สายตาหยุนหว่านหนิงค่อยปรากฏถึงความอึมครึม
หากวันนี้หยุนเจิ้นซงมีแผนร้าย เพื่อตระกูลกู้จริงๆ....
นางไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่
อยู่ในใจนาง กู้ป๋อจ้งกับกู้หมิง สำคัญกว่าหยุนเจิ้นซงอย่างมาก
กู้ป๋อจ้งกับกู้หมิงเข้าประตูมา กลับไม่มีบ่าวใช้คนไหนไปดูแลต้อนรับเลย แม้แต่หยุนเจิ้นซง เพียงหันมาดูแวบเดียว เห็นว่าพวกเขาสองพ่อลูกเข้ามาแล้ว.....
ทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหันไปพูดคุยกับแขกคนอื่น
นี่เป็นการไม่สนใจพวกเขาสองพ่อลูก
ไม่ได้พูดสั่งให้บ่าวใช้ไปดูแล และก็ไม่ได้สั่งให้บ่าวใช้จัดเตรียมที่นั่งให้พวกเขา
ต่อให้แขกมากมายขนาดนี้ ตั้งใจทำให้ตระกูลกู้เสียหน้า
กู้ป๋อจ้งเป็นคนอารมณ์ร้อน กำลังจะหันเดินกลับไป
หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นมา เดินตรงไปหากู้ป๋อจ้งกับกู้หมิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านตา ท่านลุง พวกเจ้ามากันแล้วหรือ?”
“มานั่งสิ”
พูดเสร็จ นางรับรถเข็นมาจากมือกู้ป๋อจ้ง เข็นกู้หมิงไปยังโต๊ะของพวกเขาด้วยตนเอง
ตามธรรมนียมแล้ว กู้ป๋อจ้งกับกู้หมิงไม่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะกับพวกเขา
โต๊ะของพวกเขา นั่งอยู่กันแต่หกคน เพียงพอที่จะให้กู้ป๋อจ้งกับกู้หมิงนั่งด้วย
แต่พวกเขาเป็นเชื้อพระวงค์ ใครจะกล้านั่งอยู่กับพวกเขา?
กู้ป๋อจ้งรีบโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “หนิงเอ๋อร์ นี่ไม่เหมาะสม เจ้ารีบกลับไปนั่ง ข้ากับลุงของเจ้าแค่มาดูเอง จะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว”
“ในเมื่อมาแล้ว ก็ทานอาหารก่อนแล้วค่อยกลับ”
หยุนหว่านหนิงไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น บอกให้โม่เยว่ย้ายเก้าอี้ แล้วเข็นรถเข็นของกู้หมิงเข้าไป
โม่เยว่เองก็เชื่อฟัง
ยังเอารถเข็นของกู้หมิง มาอยู่ข้างกายตนด้วยตนเอง
พวกแขกที่แอบดูอยู่ ในใจต่างครึกครื้นกันมาก.....
ท่าทีที่หยุนหว่านหนิงมีต่อหยุนเจิ้นซง วันนี้พวกเขาเห็นกับตาแล้ว
กับกู้ป๋อจ้งสองพ่อลูกนั้น แตกต่างกันอย่างมาก
หยุนเจิ้นซงแอบสังเกตพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
เห็นหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่ออกหน้า เขาเองก็จะหัวหดเป็นเต่าอีกต่อไปไม่ได้ จึงรีบเดินไปหา พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อตา อาหมิง พวกเจ้ามาแล้วหรือ”
กู้ป๋อจ้งปั้นหน้าบึ้งไม่สนใจเขา
กู้หมิงกับหยุนเจิ้นซงที่เป็นพี่เขยคนนี้ อายุห่างกันไม่น้อย
เพราะนางกู้เสียชีวิตไปนานแล้ว กู้หมิงกับหยุนเจิ้นซงยิ่งไม่ได้ไปมาหาสู่กัน
คำว่าพี่เขย ยังไงก็เรียกไม่ออก
“หยุนกั๋วกง”
เขาผงกหัวเล็กน้อย
หยุนเจิ้นซงก็ไม่สนใจคำเรียกขาน เพียงรู้สึกว่ากู้ป๋อจ้งไม่ไว้หน้าเขา ทำให้เขาไม่รู้จะทำตัวยังไง จึงพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “พวกเจ้ามาสายกันแล้ว”
“ทำไม?”
กู้ป๋อจ้งค่อยพูดขึ้นมา
เขามองดูหยุนเจิ้นซงด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เจ้าจะวางอำนาจหยุนกั๋วกงของเจ้า ต่อหน้าพวกเรา ถือโทษที่พวกเรามาสายหรือ?”
“ลูกเขยไม่กล้า”
พ่อตาที่สีหน้าโหดคนนี้ หยุนเจิ้นซงหวาดกลัวมาตลอด
ถึงแม้ทั้งสองตระกูลไม่ได้ไปมาหาสู่กันนาน แต่นิสัยตรงไปตรงมาของกู้ป๋อจ้ง หยุนเจิ้นซงรู้ดี
เมื่อก่อนตอนที่นางกู้ยังอยู่ เขาเคยตกที่นั่งลำบากเพราะกู้ป๋อจ้งแล้วหลายครั้ง.....
“ข้าไม่อาจเอื้อมกับคำเรียกว่าพ่อตาของหยุนกั๋วกง ทุกคนต่างก็รู้ พ่อตาของหยุนกั๋วกงคือนายท่านตระกูลเฉิน ไม่ใช่คนเฒ่าธรรมดาอย่างข้า”
กู้ป๋อจ้งพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
ตระกูลเฉินที่เขาพูดถึง ไม่ใช่บ้านท่านตาของโม่เหว่ย
ถึงเฉินอี๋เหนียงจะไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา กลับมีชาติกำเนิดไม่สูงศักดิ์
ครอบครัวตระกูลเฉินของนาง เทียบกับตระกูลเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้
นอกจากคนคนนี้ มีประโยชน์ต่อเขา
“หยุนกั๋วกง ข้าไม่ชอบอ้อมค้อม”
กู้หมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “หากเจ้าไม่มีธุระอะไร เราสองพ่อลูกก็จะขอตัวกลับ”
เห็นกู้หมิงเข็นรถเข็นตนเองเตรียมจะไป หยุนเจิ้นซงรีบขวางอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “อาหมิง อย่าใจร้อนขนาดนั้นสิ ข้ามีธุระจะคุยกับพวกเจ้าจริงๆ"
กู้หมิงพูดอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า “พูดมา”
“จ้าวโหวเหย่ของจวนหย่วนตงโหว ได้ยินว่าสนิทกับอาหมิงไม่น้อย?”
หยุนเจิ้นซงมองดูเขาอย่างยิ้มแย้ม
จ้าวโหวเหย่ของจวนหย่วนตงโหว ได้ยินว่าสถานะสูงศักดิ์ อายุเยอะ ความจริงก็เป็นเพียงคนหนุ่มที่อายุเพิ่งสามสิบต้นๆ
เขากับกู้หมิงสนิทสนมกัน
ถึงกู้หมิงจะออกจากจวนน้อยครั้ง แต่จ้าวโหวเหย่คนนี้ เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก
จะว่าไปแล้ว จ้าวโหวเหย่ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของกู้หมิงด้วย....
ยายทวดของหยุนหว่านหนิงฮูหยินเฒ่ากู้ เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของจ้าวโหวเหย่ ดังนั้นตอนเป็นเด็ก จ้าวโหวเหย่จึงเข้าออกตระกูลกู้อยู่บ่อยๆ สนิทสนมกับกู้หมิงอย่างมาก
ต่อมาตระกูลกู้ปลีกตัวอยู่อย่างสันโดษ จ้าวโหวเหย่ก็มาเยี่ยมพวกเขาสองพ่อลูกบ่อยๆ
“เจ้าอยากพูดอะไร?”
กู้หมิงมองดูหยุนเจิ้นซงด้วยสีหน้าเย็นชา
ในเมื่อเขาสืบรู้ความสัมพันธ์นี้มาอย่างดีแล้ว กู้หมิงก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
ถึงไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“จ้าวโหวเหย่คนนี้เข้าหายาก ที่ผ่านมาข้าเคยอยากทำความรู้จักกับเขา แต่คนคนนี้ไม่แยแส ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เป็นไปตามความตั้งใจ”
หยุนเจิ้นซงพูดด้วยสีหน้าเก้อเขิน แต่ไม่ช้าก็กลับมายิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่ออาหมิงกับจ้าวโหวเหย่รู้จักกันดี....”
“ข้ามีเรื่องหนึ่ง อยากรบกวนอาหมิงจริงๆ”
มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา หยุนหว่านหนิงรู้สึกไม่สบายใจ
นางพอเดารู้แล้วว่า หยุนเจิ้นซงอยากขอให้กู้หมิงช่วยทำอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...