คิดถึงเมื่อกี้นางแค่ยกมือแทงลงไปจางหมัวมัวก็สลบไปแล้ว หรูอวี้รีบถามขึ้นอย่างสนใจว่า “พระชายาจะใช้เข็มแทงฮองเฮาเหนียงเหนียงไหม?”
“แทงนางทำไม? ข้าไม่ใช่หรงหมัวมัวสักหน่อย”
หยุนหว่านหนิงใช้หางตามองดูเขา
ถึงจะไม่รู้ว่าหรงหมัวมัวคือใคร แต่หรูอวี้ก็ยังคงมองดูนางอย่างรอคอย พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาฝังเข็มได้อย่างคล่องแคล่วขนาดนี้ สอนข้าน้อยบ้างได้ไหม?”
“เจ้าโง่เกินไป เรียนรู้ไม่ได้”
หยุนหว่านหนิงปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า
การฝังเข็มใช่ว่าใครก็สามารถเรียนรู้ได้
คืนนี้ หยุนหว่านหนิงพูดว่าเขาหล่อสู้หรูโม่ไม่ได้ก่อน ต่อมาก็บอกว่าเขาโง่.....
หรูอวี้ถูกนางพูดว่าจนจะร้องไห้แล้ว พร้อมถามขึ้นว่า “พระชายา ท่านเป็นมิตรที่ดีกับข้าน้อยหน่อยได้ไหม?”
“ได้สิ เจ้าพาตัวนางไปให้ข้า”
หยุนหว่านหนิงเบ้ปากไปที่ฮองเฮาจ้าวที่หมดสติอยู่
“พาตัวไป?”
หรูอวี้อึ้งไปสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายา ท่านจะพาตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงไปไหน?”
ยังไงฮองเฮาเหนียงเหนียงก็เป็นถึงประมุขวังหลัง
เดิมเขาคิดว่า หยุนหว่านหนิงเพียงแค่อยากหลอกให้ฮองเฮาจ้าวตกใจ กลับคิดไม่ถึงว่านางจะคิดลักพาตัวคนอื่นออกไปจากวัง
หรูอวี้พูดขึ้นอย่างลังเลว่า “พระชายา แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง? นางเป็นฮองเฮาเหนียงเหนียง หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องไม่เป็นผลดีต่อนายท่านกับพระชายา”
“ทำไม เจ้าไม่กล้า?”
หยุนหว่านหนิงใช้วิธียั่วยุ
นางยักยิ้มอย่างเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่มีปัญญาลักพาตัวเสด็จแม่ออกไปจากวังใช่ไหม?”
“ข้า.....”
หรูอวี้ทนการยั่วยุไม่ได้
ถูกนางยั่วยุแบบนี้ คอก็แข็งขึ้นมา แบกยกฮองเฮาจ้าวขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “วังแล้วยังไง? ต่อให้ข้าน้อยพาคนไป ก็สามารถมาไปในวังได้อย่างง่ายดาย”
เห็นแบบนี้ หยุนหว่านหนิงค่อยเผยยิ้มอย่างพอใจ
เดินไปได้หลายก้าว หรูอวี้ก็เดินกลับมา พร้อมถามขึ้นว่า “พระชายา จะพาตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงไปที่ไหน?”
หยุนหว่านหนิงคิดอยากที่จะพาฮองเฮาจ้าวออกไปจากวัง
แต่เมื่อคิดดูอีกที หรูอวี้แบกตัวฮองเฮาจ้าวไปแล้ว ค่ำคืนดึกดึนแบบนี้นางตัวคนเดียวก็ออกจากวังไม่ได้......
“โยนไปที่ด้านหลังตำหนักชิงชิวที่รกร้าง”
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวข้าตามไป”
หรูอวี้ค่อยแบกตัวฮองเฮาจ้าวที่หมดสติ พร้อมกระโดดออกไป
หยุนหว่านหนิงมองดูภายในตำหนักแวบหนึ่ง ไม่ได้รบกวนใคร แล้วก็ตามออกไปอย่างเงียบๆ
นางไม่มีวิชาตัวเบา
ตลอดทางที่ออกมาจากตำหนักคุนหนิง นางล้วนใช้เส้นทางลับ กลัวว่าจะถูกทหารรักษาพระองค์เวรดึกจับตัวไป นางไม่รู้จะพูดแก้ตัวยังไง
โม่หุยเฟิงลักพาตัวหยวนเป่าไปไม่ใช่หรือ?
นางจะใช้วิธีการเดิมเอาคืนคนคนนั้น
แต่นางไม่ได้โหดเหี้ยม อย่างไร้ขีดจำกัดเหมือนอย่างโม่หุยเฟิง
นางไม่ได้ไปลักพาตัวลูกสาวของคนของโม่หุยเฟิง เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง
นอกจากลูกสาวสองคนแล้ว คนที่โม่หุยเฟิงรักที่สุดก็คือฮองเฮาจ้าว.....นางจึงลักพาตัวฮองเฮาจ้าวไป ให้โม่หุยเฟิงได้รับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้บ้าง
ถึงฮองเฮาจ้าวจะกลายเป็นใบ้แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นถึงฮองเฮา
หากนางไม่เป็นอะไรไป โม่หุยเหยียนกับโม่หุยเฟิงหนึ่งในสองพี่น้อง อาจเป็นไปได้ที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องได้ขึ้นครองราชย์
ด้านหลังตำหนักชิงชิว เป็นตำหนักรกร้างที่ไม่มีคนอยู่
เมื่อก่อน เคยได้ยินว่าเป็นที่อยู่อาศัยของกุ้ยเหรินคนหนึ่ง
ต่อมาไม่รู้ว่าทำไมกุ้ยเหรินฆ่าตัวตาย ที่นี่ก็เกิดเรื่องแปลกๆอยู่บ่อยๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้
เนิ่นนานไป ตำหนักแห่งนี้ก็กลายเป็นตำหนักร้าง
เวลานี้ รอบๆเงียบสงัด ลมเย็นๆพัดมา มีเพียงบานประตูเก่าๆที่แง้มเปิดอยู่ ส่งเสียงดังอึดอาด
ทำให้คนรู้สึกขนลุก
หรูอวี้รออยู่ที่นี่นานแล้ว เห็นหยุนหว่านหนิง ก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วมือให้นาง
“พระชายากล้าหาญจริงๆ สถานที่แบบนี้ก็กล้ามา”
ถึงเขาจะเป็นถึงผู้ชายอกสามศอก มาอยู่ที่นี่แล้วยังรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลัง ราวกับในที่มืดมีดวงตาเยือกเย็นเฉียบคมคู่หนึ่งจ้องมองดูเขาอยู่อย่างเงียบ....
พร้อมปล่อยผมยาวสลวย คนทั้งคนดูเหมือนผีมาก
เพิ่งเงยหน้าขึ้นมา ฮองเฮาจ้าวก็ค่อยๆฟื้นคืน.....
ภายใต้แสงจันทร์ ฝุ่นตลบอบอวล
ฮองเฮาจ้าวลืมตาขึ้น แล้วก็เห็นหัวผีเคลื่อนไหวไปมาตรงหน้าเขา....นางตกใจจนกรีดร้องขึ้นมา แต่ไม่ว่ายังไงก็ส่งเสียงไม่ออก
นางคิดอยากดิ้นรน กลับพบว่าเท้าทั้งคู่ลอยพื้น มือทั้งคู่ถูกมัดอยู่บนขื่อ.....
ที่นี่ ไม่ใช่ตำหนักคุนหนิง
นางหันไปมองดูอย่างตื่นตระหนก แล้วก็พบว่าตนเองถูกมัดแขวนไว้
รอบๆเต็มไปด้วยความรกร้าง.....
ตรงหน้ายังมีผีสองตน
สีหน้าฮองเฮาจ้าวตื่นตระหนกตกใจ ทั้งร่างกายสั่นเทา อ้าปากกว้างร้องเรียกอย่างไม่มีเสียง
“ฮฮงเฮาจ้าวซื่อ.....”
หยุนหว่านหนิงพูดออกมา
ซึ่งเสียงนั้น หรูอวี้ฟังอยู่อย่างนิ่งอึ้ง อดไม่ได้ที่จะขนลุกขึ้นมา
นางยื่นมือ ค่อยๆเอื้อมไปหาฮองเฮาจ้าว พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “จ้าวซื่อ เจ้าเอาชีวิตข้าคืนมา เจ้าเอาชีวิตข้าคืนมา.....”
หรูอวี้ที่อยู่ด้านหลัง ขนลุกขนพองไปหมด
พระชายาช่างมีความสามารถในการแต่งเป็นผีได้เหมือนจริงๆ
ฮองเฮาจ้าวถูกตกใจจนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างแล้ว
นางรีบหวนคิด นางเคยทำร้ายใครตายไปบ้าง....
เมื่อคิดไปคิดมา หลายปรมานี้คนที่ตายอยู่ในมือของนาง อย่างน้อยก็แปดถึงสิบคน
ผีสาวตรงหน้าคนนี้ดูไม่ออกว่าหน้าตาเป็นยังไง นางจะรู้ได้อย่างไรว่าใครมาทวงชีวิตคืน?
เห็นผีสาวเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ ทั้งเนื้อทั้งตัววฮองเฮาจ้าวเต็มไปด้วยเหงื่อ ภายใต้ความตื่นตระหนกตกใจก็ยิ่งดิ้นรนรุนแรง
แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนยังไง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“มือเย็นๆ”ของผีสาว คว้าจับเท้าเปลือยของนางไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...