หยุนหว่านหนิงตกตะลึง
กลิ่นคาวเลือดรุนแรงขนาดนี้ จะสูญเสียเลือดตั้งเท่าไหร่?
โม่เยว่เสียเลือดมากจนเสียชีวิตแล้วมั้ง?
นางไม่ทันได้สนใจคิดมาก กำลังจะผลักประตู กลับได้ยินเสียงหมอหลวงหลายคนดังมาจากภายในห้อง
เวลานี้ พวกหมอหลวงล้วนรายล้อมอยู่ข้างเตียงโม่เยว่ ต่างกำลังพูดคุยเกี่ยวกับอาการของเขาว่า “อ๋องหมิงดวงแข็งจริงๆ ถึงขนาดนี้แล้วยังสามารถรักษาลมหายใจไว้ได้”
“พูดพวกนี้ทำไม รีบคิดหาหนมางรักษาท่านอ๋องก่อน”
“ใช่ หากเต๋อเฟยเหนียงเหนียงฟื้นขึ้นมา จะต้องตัดหัวพวกเราแน่”
“รีบคิดหาวิธี ตอนนี้ฮ่องเต้ไปหาเต๋อเฟยเหนียงเหนียง เดี๋ยวไม่นานก็จะกลับมาแล้ว”
“……”
ฟังเสียงวุ่นวายของพวกเขาแล้ว หยุนหว่านหนิงรู้ข้อมูลมาว่า
หนึ่ง โม่เยว่บาดเจ็บสาหัสอย่างมาก ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถือว่ามีชีวิตรอดมาได้
สอง เต๋ยเฟยโกรธจัด ด้วยความเป็นกังวลจึงหมดสติไป ตอนนี้โม่จงหรานกำลังอยู่ดูแลเต๋อเฟย
สาม โม่จงหรานกับเต๋อเฟยต่างอยู่ในจวนอ๋องหมิง ทั้งสองคนโกรธโมโหที่โม่เยว่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อาละวาดสั่งให้พวกหมอหลวงรีบคิดหาวิธีรักษา
นางใช้เท้าเตะประตูดัง “ปัง” จนพวกหมอหลวงตกใจ
พวกเขาหันกลับมามอง เห็นหยุนหว่านหนิงกลับมาแล้ว
เห็นสีหน้าของนางเต็มไปด้วยแววอาฆาต ร่างกายแฝงไปด้วยความเยือกเย็น....พวกหมอหลวงต่างก็อึ้ง พร้อมมาถวายความเคารพ
“ออกไป”
หยุนหว่านหนิงรีบเร่งฝีเท้าเดินตรงไปยังข้างเตียง
“แต่ว่าพระชายา ฮ่องเต้กับเต๋อเฟยเหนียงเหนียง.....”
หัวหน้าหมอหลวง คือหมอหลวงเหอรองหัวหน้าโรงหมอหลวง และถือว่าเป็นลูกศิษย์ของหมอหลวงหยาง หากฝีมือทางการแพทย์เลิศล้ำขึ้น อาจได้เป็นหัวหน้าโรงหมอหลวงคนต่อไป
หมอหลวงเหอหน้าตาหงิกงอ
“ข้าใช้ให้พวกเจ้าออกไปให้หมด หูหนวกหรือไง?”
หยุนหว่านหนิงหันกลับมา แววตาเยือกเย็น แรงอาฆาตล้นหลาม
วินาทีนั้น หมอหลวงเหอขนลุกขึ้นมาทันที
หมอหลวงคนอื่นๆต่างก้าวถอยหลัง รีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน
ภายในห้องเงียบสงบทันที
หรูโม่เพิ่งปิดประตู หรูอวี้ก็ถือถ้วยน้ำยาเข้ามา เมื่อเห็นหยุนหว่านหนิง เขาตื่นเต้นจนถ้วยน้ำยาตกแตก กระจัดกระจายเต็มพื้น
“พระชายา”
หรูอวี้คุกเข่ากับพื้น ร้องห่มร้องไห้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าประมาทเกินไป ไม่ได้ปกป้องนายท่านไว้ให้ดี.....”
หยุนหว่านหนิงนั่งอยู่ด้านข้างเตียง
นางเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของหรูอวี้ เพียงจับจ้องมองดูโม่เยว่
ปกติผู้ชายที่สุขุมเย็นชา เยือกเย็นเผด็จการ เอ้อระเหยลอยชา หน้าด้านไร้ยางอาย อ่อนโยนอย่างลึกซึ้ง ตอนนี้สีหน้าขาวซีด นอนอยู่บนเตียงอย่างนิ่งเงียบ
เขาหายใจรวยริน จนแทบสัมผัสไม่เจอลมหายใจ
เวลานี้ ภาพในหัวสมองหยุนหว่านหนิง ส่วนใหญ่เป็นภาพท่าทีที่โม่เยว่หลอกล้อให้นางมีความสุข ตามตื๊อไม่เลิก
นางพบว่าเขามีด้านที่โหดเหี้ยมน่ากลัว จนตนเองจำไม่ได้แล้ว
สิ่งที่จำได้ดีก็คือ ความดีที่เขาปฏิบัติต่อนาง
ชายคนนี้ที่ฆ่าคนได้อย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้านางกลับเรียบร้อยไร้พิษสง เป็นโม่เยว่ที่มีความรู้สึก ไม่ใช่อ๋องหมิงที่เยือกเย็นชา
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความพร่ามัว น้ำตากะพริบ
หยุนหว่านหนิงอดไม่ได้ที่จะยื่นมาออกไป ลูบคลำใบหน้าโม่เยว่อย่างแผ่วเบา
สีหน้าของเขาไร้เลือดฝาด แม้แต่ริมฝีปากก็ขาวซีดจนน่าตกใจ
หยุนหว่านหนิงค่อยๆหันมามองดูหรูอวี้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
หรูอวี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงแค่พันแผลไว้อย่างง่ายๆ แล้วก็คอยดูแลโม่เยว่
“หรูโม่ ให้หมอหลวงรักษาหรูอวี้”
“แต่ว่าพระชายา นายท่าน....”
หรูอวี้ไม่ยอมออกไป
นางรีบเอาอาหารเหลวให้เขาผ่านสายน้ำเกลือ พร้อมทั้งตรวจดูบาดแผลที่อื่นตามร่างกาย
ก่อนที่โม่เยว่จะได้รับบาดเจ็บ จะต้องได้ต่อสู้ก่อน ตามร่างกายของเขามีบาดแผลจากดาบเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าบาดเจ็บก่อนถูกธนูยิง หรือหลังจากถูกธนูยิง....แต่หยุนหว่านหนิงรู้ว่าโม่เยว่มีฝีมือการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะถูกลอบทำร้าย จะไม่มีทางบาดเจ็บถึงขนาดนี้
ตอนที่นางตรวจดูบาดแผลอย่างละเอียด หรูโม่ได้พาหรูอวี้เข้ามาแล้ว
บาดแผลหรูอวี้ไม่สาหัสเท่าโม่เยว่ และเพราะเป็นห่วงอาการของนายท่าน จึงให้หมอหลวงทำแผลอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็เข้ามาเลย
“พระชายา”
หรูอวี้คุกเข่าอยู่ข้างเตียง เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “เมื่อคืนข้าน้อยกับนายท่านออกมาจากค่ายเสินจี เดินไปได้ไม่ไกลก็พบว่ามีคนสะกดรอยตาม”
“นายท่านเห็นว่าคนคนนั้นเพียงแค่สะกดรอยตาม จึงสงสัยว่าเบื้องหลังเขาต้องมีแผนร้ายแน่”
“นายท่านไม่ให้ข้าน้อยลงมือ กลัวจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่คนคนนั้นสะกดรอยตามพวกเรามาตลอดทาง จนใกล้จะกลับถึงจวนอ๋องแล้ว นายท่านค่อยสั่งให้ข้าน้อยลงมือ”
“แต่คนคนนี้มีฝีมือแปลกประหลาด ชำนาญเรื่องซ่อนตัว ข้าน้อยไล่ตามเขา จนมาถึงนอกประตูเมือง ค่อยพบว่าผิดปกติ”
เขาหลงกลแผนล่อเสือออกจากถ้ำ
หรูอวี้คิดในใจว่าแย่แล้ว ไม่ไล่ตามไปต่อ รีบกลับมาทางเดิม
“เมื่อข้าน้อยกลับมาถึง นายท่านก็ถูกลอบทำร้าย ข้าน้อยเองก็ถูกรุมทำร้ายจนไปไหนไม่ได้”
คนชุดดำเมื่อคืนนั้น รู้ว่าหรูอวี้กับโม่เยว่เป็นยอดฝีมือ ดังนั้นจึงไม่เผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง ตรงกันข้ามกลับรังควานพวกเขาตลอดเวลาด้วยการต่อสู้แบบหมุนวน
“นายท่านรู้ตัวว่ามีคนลอบยิงธนู เดิมนายท่านสามารถถอยหนี เพราะข้าน้อยบาดเจ็บจึงกลับมาปกป้องข้าน้อย.....”
พูดเสร็จ หรูอวี้ก็ร้องห่มร้องไห้ จนพูดไม่ออกอีก
ปกติเขามักพูดว่านายท่านลำเอียง เป็นห่วงแต่ความปลอดภัยของหรูโม่
แต่เมื่อคืน ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย
เขาพบว่าปกตินายท่านของเขา เป็นคนเย็นชาแต่ใจดี
กับพวกเขาสองพี่น้องนั้น ก็เห็นเป็นญาติพี่น้องแท้ๆ
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าน้อยได้มาจากในอ้อมอกของนายท่าน”
มือทั้งคู่ของหรูอวี้สั่นเทา ล้วงเอาสิ่งของหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อยื่นให้กับหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะสิ่งนี้ ที่ช่วยชีวิตนายท่านไว้ ทำให้นายท่านมีชีวิตรอดมาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...