เขาจูบอย่างเร่งรีบ และก็รุนแรงมาก
หยุนหว่านหนิงค่อนข้างต้านทานไม่ไหว
“โม่.....”
นางลองผลักเขา เขากลับยิ่งกอดนางไว้แน่น แทบจะกลืนกินนางทั้งร่างกาย
หยุนหว่านหนิงอยากดิ้นรน กลับก็กลัวว่าดิ้นแรงไปแล้วจะทำให้เขาเจ็บแผล
นานสักพัก โม่เยว่ค่อยหยุด
เขาไม่ได้ปล่อยนาง เอาคางวางบนไหล่ของนาง พ่นลมหายใจดังข้างหูของนาง ผสานกับน้ำเสียงที่ดูทุ้มต่ำของเขา พูดขึ้นว่า “นี่เป็นการลงโทษเจ้า”
“ลงโทษ?”
หยุนหว่านหนิงไม่เข้าใจ
ผู้ชายคนนี้เพิ่งจูบนางอย่างหนักหน่วง.....
ตอนนี้นางก็กำลังซบอยู่บนตัวโม่เยว่ ทั้งสองคนเอนพิงกัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมต้องลงโทษข้า?”
หยุนหว่านหนิงถามอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ใครใช้ให้เจ้าหาเรื่องข้า?”
โม่เยว่พูดอย่างงุนงง แต่หยุนหว่านหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าหมายถึงอย่างไร
เขาหมายถึงหลายวันก่อนที่อยู่จวนอ๋อง ตอนที่นางเปลี่ยนยาให้เขา....ตั้งใจแกล้งหยอกล้อให้เขาทรมานเล่นๆ แล้วหยุนหว่านหนิงก็ไม่ยอมให้เขาได้ “ปลดปล่อย”
เรื่องนี้ ทำให้โม่เยว่‘แค้นฝังใจ’ จดจนอยู่นานถึงขนาดนี้
วันนี้นับว่าได้โอกาส เอาคืนนางให้สาสม
หยุนหว่านหนิงหน้าแดง ไอเบาๆแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าช่างจดจำความผิดจริงๆ”
“ลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย ยังมีสิบปีอีกนับไม่ถ้วน”
โม่เยว่พูดขึ้นด้วยเสียงแหบ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรที่น่าประทับใจ แต่ประโยคนี้ไพเราะกว่าคำใดๆ
หัวใจหยุนหว่านหนิง เดิมเป็นเหมือนแอ่งน้ำนิ่ง
คืนนี้เพราะมีคำพูดของเขาประโยคนี้ ทำให้มีชีวิตชีวาคืนมาอีกครั้ง
“หนิงเอ๋อร์ รีบกลับมา ข้ารอเจ้าอยู่”
โม่เยว่โยนคำพูดประโยคลึกซึ้ง จากนั้นก็ค่อยๆปล่อยหยุนหว่านหนิง สายตานั้นมองดูนางจนหน้าแดงหูแดง พร้อมพูดขึ้นว่า “บาดแผลของข้า จะหายในเร็ววันแน่นอน”
หยุนหว่านหนิง “……”
นี่หมายความว่ายังไง ต่อให้เป็นคนโง่ก็ฟังเข้าใจ
“เจ้า เจ้ารีบกลับไปเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว มีคนรู้เข้าจะไม่ดี”
“มีอะไรไม่ดี?”
ไม่ง่ายกว่าจะได้เห็นท่าทีเอียงอายของหยุนหว่านหนิง โม่เยว่หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ามาเยี่ยมภรรยาของตนเอง ยังจะมีคนนำไปนินทาหรือ? เราไม่ได้แอบลักลอบเจอกันสักหน่อย”
พูดเสร็จ เขาขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของนางว่า “แต่ ลักลอบเจอกันก็ไม่เลว ดูเหมือนจะยิ่งตื่นเต้น”
หยุนหว่านหนิง “!!!”
หน้าแย่ๆ นี้จะไม่เอาแล้วใช่ไหม?
อย่าคิดว่าตนเองมีบาดแผล แล้วนางจะทำอะไรเขาไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ เมื่อก่อนดูเหมือนเป็นคนสุขุม เย็นชา
ใครจะไปคิดว่า ตอนนี้จะกลายเป็นคนแบบนี้?
หยุนหว่านหนิงกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “ร่านเงียบ”
โม่เยว่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แล้วก็กลับออกไป
เดินออกมาจากห้องขังหยุนหว่านหนิง กลับเห็นจวฉางเฟิงเกาะอยู่ตรงกรงเหล็ก มองดูเขาอย่างตาละห้อย
ท่าทีนั้น เหมือนอย่างหมาน้อยรออาหารจากเจ้านาย
โม่เยว่ทนดูไม่ไหว
โจวฉางเฟิงยังไม่ทันพูดว่าอะไร เขาก็พูดขึ้นมาก่อนว่า “คุณชายโจวไม่ต้องใจร้อน เรื่องตระกูลโจว ข้าสั่งคนไปแอบสืบความแล้ว”
“รอข้าสืบความได้อย่างชัดเจนแล้ว จะนำไปทูลเสด็จพ่อ”
“ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณท่านอ๋อง”
โจวฉางเฟิงที่เป็นผู้ชายอกสามศอก แทบจะร้องไห้ออกมา
เขามองดูโม่เยว่ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “หากท่านอ๋องสามารถคืนความยุติธรรมให้กับตระกูลโจว ข้าจะยกน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของข้าให้กับท่านอ๋อง”
เขาก็คิดไม่ออกว่าจะตอบแทนด้วยวิธีไหน เพื่อเป็นการตอบแทนโม่เยว่
เพิ่งพูดออกมา เขาก็ค่อยรู้ตัวขึ้นมา
นี่เป็นการตอบแทนท่านอ๋องตรงไหน?
เห็นได้ชัดว่าเป็นการจับโม่เยว่อยู่บนกองไฟ
นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีใคร?
นักฆ่าในคืนนี้ถึงจะโง่ทึ่ม แต่ฝีมือไม่เลว สามารถแอบเข้ามาในคุกหลวงได้อย่างไร้ร่องรอย ยังสามารถเข้ามาในห้องขังของนางได้โดยตรง.....
คนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่คนธรรมดาแน่
หยุนหว่านหนิงคิดยังไงก็คิดไม่ออก
คิดไปคิดมา แล้วก็นอนหลับไป
เมื่อตื่นขึ้นมาฟ้าก็สว่างแล้ว เห็นโม่เฟยเฟยเกาะอยู่ตรงประตูห้องขัง มองดูนางตาละห้อย
นางม้วนม่านขึ้นมา ลักษณะท่าทีน่าสงสารของนางปรากฏตรงหน้าหยุนหว่านหนิง
“เฟยเฟย?”
เห็นเป็นโม่เฟยเฟย หยุนหว่านหนิงอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็เดินมาตรงข้างประตูคุก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามาได้อย่างไร? ตอนนี้กี่โมง?”
“เพิ่งผ่านยามเหม่า (*ช่วงเวลา05.00-07.00)เอง”
โม่เฟยเฟยพูดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยว่า “พี่สะใภ้เจ็ด เจ้ารีบออกมาเถอะ”
“นอกจากเจ้า ข้าก็ไม่รู้จะไปคุยกับใครแล้ว เสด็จแม่เต๋อเฟยตีข้า พี่เจ็ดก็ไม่สนใจข้า ช่วงนี้พี่หญิงห้าก็เก็บตัวไม่เจอใคร”
“พี่สะใภ้ใหญ่กลับตงจวิ้นไปแล้ว พี่สะใภ้รองไม่รู้หายไปไหน พี่สะใภ้สามก็บ้าไปแล้ว”
“เป็นแบบนี้ต่อไป ข้าก็จะเป็นบ้าแล้ว”
“ทำไมหรือ?”
ดูท่าทีน่าสงสารของนาง หยุนหว่านหนิงถามขึ้นมาอย่างแปลกใจว่า “ทำไมเสด็จแม่เต๋อเฟยต้องตีเจ้า?”
“เสด็จแม่เต๋อเฟยว่าข้าอยากแต่งงาน บอกว่าเสียแรงที่อุตส่าห์เลี้ยงข้ามา ดังนั้นจึงตีข้า
อยากแต่งงาน?
ถูกตี?
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีว่า “นี่เจ้าอยากแต่งงานกับใครหรือ?”
โม่เฟยเฟยยังไม่ทันพูดตอบ หรูอวี้ก็ปรากฏตัวด้านหลังนาง
นางตกใจแทบแย่ รีบขยับไปด้านข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ หรูอวี้? เจ้ามาทำไม? ข้าตกใจแทบแย่”
หรูอวี้ไม่พูดตอบโม่เฟยเฟย
ใบหน้าของเขาตึงเครียด สายตาที่มองดูหยุนหว่านหนิงแฝงไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว พร้อมพูดขึ้นอย่างอ้ำอึ้งว่า “พระชายา เสี่ยวเตี้ยนเซี่ย....เกิดเรื่องกับเสี่ยวเตี้ยนเซี่ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...