เจ้าเพื่อนเอ๊ย
เมื่อกี้ที่ปลดทุกข์ออกมาอย่างกระหน่ำนั้น ใช่คนเขาปลดทุกข์กันหรือ?
ยังเป็นถึงอ๋องฉู่?
พวกเขาต้องใช้เวลาทั้งชีวิต มารักษาภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ
โม่หุยเหยียนก็คิดไม่ถึงว่า ในห้องน้ำจะมีคนอื่น....เมื่อกี้เขาปวดท้องอย่างมาก แสงข้างในก็มืดสลัว ไม่ได้มองสภาพภายในห้องน้ำอย่างชัดเจน
เขาที่เป็นถึงอ๋องฉู่มาปลดทุกข์ กลับถูกคน “รายล้อม” มองดู?
โม่หุยเหยียนนิ่งอึ้ง
เห็นเขางงเป็นไก่ตาแตก พวกบ่าวใช้ต่างพากันหันหน้าไปอย่างเงียบๆ
หลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว พวกบ่าวใช้ก้มหน้าก้มตาเตรียมจะจากไป
ตอนเดินผ่านโม่หุยเหยียน พวกเขายังโน้มตัวพูดทำความเคารพว่า “อ๋องฉู่ตามสบาย บ่าวขอทูลลา”
โม่หุยเหยียนอยากอาละวาด พริบตาเดียวภายในห้องส้วมกลับเหลือเขาเพียงคนเดียว
เมื่อกี้พวกบ่าวใช้แต่ละคนทำความเคารพ เหมือนกับกำลังจุดธูปไหว้บรรพบุรุษ ภายในห้องส้วมมีกลิ่นฉุนอย่างบอกไม่ถูก โม่หุยเหยียนกลับไม่มีหน้าที่จะออกไปแล้ว
ล้วนเป็นเพราะหยุนหว่านหนิงนางมารร้ายคนนี้
กล้าวางยาท้องร่วงในน้ำชาของเขาอย่างโจ่งแจ้ง
และวันนี้เขามายังจวนอ๋องหมิงอย่างมั่นใจ คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าบังอาจขนาดนี้
ดังนั้นจึงดื่มชาอย่างไม่ระแวดระวังเลย
คราวนี้เป็นไงละ
ความมั่นอกมั่นใจกลับกลายเป็นย่ำแย่จนหน้าเหลือสองนิ้ว
หากตอนนี้เขากลับไปยังห้องโถง ไม่เพียงจะถูกหยุนหว่านหนิงหัวเราะเย้ย ผู้หญิงคนนี้มีแต่ความคิดชั่วๆ ไม่แน่ว่าอาจคิดแผนอะไรทำร้ายเขาอีก
โม่หุยเหยียนหวาดกลัวขึ้นมาทันที
หลังจากที่เขาอยู่ในห้องส้วมเป็นเวลาธูปหนึ่ง ค่อยลุกขึ้นมาด้วยแข้งขาอ่อนแรง พร้อมออกไปจากจวนอ๋องหมิงอย่างเศร้าสร้อย
กระทั่งไม่กล้าไปเจอหยุนหว่านหนิง
ที่ไหนได้เพิ่งกลับมาถึงจวนอ๋องฉู่ หยุนหว่านหนิงก็สั่งคนเอาของมาให้
แทนที่จะบอกว่าเอาของมาให้ น่าจะบอกว่าเอาของมาร่วมพิธีฝังศพของเขาดีกว่า
ยังเป็นหีบที่เมื่อกี้โม่หุยเหยียนเอาไปยังจวนอ๋องหมิง เพียงแต่ผ้าแพรในหีบ กลายเป็นผ้าห่อศพเต็มหีบไปหมด
หรูอวี้เป็นคนเอามาส่ง
เผชิญหน้าโม่หุยเหยียนที่แสดงท่าทีเหมือนกินขี้ เขาพูดขึ้นมาอย่างเฉี่อยชาว่า “อ๋องฉู่”
“พระชายาบอกว่า”
หรูอวี้ชี้ไปที่ผ้าห่อศพในหีบ พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องฉู่ชำนาญเปลี่ยนหน้า คิดว่าคงจะชอบเปลี่ยนสีด้วย ผ้าห่อศพพวกนี้ แดงส้มเหลืองเขียวฟ้าครามม่วงล้วนมีหมด”
“อ๋องฉู่ชอบสีไหนก็ใส่สีนั้น ยังสามารถเปลี่ยนได้ทุกวัน”
“หากล้วนไม่ชอบ พระชายาข้าค่อยสั่งคนส่งมาให้อีก”
โม่หุยเหยียนโกรธโมโหจนเทียบกระอักเลือด
หยุนหว่านหนิงกล้าบังอาจมาก
เขาเป็นถึงอ๋องฉู่
เขาเอาของไปให้โม่เยว่ อย่างน้อยก็ยังอ้อมค้อมส่งผ้าแพรไปให้เพื่อไว้ทำผ้าห่อศพ
แต่ผู้หญิงคนนี้ เอาผ้าห่อศพมาให้เขาเลย
นี่ไม่เท่ากับเป็นการสาปแช่งให้เขาตายหรือ?
เห็นสีหน้าโม่หุยเหยียนเขียวม่วง โกรธโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว หรูอวี้หัวเราะเย้ยในใจ ใบหน้ากลับยิ้มแย้มพร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาข้ายังสั่งตัดให้อ๋องฉู่ครบชุด”
“จากโลงศพถึงพวงหรีด ล้วนสั่งทำไว้หมดแล้ว พรุ่งนี้เช้าจะมีคนนำมาส่ง”
“ถึงตอนนั้นของอ๋องฉู่รับไว้ด้วย”
พูดเสร็จ หรูอวี้ผงกหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าน้อยทูลลา”
เดินไปได้หลายก้าว เขาหันกลับมามองโม่หุยเหยียน พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาข้ายังพูดว่า พวกนี้ไม่มีค่าอะไรเลย พระชายาจ่ายให้แล้ว อ๋องฉู่ไม่ต้องจ่ายเอง”
ไม่มีค่าอะไรเลย?
นี่ด่าเขาทางอ้อมว่า เขาเป็นคนไม่มีค่าอะไรเลย?
โม่หุยเหยียนสั่นเทาไปทั้งตัว อยากด่าคนอ้าปากแล้วแต่ก็พูดไม่ออก
อยากต่อยคน แต่หรูอวี้จากไปไกลแล้ว เหลือไว้เพียงผ้าห่อศพหลากสีสัน....
สั่นเทาอยู่สักพัก โม่หุยเหยียนกลอกตา หมดสติล้มลงพื้น
หยุนหว่านหนิงไม่จำเป็นต้องออกหน้า เขาก็โกรธโมโหจนเป็นลม
หรูอวี้เกาหัว ขยับไปใกล้โม่เยว่ แล้วพูดขึ้นว่า “ข้าน้อยก็ไม่รู้ หรือไม่พระชายาลองใช้เข็มแทงดูนายท่านไหม?”
เขาพูดพร้อมกับยื่นเข็มให้หนึ่งเล่ม
ไม่รู้ว่าเจ้าคนนี้ ไปเอาเข็มมาจากไหน
โม่เยว่ “......”
รอหลังจากเขาฟื้น สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือจับตัวหรูอวี้ฝังเข็มให้กลายเป็นเหมือนอย่างเม่น
หรูโม่เตะเขาเบาๆหนึ่งที พร้อมขยิบตาหันไปมองโม่เยว่บนเตียง บ่งบอกเขาว่าไม่ต้องพูดมาก ตนเองจะได้ไม่เดือดร้อน
แต่หรูอวี้ไม่เข้าใจ
ขยิบตาให้กับเขา ไม่แตกต่างอะไรกับการสีซอให้ควายฟัง
“หรูโม่เจ้าเป็นอะไร? หนังตาเป็นตะคริวหรือ?”
หรูโม่ “.....เจ้าสิเป็นตะคริว ทั้งตระกูลล้วนเป็นตะคริว”
“งั้นเจ้าขยิบตาให้ข้า....”
ยังพูดไม่จบ หรูอวี้เข้าใจขึ้นมา รีบเอามือกุมปาก
“พระชายา หากไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะ”
ฉวยโอกาสตอนที่หรูอวี้ยังพูดไม่จบ หรูโม่คว้าดึงตัวเขาออกจากประตูไป ยกความเป็นส่วนตัวให้กับนายท่านกับพระชายา
หยุนหว่านหนิงยังคงตั้งใจตรวจดูบาดแผล ชีพจรของโม่เยว่
พยายามหาสาเหตุที่ทำไมโม่เยว่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา
หากเป็นคนอื่น หยุนหว่านหนิงมองก็รู้เลยว่า ผู้ป่วยสลบจริงหรือว่าแกล้งสลบ....
แต่คนคนนี้คือโม่เยว่ นางจึงคิดอะไรไม่ออก
“ตกลงเป็นอะไรกันแน่?”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดพึมพำว่า “ปกติผู้ชายคนนี้แข็งแรงยิ่งกว่าเสือ ครั้งนี้ทำไมถึงได้อ่อนแอขนาดนี้? หรือมีอาการดื้อยา?”
นางคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่อย่างหนัก จู่ๆก็ถูกคนคว้าจับมือไว้
นางตกตะลึง รีบก้มหน้ามองดู แล้วก็สบกับสายตาสว่างไสวของโม่เยว่.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...