อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 547

ในเมืองหลวง

เพราะอยากจะหายไวๆ เพื่อที่จะได้ทานเนื้อได้เร็วๆ ...

โม่เยว่จึงตั้งหน้าตั้งตาทานยาและรักษาบาดแผลอย่างสม่ำเสมอ อาการบาดเจ็บของเขาจึงค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ในคุกใต้ดินของจวนอ๋องหมิง

มือสังหารที่ลอบฆ่าหยุนหว่านหนิงถูกมัดรอบตัวด้วยโซ่เหล็กที่หนักเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าบนร่างกายถูกฉีกออกจนหมด ท่อนล่างเหลือเพียงกางเกงซับในตัวเดียวเท่านั้น

โม่เยว่นั่งมองดูเขาอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่ไกลมากนัก

ดวงตาของชายชุดดำยังคงบวมแดง เขาลืมตาขึ้นเล็กน้อยพลางจ้องมองไปยังโม่เยว่ “ท่านอ๋องหมิง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนสั่งการให้ข้าลอบสังหารพระชายาหมิง!”

“ข้าฝีมือธรรมดา ไม่ได้เป็นนักฆ่ามืออาชีพ จะรับงานก็ต่อเมื่อว่างไม่มีอะไรทำ”

“ช่วงนี้กำลังยุ่งวุ่นอยู่กับการทำไร่นา เดิมทีข้าตั้งใจจะเก็บเกี่ยวข้าวสาลีอยู่ที่เรือน แต่มารดาข้าจู่ๆ ก็มาล้มป่วยอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องใช้เงิน ข้าจึงต้องจำใจรับทำภารกิจนี้!”

เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าเองก็จนปัญญาจริงๆ!”

หรูอวี้เดินเข้าไปตบเขาอย่างเต็มแรง “เจ้ารับเงินไปแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนสั่งให้เจ้ามาลอบสังหารพระชายาของพวกข้าอย่างนั้นรึ”

“ข้าไม่รู้จริงๆ!”

ชายชุดดำถูกต่อยตีจนแทบจะหมดสติ

แต่เพราะถูกโซ่เหล็กมัดอยู่ เขาจึงไม่ได้ล้มลงไปกองกับพื้น

ศีรษะของเขาเอนไปมาด้วยความเวียนหัว “พวกท่านคงจะรู้ดี ว่านอกจากนักฆ่ามืออาชีพและกลุ่มนักฆ่ามืออาชีพแล้ว ยังมีนักฆ่าที่เป็นชาวบ้านธรรมดาอีกด้วย”

“ข้าก็คือกลุ่มคนประเภทหลัง! จำเป็นต้องมีคนกลางช่วยแนะนำ จึงจะสามารถรับทำภารกิจได้”

ชายชุดดำพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“แล้วใครเป็นคนแนะนำให้เจ้า”

หรูโม่ถามขึ้นเสียงขรึม

“ข้าไม่รู้!”

ชายชุดดำเพิ่งจะตอบกลับ หรูอวี้ก็ง้างมือต่อยเขาอย่างเต็มแรงอีกครั้ง ครั้งนี้เขาถึงกับอาเจียนเลือดออกมาทีเดียว “ข้าไม่รู้จริงๆ!”

“หากเจ้ายังพูดว่าไม่รู้อีก ข้าจะต่อยให้ฟันร่วง!”

หรูอวี้ขู่เขา

ชายชุดดำได้ยินแล้วก็รีบหุบปากทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงค่อยพูดขึ้นพึมพำว่า “ถึงท่านจะทุบตี ข้าก็ไม่รู้อยู่ดี! ข้าได้รับภารกิจในตอนกลางคืนก็เท่านั้น”

“คนผู้นั้นตัวไม่ค่อยสูงเท่าไหร่นัก และก็ไม่ใช่คนเดิมที่เคยมอบหมายภารกิจให้กับข้า”

“อีกอย่างน้ำเสียงของเขาค่อนข้างแหบแห้ง เหมือนกับคนชราก็ไม่ปาน! ไม่มีร่องรอยอะไรทิ้งไว้แม้แต่นิดเดียว เขาวางเงินหนึ่งถุงและกระดาษหนึ่งแผ่นเท่านั้น”

“บนกระดาษเขียนว่า ‘หยุนหว่านหนิง’ เพียงสามคำเท่านั้น”

เขาเพิ่งจะพูดจบ หรูอวี้ก็ตบเข้าบ้องหูเขาอย่างเต็มแรง

ชายชุดดำถูกตีจนมึนหัวไปหมด

เขาตะโกนถามด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจว่า “ทำไมยังตีข้าอีก ข้าพูดแล้วมิใช่หรือว่าข้าไม่รู้จริงๆ?!”

“บังอาจเอ่ยนามจริงของพระชายา ถูกข้าตบสั่งสอน เจ้ายังจะมีหน้ามารู้สึกน้อยใจอีกหรือ?!”

ชายชุดดำเบะปากด้วยความน้อยใจ

“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าใครเป็นคนบงการเจ้า”

หรูอวี้หยิบเหล็กร้อนที่ถูกเผาจนแดงขึ้นมา

ชายชุดดำเห็นแล้วก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขารีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ปนร้องไห้ “พี่ท่าน ท่านอ๋อง! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าคนผู้นั้นคือใคร ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้ายังต้องกลับไปเก็บเกี่ยวข้าวสาลีอีก!”

“มารดาของข้ากำลังป่วยหนัก ภรรยาของข้าก็กำลังตั้งครรภ์ หากข้ายังไม่รีบกลับไปเก็บเกี่ยว ข้าวสาลีก็จะถูกนกจิกกินจนหมด!”

หรูอวี้ “...”

เจ้าคนนี้!

จนถึงตอนนี้ก็ยังห่วงข้าวสาลีไม่เลิก!

“ไม่ใช่คนที่หากินกับงานเช่นนี้ ก็ไม่ควรก้าวเข้าไปทำงานในวงการนี้ รับงานเช่นนี้”

โม่เยว่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

ดวงตาที่ทั้งปูดบวมและแดงช้ำจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น ไม่สามารถเดาได้ว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือโกหก

โม่เยว่กุมหน้าผากพลางพูดขึ้นว่า “หรูอวี้”

“นายท่าน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”

หรูอวี้เข้าใจทันทีว่าเขาจะต้องทำอย่างไร

หรูโม่ช่วยประคองโม่เยว่พลางเดินออกไป ในห้องขังเหลือเพียงหรูอวี้กับชายชุดดำเท่านั้น

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหรูอวี้ ชายชุดดำก็กลืนน้ำลายลงคอพลางพูดขึ้นว่า “ท่านคิดจะทำอะไร อย่ามาคิดเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ ท่านและข้าต่างก็เป็นผู้ชายกันทั้งคู่...”

“เล่นพิเรนทร์บ้าบออะไรกัน! ข้าไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชาย!”

หรูอวี้สบถเสียงดัง

ชายชุดดำตกใจจนสะดุ้งโหยง “อย่านะ! มารดาของข้าอายุจะแปดสิบแล้ว ปล่อยมารดาของข้าไปเถิด!”

หรูอวี้ “...”

“ทว่าคนที่มอบหมายภารกิจให้กับข้าได้พูดไว้ว่า คนผู้นั้นสูงส่ง เป็นบุคคลที่ข้าไม่สามารถล่วงเกินได้! ดังนั้นให้ข้านำเงินแล้วไปทำภารกิจให้เสร็จสิ้น อย่าชักช้าและห้ามพูดมาก”

ศีรษะของเขาเปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ ใบหน้าแดงก่ำ ขมับปูดนูนไปด้วยเส้นเอ็นและเส้นเลือด

เห็นได้ชัดว่าเขาทรมานเป็นอย่างมาก

หรูอวี้จึงโบกมือเบาๆ ให้หญิงงามทั้งสามถอยออกไป “ไม่สามารถล่วงเกินได้อย่างนั้นรึ เจ้ารับภารกิจตรงไหน”

ชายชุดดำส่ายหน้าไม่ยอมบอก “ข้าย่อมต้องรับอยู่แถวๆ ที่พักของข้าอยู่แล้ว! พวกท่านเก่งกาจขนาดนี้ หากข้าพูดความจริงออกไป ท่านเกิดฆ่าครอบครัวของข้าจนหมด แล้วข้าจะทำอย่างไร”

คิดไตร่ตรองได้รอบคอบดีทีเดียว

ดังนั้น ให้ตายเขาก็คงไม่ยอมพูดความจริงออกมา

“ไม่ยอมบอกรึ”

หรูอวี้แสยะยิ้ม “ดูท่าแล้วเมื่อครู่นี้ข้าคงจะสั่งสอนเจ้ายังไม่พอ...ข้าเคยได้ยินมาว่าหากทนทรมานจนเกินไป สุดท้ายร่างกายอาจระเบิดจนตายได้!”

หรูอวี้จงใจขู่ขวัญเขา

สีหน้าของชายชุดดำก็เปลี่ยนไปในทันที

“หากเจ้าตายแล้ว มารดาของเจ้าก็จะป่วยตาย”

หรูอวี้พูดต่อไปว่า “ภรรยาของเจ้าคลอดลูกออกมาแล้ว เจ้าก็ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็น หากภรรยาของเจ้าอยู่เป็นหม้ายเพื่อเจ้าก็ยังพอว่า แต่หากนางไม่อยู่เป็นหม้ายเพื่อเจ้า...”

“นางก็จะพาลูกเจ้าไปแต่งงานใหม่ ชายผู้อื่นก็จะนอนกับหญิงของเจ้า และยังทุบตีบุตรของเจ้าด้วย!”

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ร่างกายของชายชุดดำก็สั่นเทาขึ้นมา

เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด!

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยอมบอกสถานที่ที่ใช้มอบหมายภารกิจออกมา

พูดจบเขาก็ขอร้องวิงวอนหรูอวี้ “นายท่าน ข้าบอกทุกอย่างที่ข้ารู้ออกมาหมดแล้ว ท่านปล่อยข้าไปได้หรือไม่”

“ปล่อยเจ้าไปงั้นรึ”

หรูอวี้หยิบไม้พลองที่อยู่ข้างๆ ทุบหัวของชายชุดดำอย่างจัง เขาร้องเอื้อกจากนั้นก็หมดสติไป

“ฝันไปเถิด!”

หรูอวี้สบถเสียงในลำคอเบาๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องขังไป

หลังจากที่รายงานโม่เยว่เรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบถามขึ้นว่า “นายท่าน เราจะทำอย่างไรกันต่อขอรับ”

โม่เยว่ไม่ได้ตอบกลับ

ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยพูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่าเมื่อคืนนี้มีนักฆ่ามาลอบสังหารบุตรชายของข้าอย่างนั้นรึ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์