สีหน้าโม่เหว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย หันไปมองหยุนหว่านหนิงอย่างไม่รู้ตัว
เห็นสีหน้านางไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่แววตาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย ทำให้โม่เหว่ยเข้าใจดีขึ้นมาทันที ลักษณะท่าทีของนางที่มีต่อเขากับโม่หุยเหยียน
ถึงจะพูดจาเหน็บแนมเขา แต่ก็ไม่ถึงขั้นซ่อนเร้นความอาฆาต
โม่เยว่บาดเจ็บได้อย่างไร ใครเป็นคนบงการ....
ต่อให้ไม่นำมาพูดกันต่อหน้า แต่พวกโม่เหว่ยต่างก็รู้ดีแก่ใจแต่แรกแล้ว
นอกจากโม่หุยเหยียน ยังจะมีใคร?
“เชิญมาสิ”
หยุนหว่านหนิงเผยรอยยิ้มขึ้นมา แต่เป็นรอยยิ้มที่ใบหน้ายิ้มแววตาไม่ยิ้ม ยิ้มอย่างเยาะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “คนมาหาถึงบ้านถือว่าเป็นแขก เชิญอ๋องฉู่ไปรอที่ห้องโถง ข้าจะรีบไปต้อนรับเขา”
นางจะต้อง “ต้อนรับ” โม่หุยเหยียนเป็นอย่างดี
หรูโม่รับคำสั่งแล้วจากไป
“ในเมื่อพี่ชายใหญ่มาแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน”
โม่เหว่ยลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ วันนี้ข้าไม่ได้มาเยี่ยมเจ้าเจ็ดด้วยมือเปล่า ข้าเอาของมาให้ด้วย เดี๋ยวเจ้าไปนับดูละกัน”
“เจ้าจะรีบไปไหน?”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
นางหันมามองโม่เยว่ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอยู่เฝ้าเขา ข้าจะไปหาโม่หุยเหยียน”
โม่เหว่ย “......”
ผู้หญิงคนนี้ เผด็จการขนาดนี้
เขาไม่ใช่คนของจวนอ๋องหมิงของพวกเขา
เมื่อกี้เพิ่งพูดว่าคนมาหาถึงบ้านคือแขก ตอนนี้กลับพูดสั่งให้เขาอยู่เฝ้าโม่เยว่ นี่เห็นเขาเป็นคนสั่งได้ง่ายๆหรือ
ทำไงได้ โม่เหว่ยเข้าใจนิสัยหยุนหว่านหนิงดี
กล้าปฏิเสธนาง ผลที่จะตามมานั้นไม่ดีแน่นอน
เขากล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด หดคอห้อยลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็ได้”
“แต่ข้าไม่ได้กลัวเจ้า ข้าเพียงแค่กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ อยู่เป็นเพื่อนเจ้าเจ็ดก็ได้”
โม่เหว่ยนั่งลงไปอีกครั้ง
หยุนหว่านหนิงค่อยออกไปอย่างพอใจ
เพิ่งเดินออกจากห้อง โม่เยว่ก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่ชายสี่ หนิงเอ๋อร์ของข้าน่าเกรงขามไหม?”
โม่เหว่ย “......นี่เมื่อกี้เจ้าแกล้งหมดสติหรือ?”
มองดูเขา....ไม่ใช่ เห็นเขาถูกหยุนหว่านหนิงนางมารร้ายคนนี้พูดสั่ง เขาสะใจมากหรือ?
“ข้าบาดเจ็บสาหัส”
โม่เยว่มองไปรอบๆ ตัวเขา แล้วพูดขึ้นว่า “โม่หุยเหยียนมาหรือ?”
“มาแล้ว ภรรยาของเจ้าไปแก้แค้นให้เจ้าแล้ว”
โม่เหว่ยเบ้ปากไปทางประตู พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโทนอ่อนว่า “เจ้าเจ็ด ชาติภพที่แล้วเจ้าคงทำบุญไว้เยอะ? ถึงได้แต่งงานกับหว่านหนิง”
โม่เยว่พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “อืม”
น้ำเสียงโม่เหว่ยยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูท่าทีเมื่อกี้ของหว่านหนิง เหลือแค่ไม่พกมีดไปด้วย”
โม่เยว่ยังคงพูดตอบอย่างยิ้มแย้มว่า “อืม”
มองดูท่าทีโอ้อวดของเขา โม่เหว่ยถอนหายใจอย่างเชื่องช้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อไหร่ข้าจะได้สาวงามกลับไปครอง”
……
ภายในห้องโถง
โม่หุยเหยียนรออยู่ที่นี่แต่นานแล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามายังจวนอ๋องหมิง แต่เป็นครั้งแรกที่นั่งดื่มชารออยู่อย่างสบายใจ
เมื่อก่อนที่มาจวนอ๋องหมิง แค่จะดื่มชาสักคำยังต้องมองสีหน้าโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิง
แต่ตอนนี้ เขาไม่ต้องมองสีหน้าใคร
กำลังจะวางถ้วยชาลง หยุนหว่านหนิงก็เข้ามาแล้ว
นางเดินผ่านหน้าเขาไป นั่งลงบนที่นั่งหลัก แล้วพูดสั่งบ่าวใช้ว่า “พวกคนไม่ได้เรื่อง ต้อนรับอ๋องฉู่ยังไงกัน?”
“เอาชาเทียนซานเสว่ที่ดีที่สุดของจวน มาต้อนรับอ๋องฉู่”
นางยกถ้วยน้ำชามาดื่มหนึ่งคำ แล้วก็โยนวางอย่างรังเกียจ
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว หันไปพูดบ่นกับโม่หุยเหยียนว่า “นี่ชาอะไรกัน? ให้หมูหมูยังไม่ดื่ม”
“งั้นเจ้าจะถามอีกทำไม? ถอดกางเกงผายลมหรือ?”
หยุนหว่านหนิงยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม
โม่หุยเหยียน “.......”
เห้ย
วันนี้ถูกผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้ พูดจนเขาหมดความมั่นใจ
เป็นครั้งแรกที่เขาเจอหยุนหว่านหนิงพูดจาดุร้าย หยาบคาย และยังอวดดีอย่างนางมารร้าย
เห็นหยุนหว่านหนิงดื่มชา โม่หุยเหยียนถูกพูดจนเถียงอะไรไม่ออก เพื่อบรรเทาความเก้อเขิน จึงก็รีบยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม หัวสมองครุ่นคิดว่าจะเถียงนางยังไงดี
เพิ่งดื่มไปได้สองคำ ท้องของโม่หุยเหยียนก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
ได้ยินเสียง “โครก” อยู่หลายที สีหน้าของเขาย่ำแย่ขึ้นมาทันที
โม่หุยเหยียนรีบวางถ้วยน้ำชา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าใส่อะไรลงไปในน้ำชา”
“ใช่”
หยุนหว่านหนิงค่อยกระตุกมุมปาก เผยรอยยิ้มชั่วร้าย พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้เห็นอ๋องฉู่คลั่งอย่างมาก ข้าทนดูเจ้าคลั่งแบบนี้ไม่ได้ จึงช่วยเจ้าระบายลม”
เป็นเหมือนอย่างบอลลูนลอยขึ้นฟ้า
ต่อให้บินขึ้นสูงแค่ไหน เพียงแค่แทงทะลุ ก็จะตกลงมาเอง
หยุนหว่านหนิงวางมือบนหน้าผากอย่างเกียจคร้าน พร้อมพูดขึ้นว่า “อยู่ในจวนอ๋องหมิง ข้าไม่ยินยอมให้ใครมาคลั่งไปกว่าข้า”
สีหน้าโม่หุยเหยียนขาวซีด ไม่ทันสนใจที่จะเถียงกับหยุนหว่านหนิง กระโดดวิ่งออกไปด้านนอกประตูทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “ห้องน้ำ ห้องน้ำจวนของพวกเจ้ามีไหน?”
เสียดายที่ห้องน้ำสำหรับเจ้านายใช้นั้นถูกล็อกไว้หมด
ด้วยความที่โม่หุยเหยียนทนไม่ไหว จึงจำต้องเข้าไปใช้ห้องน้ำของบ่าวใช้
ห้องน้ำของบ่าวใช้ เทียบกับห้องน้ำที่เจ้านายใช้ไม่ได้
ข้างในไม่เพียงบรรยากาศไม่ดี และยังเป็นส้วมที่คนหลายคนนั่งยองพร้อมกัน
ตอนที่โม่หุยเหยียนเข้าไป ยังมีบ่าวใช้หลายคนนั่งยองอยู่ในนั้น
แต่เพราะแสงมืดสลัว เขามองไม่เห็นชัดเจน....หลังจากพุ่งเข้าไปแล้วปลดทุกข์อย่างกระหน่ำเสร็จแล้ว โม่หุยเหยียปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างสบาย
เวลานี้ ด้านข้างหลุมค่อยปรากฏหัวคนอยู่หลายหัว แต่ละคนต่างมองดูเขาอย่างตกตะลึง....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...