อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 538

คนชุดดำกำลังวิ่งอยู่อย่างรวดเร็ว จู่ๆก็ถูกหยุนหว่านหนิงตบไหล่จากด้านหลัง….

เขาเข่าอ่อน ล้มนั่งกองลงบนพื้น

“พระชายาหมิง ท่านฆ่าข้าเสียเถอะ ขอร้องอย่าทรมานข้าเลย”

คนร้ายไม่มีอาวุธแล้ว ยัง‘ไม่มี’ดวงตา ต้องมาเผชิญกับหยุนหว่านหนิงที่คาดเดายาก ตอนนี้คนชุดดำอยากตายอย่างเดียว

“หากเจ้าไม่ยอมพูด งั้นข้าก็จะใช้วิธีเดา”

หยุนหว่านหนิงค่อยๆนั่งอยู่บนเก้าอี้

นางเงียบไปสักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “อืม ก่อนอื่นตัดโม่ฮั่นอึว์ออกไปได้….”

โม่ฮั่นอี่ว์ที่อยู่ด้านข้าง “….หยุนหว่านหนิง สมองเจ้ามีปัญหาหรือเปล่า?”

เขาถูกขังอยู่ในคุก ยังจะลอบฆ่านางได้หรือ?

ทำไมเขาจะต้องลอบฆ่านาง?

“ตอนนี้เราถูกขังอยู่ด้วยกัน ใส่กางเกงตัวเดียวกันแล้ว?

“ใครใส่กางเกงตัวเดียวกับเจ้า? เจ้าถูกโม่เยว่ต่อยน้อยไปใช่ไหม?”

หยุนหว่านหนิงถ่มน้ำลาย

เพิ่งพูดเสร็จ ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เสียงของผู้คุมเต็มไปด้วยความประจบสอพล ดังขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้าน้อยดูแลพระชายาเป็นอย่างดี”

“คืนนี้พระชายาไม่อยากทานอาหาร ข้าน้อยเอาอาหารไว้ให้ในห้องขัง”

“เดี๋ยวถ้าพระชายาหิว ข้าน้อยค่อยเอาไปอุ่น....”

ตามด้วยน้ำเสียงแล้วเสียงฝีเท้าที่ชัดเจน หยุนหว่านหนิงเงยหน้าหันไปมอง แล้วก็เห็นผู้คุมกำลังล้วงเอากุญแจมาเปิดประตู

ด้านหลังเขาคือโม่เยว่ที่มีหรูโม่ประคองไว้

ภายใต้เสียงเทียนมืดสลัว ปรากฏใบหน้าโม่เยว่อย่างวับวาบ

เมื่อก่อนเห็นว่าเขาน่าชัง

ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายผ่ายผอมไปหมดไม่พอ เพราะเสียเลือดมาก ผ่านไปตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้พักผ่อนรักษาดีๆ สีหน้ายังคงขาวซีด

ทั้งร่างกาย แลดูผอมอ่อนแอไปมาก

หยุนหว่านหนิง‘สงสารจับใจ’ นางคิดในใจว่าต่อไปจะต้องปกป้องผู้ชายคนนี้ให้ดี

เซี่ยเอ้ย ทำให้คนอื่นต้องเป็นห่วงจริงๆ

นางลุกขึ้นยืน โม่เยว่ก็เดินเข้ามาแล้ว

มองเห็นคนชุดดำนั่งกองอยู่บนพื้น ดวงตาบวมเป็นลูกท้อ โม่เยว่เดารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

สายตาเขาฉายแววสังหาร พร้อมพูดขึ้นว่า “หรูโม่”

หรูโม่กำลังจะเดินมา หยุนหว่านหนิงกลับพูดห้ามว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งฆ่าเขา ข้ายังเล่นไม่อิ่มเลย”

คนชุดดำอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

ยังเล่นไม่อิ่ม?

เขาเป็นนักฆ่า นักฆ่าที่มาลอบฆ่านาง

ให้เกียรติเขาหน่อยได้ไหม?

โม่เยว่พยักหัว หรูโม่ถอยหลังไป

หยุนหว่านหนิงมาประคองเขาด้วยตนเอง สายตาโม่เยว่มองบนโต๊ะ...บนโต๊ะมีถ้วยว่างหนึ่งใบ ในถ้วยยังมีเศษอาหารเล็กน้อย ข้างถ้วยมีศพหนูอ้วนสองตัว

“นี่หรือที่เจ้าพูดว่า ดูแลพระชายาเป็นอย่างดี?”

โม่เยว่ค่อยๆหันหน้าไป มองดูผู้คุมด้วยสายตาเยือกเย็น

ผู้คุมเดินมาดู แล้วทั้งร่างกายก็อ่อนแรงลง คุกเข่าอยู่ด้านข้างคนชุดดำเหมือนอย่างโคลน

คนหนึ่งนั่ง คนหนึ่งคุกเข่า เรียงเป็นทีมอย่างดี

“ท่านอ๋อง ข้าน้อย ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

ผู้คุมพูดไม่ออก มองดูโม่เยว่อย่างหมดแรง พูดขึ้นด้วยสายตาหวาดกลัวว่า “ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต”

สีหน้าโม่เยว่เรียบเฉย

แต่ลงมืออย่างไร้ความปรานี

เขาคว้าเอาถ้วยเปล่าบนโต๊ะขึ้นมา โยนใส่หัวผู้คุมอย่างแรง

เสียงดัง “ปัง” อย่างชัดเจน ถ้วยแตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้คุมหัวแตกเลือดไหลอาบ

เขาล้มกองลงพื้นอย่างอ่อนแรง แล้วสลบไป

“ไม่ได้เรื่อง”

โม่เยว่ใช้เท้าเตะเขากระเด็นลอยไป ร่างกายผู้คุมกระเด็นไปกระแทกกำแพงอย่างแรง แล้วหล่นลงพื้นอย่างหนัก.....

หรูโม่หันไปมองดูผู้คุมสองคนที่อยู่ด้านหลัง ทั้งสองคนแทบไม่กล้าหายใจแรง แล้วพูดขึ้นว่า “ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม? ลากตัวออกไป อย่าทำเปื้อนสายตาพระชายา”

“ขอรับ ขอรับ”

ผู้คุมสองคนเดินไปอย่างสั่นเทา ลากตัวผู้คุมที่สลบไปแล้วนั้นออกไป

หายากที่จะเห็นพระชายาออดอ้อนนายท่าน หรูโม่ทำเป็นเหมือนไม่มีตา รีบหันมองไปทางอื่น

แต่โม่เยว่ก็ปลอบอย่างตั้งใจ

เขาตบบ่าหยุนหว่านหนิงเบาๆ ดึงนางมาซบอก พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่”

โม่ฮั่นอี่ว์ที่พยายามเอาหัวลอดช่องว่างระหว่างแท่งเหล็กนั้น เห็นภาพนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าสองคนนี่จริงๆเลย คนหนึ่งก็เสแสร้งอ่อนแอได้เหมือนจริงๆ”

“คนหนึ่งทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่กลัวอะไรเลย กลับยังปลอบนางอย่างตั้งใจ”

“พวกเจ้าสองคนไม่ไปแสดงละคร ช่างน่าเสียดายฝีมือยิ่งนัก”

“เจ้าจะไปรู้เรื่องอะไร”

หยุนหว่านหนิงซบอยู่ยนไหล่โม่เยว่ สายตามองดูโม่ฮั่นอี่ว์อย่างไม่พอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากำลังอิจฉา ริษยา เห็นท่านอ๋องมาเยี่ยมข้า เจ้าก็เลยไม่พอใจ”

“แน่จริงเจ้าก็ให้หยิงหยิงมาเป็นห่วงเจ้าสิ”

คำพูดประโยคเดียวพูดแทงใจดำโม่ฮั่นอี่ว์

เจ็บปวดแค่ไหน

เขาห้อยหัวกลับไปอย่างเงียบๆ ปืนขึ้นเตียงเอาผ้าห่มมาคลุมหัวไว้

“คนชุดดำคนนี้จะจัดการยังไง?”

หยุนหว่านหนิงมองดูใบหน้าตึงเครียดของโม่เยว่ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหนวดเคราของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาไม่ยอมปริปากพูด ว่าใครส่งเขามาลอบฆ่าข้า”

“ไม่ยอมปริปากพูด งั้นก็งัดปากของเขา”

เขาหันไปพูดสั่งหรูโม่ว่า “พาตัวไป”

ยังไม่เคยมีปากไหนที่เขางัดไม่ได้

หรูโม่หิ้วตัวคนชุดดำไปแล้ว

โม่เยว่หันมามองดูหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตามืดครึ้มว่า “หนิงเอ๋อร์....”

เขาคว้าจับมือแสนซนของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “บาดแผลข้ายังไม่หาย ที่นี่ก็ไม่ใช่จวนอ๋อง เจ้าอย่าดื้อ”

ดื้อ?

หยุนหว่านหนิงค่อยรู้สึกตัวขึ้นมาว่า เพิ่งแค่การกระทำของนางเมื่อกี้ โม่เยว่กลับ....

คิดอยากที่จะลงโทษนาง?

นางลองชักมือกลับ แต่โม่เยว่จับไว้แน่น จากนั้นก็จูบนางอย่างรุนแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์