อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 490

"นี่มันอะไรกัน!?"

หยุนหว่านหนิงมอง "คนงาม" ในรูปวาดด้วยความประหลาดใจ "นี่คือคนงามที่ทำให้เจ้าลุ่มหลงงมงายจนติดตาเข้าไปถึงในฝันที่เจ้าพูดถึง คนที่เจ้าไม่กล้าเข้าไปทักทายคนนั้นน่ะรึ?!"

ในรูปนี้มันมี “คนงาม” อยู่ซะที่ไหนกันล่ะ?

รอยยับย่นบนใบหน้าของคนงามผู้นี้ มันย่นพอที่จะหนีบแมลงวันตายได้เลยเชียวนะ!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า รูปที่เขาวาดนี้มันช่าง.....

"ให้หยวนเป่าของข้าใช้นิ้วเท้าวาดออกมา ยังดูดีซะกว่ารูปที่เจ้าวาดนี้เลยมั้ง? ฝีมือการวาดรูปของเจ้านี่มันเกินคำบรรยายจริง ๆ!"

ใบหน้าเล็ก ๆ ของหยุนหว่านหนิงย่นยู่จนมารวมกันเป็นก้อน รู้สึกทนมองตรง ๆ ไม่ได้เลยจริง ๆ!

นางคืนรูปเหมือนให้เสวียนซันเซียนเซิงด้วยสีหน้ารังเกียจ

“ฝีมือการวาดรูปของข้ามันทำไมรึ? ทำไมถึงไม่กล้าชมข้าตรง ๆ ล่ะ?”

เขาคลี่มันออกดูเหมือนสมบัติล้ำค่า "ข้าวาดออกมาได้งดงามตั้งเท่าไหร่!"

“นังหนูหว่านหนิง เจ้าดูสิว่าข้าดีกับเจ้าขนาดนี้ ถ้าเจ้าไม่ช่วยข้าตามหาคนงามผู้นี้ ข้าจะตามหลอกหลอนตอแยเจ้า เป็นวิญญาณร้ายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเลยคอยดู!”

เสวียนซันเซียนเซิงตัดสินใจว่า จะใช้วิธีตามรบเร้าพัวพันไม่เลิกรากับนางแล้ว

ด้วยความจนใจ หยุนหว่านหนิงจึงถูกบังคับให้ต้องตอบตกลง "ตกลง ๆ ข้ารับปากเจ้า"

ตอนนี้เอง เสวียนซันเซียนเซิงค่อยม้วนรูปเหมือนด้วยท่าทางพออกพอใจ เก็บมันไว้ราวสมบัติล้ำค่า "ถ้าเช่นนั้นก็ถือว่าเรื่องนี้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วนะ! ข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า!"

"มีคนมาแล้ว ข้าเผ่นก่อนล่ะ"

จากนั้น เสวียนซันเซียนเซิงก็หายตัวไปในพริบตา

ด้วยระดับความเร็วหลังจากที่พูดว่าจะไปก็หายไปทันทีนั้น ทำเอามังกรตาเดียวตกใจจนผงะ!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเทพเซียนตัวเป็น ๆ กับตา!

"พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย!"

เมื่อเห็นท่าทางตื่นตะลึงอึ้งเป็นไก่ตาแตกของเขา หยุนหว่านหนิงก็กลอกตามองบนใส่ "ดูท่าทางโง่เขลาเซ่อซ่าของเจ้าสิ....."

"หนิงเอ๋อร์ หยวนเป่า"

เสียงของไทเฮากู้ดังมาจากด้านหลัง มังกรตาเดียวรีบสาละวนหาที่ซ่อน

มีแค่ใต้โต๊ะหินที่อยู่ข้าง ๆ เพียงจุดเดียวที่พอจะซ่อนตัวได้เท่านั้นแล้ว มังกรตาเดียวไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบมุดเข้าไปใต้โต๊ะทันที แต่เพราะอารามรีบร้อนเกินไปหัวเลยไปชนใส่อย่างจัง ทำเอาหยวนเป่าหัวเราะเสียงดัง "เอิ๊ก ๆ ๆ "อย่างตลกขบขัน

"พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ?"

ไทเฮากู้เดินเข้ามาหา

"เสด็จย่าทวด ข้าออกมาเดินเล่นกับท่านแม่เพื่อลดน้ำหนัก!"

หยวนเป่าจูงมือของหยุนหว่านหนิง สองคนแม่ลูกยืนปิดกั้นโต๊ะหินตัวนั้นจนมิด ไทเฮากู้จึงมองไม่เห็นมังกรตาเดียวที่มุดตัวหลบอยู่ใต้โต๊ะ

“พอดีเลย ข้าก็ออกมาเดินเล่นย่อยอาหารเหมือนกัน”

ไทเฮากู้พูดอย่างมีความสุข "พวกเราไปเดินเล่นด้วยกันเถอะนะ!"

ด้วยความจนใจ หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าจึงต้องเดินตามไทเฮากู้ออกไป

โชคดีที่ก่อนจะออกไป หยุนหว่านหนิงแอบขยิบตาส่งสัญญาณไปให้หรูเยียน

พวกเขาเพิ่งจะออกไป หรูเยียนก็พามังกรตาเดียวเข้าไปในครัว หลังจากกินดื่มจนอิ่มหมีพีมันดีแล้ว ก็เตะเขาออกไปทางประตูหลัง

ครั้งนี้ หยุนหว่านหนิงยังมอบภารกิจพิเศษชิ้นหนึ่งให้กับมังกรตาเดียวด้วย นั่นคือลอบแทรกซึมเข้าไปในจวนอ๋องฉู่

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากภาพลักษณ์แบบนี้ของเขา.....

มังกรตาเดียวจึงตัดสินใจว่า หลังกลับถึงเมืองหลวงแล้ว เขาควรต้องปรับปรุงแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดี ไม่อย่างนั้นแล้วแค่โม่หุยเหยียนได้เห็นเขาแวบเดียว ก็คงจะจำเขาได้ทันทีว่า เขาคือมังกรตาเดียวที่ก่อนหน้านี้เคยไปก่อกวนสร้างปัญหาให้จวนอ๋องฉู่!

.......................

พวกหยุนหว่านหนิงทั้งสามคนเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ เห็นท่าทางอึกอักลังเลที่จะพูดของไทเฮากู้ นางก็รู้ทันทีว่าไทเฮากู้ต้องมีเรื่องบางอย่างที่ยากจะเอื้อนเอ่ย

แม้ว่าหยวนเป่าจะเป็นเด็กที่โตเกินวัย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง มีบางเรื่องที่ไม่สมควรฟัง

ดังนั้น นางจึงสั่งให้หรูโม่พาหยวนเป่าไปเล่น

“เสด็จย่ามีเรื่องอะไรในใจรึ?”

"ข้าได้ยินข่าวบางอย่างที่ส่งมาจากเมืองหลวง"

ข่าวของทางไทเฮากู้ก็รวดเร็วว่องไวมากเช่นกัน

แม้ว่านางจะอยู่ห่างไกลถึงตำหนักสิงกง แต่เพราะได้รับความเคารพจากฮ่องเต้เช่นโม่จงหราน ทำให้ไม่มีใครในวังกล้ามองว่า นางเป็นเพียงไทเฮาคนหนึ่งที่อยู่ห่างไกลถึงตำหนักสิงกง

ดังนั้น เวลาที่ในวังเกิดเรื่องไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ นางก็มักจะได้รู้ข่าวสารด้วยเสมอ

“ได้ยินมาว่าอนุของหุยเหยียนกำลังท้องอยู่ ทั้งยังเป็นเด็กผู้ชายด้วย แต่เมื่อสองวันก่อนเขากลับบังคับกรอกยาขับเด็กจนนางแท้งลูก”

ไทเฮากู้ถึงกับถ่มน้ำลายเสียงเบา สีหน้าพลันน่าเกลียดจนแทบดูไม่ได้ "หยุนเจิ้นซงคนนี้ช่างหน้าด้านไร้ยางอายจริง ๆ!"

“แก่จนอายุปูนนี้แล้ว ทำไมหนังหน้ายิ่งนับวันก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ แล้วล่ะ?”

"พวกหน้าด้านไร้ยางอาย ไปถึงไหนก็ไร้คู่ต่อกรสินะ!"

หยุนหว่านหนิงส่ายหน้า "เขาก็แค่มุ่งมาดปรารถนาให้ธิงธิงได้แต่งกับเซียวหรานแห่งจวนหย่วนตงโหวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของน้าชายเขา! ด้วยเหตุนี้ยังไปประจบเอาใจท่านตากับท่านลุง เพื่อให้พวกเขาช่วยพูดแทนนาง"

"อะไรนะ?"

สีหน้าของไทเฮากู้เปลี่ยนไปทันที

นางหยุดฝีเท้า ขมวดคิ้วมุ่น "นี่เขาถึงกับคิดจะก่อความวิบัติให้กับเซียวหรานเลยรึ?!"

ไทเฮากู้มีความสัมพันธ์อันดีกับฮูหยินกู้ที่เป็นน้องสะใภ้ ดังนั้นนางจึงรู้ว่าจ้าวเซียวหรานนั้น เป็นเด็กที่ดีมากคนหนึ่ง

“ทำไมเขาถึงได้เป็นพวกวอนหาเรื่องโดนกระทืบได้ขนาดนี้นะ?!”

ไทเฮากู้โกรธจนกัดฟันกรอด ๆ "หากท่านยายของเจ้ายังอยู่ล่ะก็ จะต้องตรงดิ่งไปที่หน้าประตูจวนหยุนกั๋วกง ลากแผ่นป้ายลงมาแล้วด่าเขาว่าเป็นสัตว์เดียรัจฉานแน่!"

เขาไม่เพียงก่อความวิบัติให้กู้อู๋ซวงเท่านั้น ยังคิดจะก่อความวิบัติให้จ้าวเซียวหรานอีก!

แต่ไม่ได้พูดว่าหยุนธิงธิงไม่คู่ควรกับจ้าวเซียวหราน แต่เป็นหยุนเจิ้นซงไม่คู่ควรกับการเป็นพ่อตาของจ้าวเซียวหรานต่างหาก!

เมื่อเห็นว่าไทเฮากู้โกรธขึ้นมาแล้ว หยุนหว่านหนิงก็กลัวว่านางจะโกรธจนส่งผลกระทบต่อร่างกาย จึงรีบพูดปลอบนางว่า "เสด็จย่า ที่หลายวันนี้ข้าไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับท่าน ก็เพราะกลัวว่าท่านจะโกรธจนกระทบต่อสุขภาพ!"

"นี่ไม่ใช่ว่า เป็นไปตามนั้นจริง ๆ แล้วรึ!"

นางส่ายหน้า “ข้าพาท่านกลับไปพักผ่อนดีกว่า! แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ตากนาน ๆ ไม่ได้”

“ถ้าไม่ระวังให้ดี จะโดนแดดเผาจนมีแต่ฝ้ากระขึ้นเต็มใบหน้า”

ทันทีที่ได้ยินว่าโดนแดดเผาแล้วใบหน้าจะเต็มไปด้วยฝ้ากระ..... ไทเฮากู้ก็สับขาเดินเร็วจี๋ราวเหาะได้ ยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วไปหลบที่ระเบียงทางเดิน "ทำไมเจ้าไม่รีบเตือนข้าเสียแต่เนิ่น ๆ ล่ะ? โธ่เอ๊ย! ข้าเดินตากแดดอยู่ตั้งนานสองนานเชียวนะ”

“ไป ๆ ๆ รีบกลับเร็วเข้า”

หลังจากเดินไปได้สองสามก้าว ไทเฮากู้ก็หันกลับมาอย่างเป็นกังวล "เจ้าช่วยดูหน้าข้าหน่อยสิ มีรอยฝ้ารอยกระแล้วหรือไม่?!"

เป็นอย่างที่คิด ผู้หญิงไม่ว่าจะวัยไหนต่างก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น!

หยุนหว่านหนิงหัวเราะคิกคัก "ไม่มีเพคะ เสด็จย่ายังงดงามไม่เปลี่ยน!"

หลังจากส่งไทเฮากู้กลับไปแล้ว หยุนหว่านหนิงเพิ่งจะเดินพ้นออกมาจากห้องบรรทม ก็มีหินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งลอยมากระแทกเข้าที่ไหล่ซ้ายของนาง.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์