ไม่ว่าจางลาเมี้ยนจะพูดขอร้องยังไง โม่จงหรานก็ไม่สะทกสะท้าน
เวลานี้ เขาถูกทหารรักษาพระองค์หลายคนลากตัวไป
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทหารรักษาพระองค์ก็เข้ามารายงานว่า จางลาเมี้ยนถูกประหาร จนตายแล้ว
พวกเหล่าขุนนางยิ่งใจหายใจคว่ำ อกสั่นขวัญหาย
กษัตริย์ คือเจ้าผู้ทรงปกครองชีวิตและความตายของพวกเขา
ผ่านเรื่องของจางลาเมี้ยน ใครยังจะกล้าพูดอะไรอีก?
เทียบกับที่ทุกคนต่างหวั่นวิตกกันถ้วนหน้า หลังจากได้ยินว่าจางลาเมี้ยนถูกประหารแล้ว โม่หุยเหยียนยืนอยู่ข้างหน้าทุกคน ก้มหน้าก้มตาลงริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มที่ไม่มีใครมองเห็น
……
ในคุกหลวง
หยุนหว่านหนิงพูดไม่หยุดว่า “โม่ฮั่นอี่ว์ เจ้าดูเจ้าในสองวันนี้ กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน แตกต่างอะไรกับหมูตัวหนึ่ง?”
“หมูในคอกยังรู้จักวิ่งรอบคอกหมู ถุยดิน เจ้ารู้จักแต่นอน”
โม่ฮั่นอี่ว์แสดงท่าทีไม่สนใจอย่างหน้าตาย ส่งเสียงเมินสองทีแล้วก็พูดขึ้นว่า “ทำไมเจ้ารู้ชีวิตของหมูดีขนาดนี้? หรือเจ้าเคยอยู่ในคอกหมู?”
หยุนหว่านหนิงสนอกสนใจขึ้นมาทันที
โย้
ราชาแห่งการกิน วันนี้รู้จักพูดเถียงได้ด้วย
สองวันนี้ที่อยู่กับนาง พัฒนาขึ้นแล้ว
หยุนหว่านหนิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เคยอยู่ในคอกหมู ข้าเคยเลี้ยงหมู อย่างเช่นหมูโง่เง่าตรงข้ามที่รู้จักแต่กินตัวนี้”
“หากเจ้าอ้วนขึ้นอีก ไม่พูดถึงว่าเสด็จพ่อจะลงโทษเจ้าไหม เจ้าเคยคิดถึงหยิงหยิงไหม?”
“หยิงหยิงรักสวยรักงามขนาดนั้น ยังเป็นคนมองแต่รูปลักษณ์ภายนอก หากเห็นเจ้าอ้วน เจ้าคิดว่านางจะเหลียวมองเจ้าหรือ?”
ได้ยินแบบนี้ โม่ฮั่นอี่ว์ได้สติขึ้นมาทันที
ใช่
หากเขากลายเป็นคนอัปลักษณ์ หยิงหยิงก็จะไม่ชอบเขาแล้ว
เขารีบกลิ้งลงจากเตียง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอวิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็วที่สุด”
“ข้าไม่รู้”
หยุนหว่านหนิงหันหน้าไปอย่างหยิ่งผยอง
โม่ฮั่นอี่ว์รีบพุ่งไป เกาะอยู่ตรงกรง พร้อมพูดขอร้องอย่างน่าสงสารว่า “พี่สาวหนิง พี่ชายหนิง บรรพบุรุษหนิง โปรดช่วยเหลือข้าที่รอบตัวเต็มไปด้วยไขมันด้วยเถอะ”
หยุนหว่านหนิงค่อยยอมฝืนเหลือบมองดูเขา
มองดูท่าทีน้ำหูน้ำตาไหลของเขา ก็รู้ว่าเขารักโจวหยิงหยิงจริงๆ
หากเขารู้ว่าโจวหยิงหยิงตั้งครรภ์แล้ว....
จะต้องตื่นเต้นดีใจจนเป็นลมแน่?
ตอนนี้ยังบอกเขาไม่ได้ หยุนหว่านหนิงอดกลั้นไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “หากเจ้าอยากครองคู่อยู่กับหยิงหยิงไปนานๆ ไขมันในร่างกายของควรที่จะลดลงจริงๆ”
“หรือไม่เจ้ากระโดดเชือกไหม เป็นวิธีลดความอ้วนได้อย่างไม่เลว เพราะตอนนี้อยู่ในคุกหลวง อย่างอื่นก็ทำไม่ได้”
จะวิ่ง ภายในห้องขังมืดสลัวแล้วคับแคบ เดี๋ยวจะวิ่งจนเป็นลม
ให้ออกกำลังกายประเภทซิทอัพ.....ประเมินโม่ฮั่นอี่ว์สูงเกินไป
กระโดดเชือกง่ายและมีความเป็นไปได้ที่สุด
หยุนหว่านหนิงรีบสั่งผู้คุมหาเชือกมาเส้นหนึ่ง แล้วเอามาทำเป็นเชือกกระโดดแบบง่ายๆ
หลังจากนางทำให้ดูก่อนแล้ว โม่ฮั่นอี่ว์ก็เริ่มทำตาม
เพิ่งนอนกลับไปบนเตียง โม่เยว่ก็เข้ามาแล้ว
อยู่ห่างไกล หยุนหว่านหนิงก็ดมได้กลิ่นยาบนตัวเขาแล้ว
เทียบกับปกติแล้ว สีหน้าของเขายังคงขาวซีดอย่างมาก
หรูโม่ประคองเขา ก้าวเดินมาถึงตรงหน้าประตูคุกหลวงห้องหยุนหว่านหนิง เขาพูดจาก็ลำบากมาก น้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่ยังคงทำให้รู้สึกหวาดกลัวว่า “เปิดประตู”
ใต้เท้าหยันเปิดประตูให้ด้วยตนเอง
หยุนหว่านหนิงรีบโดดลงจากเตียง ไปประคองโม่เยว่ถึงหน้าประตูด้วยตนเอง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามาได้อย่างไร?”
สุดท้ายก็ปิดบังไม่ได้
สีหน้าหรูโม่ย่ำแย่ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายา ที่นี่ไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน ท่านคงไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว”
“ท่านถูกจับขังคุกหลวงมาสองวันสองคืนแล้ว ข้าน้อยปิดบังไม่ไหว”
หยุนหว่านหนิงก็รู้ว่าเขาลำบากใจ จึงโบกมือให้เขาออกไปก่อน
นางมองดูสีหน้าขาวซีดของโม่เยว่ อย่างรู้สึกสงสารและรู้สึกผิด
ความรักที่ "หนักหน่วง" และเคลือบแคลงใจเช่นนี้ ทำให้หยุนหว่านหนิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
“เจ้ายิ้มอะไร?”
เห็นนางยังยิ้มออกมาได้ โม่เยว่พูดบ่นขึ้นว่า “อย่าคิดว่าข้าจะให้อภัยเจ้าแล้ว ครั้งนี้เจ้าลงมือคนเดียวลับหลังข้า เสี่ยงอันตรายอยู่คนเดียว ข้าโกรธมาก”
“เจ้าคิดว่าในคุกหลวงนี้ เป็นสถานที่ปลอดภัยหรือ หากมีคนลอบทำร้าย เจ้าไม่มีที่หลบด้วยซ้ำ”
เขาพูดตำหนิอยู่อย่างจริงจัง
หยุนหว่านหนิงกลับเดินไปด้านหลังเขาอย่างยิ้มแย้ม นวดไหล่ให้เขาเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่าโกรธเลย เรื่องก็ทำไปแล้ว เจ้ายังจะมาต่อว่าข้าให้ทรมานทำไม”
“ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะดูทรมาน”
เห็นเพียงโม่ฮั่นอี่ว์ที่นั่งขัดสมาธิมองดูอยู่อย่างสนุกตรงด้านข้าง.....
หัวของเขานั้น ไม่อยากเห็นยังยาก
“หากเกิดอะไรขึ้น ข้าจะคาดหวังให้เขาช่วยเจ้าได้หรือ?”
เขาเอื้อมมือชี้ไปที่โม่ฮั่นอี่ว์
โม่ฮั่นอี่ว์ “......ข้าเป็นยังไง? ข้าแบบนี้เป็นยังไง? โม่เยว่ข้าเป็นพี่รองของเจ้านะ เจ้าว่าพี่รองของเจ้าแบบนี้เหมาะสมหรือ?”
เขาท้าทายอย่างมาก ไม่เชื่อว่าโม่เยว่จะสามารถทำร้ายเขาผ่านประตู
ยังไงตอนนี้โม่เยว่ก็เป็นคนป่วย
ที่ไหนได้ ในขณะที่กำลังอวดดี โม่เยว่คว้าเอาถ้อยชาบนโต๊ะโยนมา ตกกระจายเต็มพื้น โม่ฮั่นอี่ว์ตกใจพรวดลุกขึ้นมา ถอยหลังไปหลายก้าว
“เห้ย นี่เจ้าคิดจะลอบฆ่าพี่รองของเจ้าหรือ?”
“ใช้ชีวิตอยู่ในคุกหลวงอย่างไม่เลวนี่ มีน้ำชาด้วย”
โม่เยว่มองดูโม่ฮั่นอี่ว์ที่หวาดกลัว ค่อยเผยรอยยิ้มออกมา
สิ่งที่เขามีความสุขที่สุดก็คือ กินข้าวนอนหลับรักหนิงเอ๋อร์รักหยวนเป่า ยังมี....ทำร้ายโม่ฮั่นอี่ว์
ถูกโม่ฮั่นอี่ว์ขัดคอขึ้นมาแบบนี้ ความโกรธในใจเขาหายไปแล้วไม่น้อย
โม่ฮั่นอี่ว์ยังกรีดร้องขึ้นมาว่า “เจ้าเจ็ด เจ้าสารเลว เจ้าโกรธโมโหแล้วมาลงที่ข้า เจ้ายังเป็นคนอยู่ไหม”
เสียงกรีดร้องของเขา ดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย
ในเวลานี้ ได้ยินเสียงร้องเรียกขึ้นมาด้วยเสียงต่ำว่า “อ๋องหมิง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...