น
ฉีเฟยอวิ๋นเลิกคิ้ว “ที่ท่านคิดนั้นถูกหรือ”
อวิ๋นหลัวฉวนขยับลูกคิดและผลักสมุดบัญชีให้ “ท่านนับดูสิ”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่นับ หลังจากหาคนมาช่วยนับอยู่นานก็ปรากฏว่าตรงกับที่อวิ๋นหลัวฉวนคิดและต่างกันไม่มากน้อย
ฉีเฟยอวิ๋นยกนิ้วหัวแม่มือให้ “ท่านยอดเยี่ยมมาก!”
อวิ๋นหลัวฉวนพูดอย่างอิ่มอกอิ่มใจ “นั่นก็ใช่”
แต่ทันทีหลังจากนั้นอวิ๋นหลัวฉวนก็ทอดถอนใจ “บอกตามตรง ข้ายังหวังว่าท่านอ๋องตวนจะอยู่ที่เรือนทำการค้า เขามีงานค้าขายมากมาย ข้าต้องเมื่อยมือทุกวันเลย”
อวิ๋นหลัวฉวนบ่น
ฉีเฟยอวิ๋นไม่พูดอะไร ทุกคนต่างเป็นคนที่ทำการค้าและก็ไม่เห็นว่าอวิ๋นจิ่นจะยุ่งแบบนี้ เรื่องที่ว่ารักนักคิดคำนวณนั่นเกรงว่าจะเป็นความจงใจของอ๋องตวนเสียมากกว่า
เรื่องหัวใจ มีปัญหาน้อยก็ยิ่งมีความทุกข์น้อย ดังนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงไม่ได้เปิดเผยเรื่องของอ๋องตวน
หลังจากรอทั้งสองคนอยู่สองชั่วยาม อ๋องตวนจึงพาอวิ๋นหลัวฉวนกลับไป จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงกินอาหารและไปพักผ่อน
อาอวี่มาจากข้างนอกในเวลากลางดึก ฉีเฟยอวิ๋นได้ยินเสียงจึงลุกขึ้น และคนจากจวนแม่ทัพก็รีบมาที่เรือนจวินจื่อ
เมื่อฉีเฟยอวิ๋นถามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงบอกว่าท่านแม่ทัพฉีได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดมาก
ฉีเฟยอวิ๋นรีบร้อนจากไปและให้อวิ๋นจิ่นอยู่ที่เรือน
อวิ๋นจิ่นชะงัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ