อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 546

กันไฉที่เป็นหัวหน้าเห็นแล้วก็รีบขวางลูกน้องที่อยู่ด้านหลังทันที

แต่เพราะพวกเขากำลังหนีลงเขา เมื่อคืนนี้ก็มีน้ำค้างค่อนข้างมาก ทางเดินบนเขาทั้งเปียกและลื่น

กันไฉขวางอยู่ด้านหน้าสุด คนที่อยู่ด้านหลังต่างก็หยุดฝีเท้าไม่อยู่

ทุกคนพยายามจะหยุดให้ได้ แต่เพราะขาที่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง จึงพากันไถลลงไป กันไฉผู้น่าสงสารถูกทับอยู่ด้านล่างสุด คนนับสิบทับถมกันจนเป็นอรหันต์

“โอ๊ย!”

กันไฉถูกทับจนแทบจะกระอักเลือด เขาตะโกนร้องด้วยความยากลำบาก “รีบลุกขึ้น ออกไปให้หมด!”

เหล่าบรรดามือสังหารรีบพากันลุกขึ้นด้วยความลุกลี้ลุกลน แต่พวกเขากลับดูเหมือนกำลังขี่วงล้อไฟก็ไม่ปาน พากันเดินแหวกกันไฉอย่างทุลักทุเล แล้วก็พากันล้มเข้าไปในพุ่มไม้

กันไฉลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก

เขาเป็นมือสังหาร ซึ่งไม่ใช่แค่มือสังหารธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นถึงพี่ใหญ่ของคณะมือสังหาร...

กันไฉมองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้านั้นไม่ธรรมดา

ภายนอกเขาดูธรรมดา แต่รอบข้างกลับปะทุไปด้วยกลิ่นอายอาฆาต

คนผู้นี้ถือว่ามีฝีมือไม่เบาทีเดียว!

“เจ้า เจ้าคือผู้ใด คิดจะทำอะไร”

กันไฉยืดเอวพลางจ้องมองเขาตาเขม็งด้วยแววตาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดแล้ว

“ข้าแซ่ซ่ง”

ซ่งจื่ออวี๋จ้องมองเหล่าบรรดามือสังหารที่ล้มระเนระนาดอยู่ในพุ่มไม้ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย จากนั้นก็เหลือบมองกันไฉ “มิทราบว่าท่านมีนามว่าอย่างไร”

นี่มัน...

กันไฉเริ่มรู้สึกลังเลขึ้นมา

เมื่อครู่นี้เขาสัมผัสผิดพลาดหรืออย่างไรกัน

ชายผู้นี้ดูนิสัยสุภาพเรียบร้อย รูปร่างเรียวเล็กแต่กลับไม่ได้ดูสูงใหญ่แต่อย่างใด

เวลาพูดจาก็ดูมีมารยาท ไม่เหมือนยอดฝีมือเลยแม้แต่น้อย คงจะเป็นหนอนหนังสือมากกว่ากระมัง?!

กันไฉก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมา

เขายืดอกพลางเดินเข้าหาซ่งจื่ออวี๋ด้วยสีหน้าท่าทีที่เย่อหยิ่ง “น้องซ่ง ข้าแซ่กัน นามว่าไฉ เรียกข้าว่ากันไฉก็พอ!”

กันไฉ?!

ชื่อนี้ถือว่าพิลึกไม่น้อย

แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์กว้างขวางเช่นซ่งจื่ออวี๋ก็รู้สึกคาดไม่ถึง

“พี่กันไฉ ยินดีที่ได้พบกันครั้งแรก”

ไม่เสียทีที่เป็นซ่งจื่ออวี๋ เขาไม่เผยสีหน้าตกตะลึงหรือแปลกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ เท่านั้น จากนั้นก็กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ก็เป็นกันเองในเวลาเดียวกัน

“สวัสดี สวัสดี”

กันไฉรีบเข้าเดินเข้าไปจับมือ

ซ่งจื่ออวี๋รีบถอยหลังมาหนึ่งก้าวพลางจ้องมองกันไฉที่เลอะดินโคลนทั้งตัวด้วยสายตาที่รังเกียจ

กันไฉรีบก้มดูตัวเอง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาด้วยความเก้อเขินพลางพูดขึ้นว่า “ดูข้าสิ! เนื้อตัวสกปรกไปหมด ทำเจ้าขำแล้ว”

“วันนี้ข้ากับน้องซ่งเจอกันเป็นครั้งแรก รู้สึกถูกชะตาเป็นอย่างมาก เอาอย่างนี้ดีหรือไม่...”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ซ่งจื่ออวี๋ก็กระโดดถีบกันไฉจนกระเด็นไปไกล

เขาห้อยต่องแต่งอยู่บนกิ่งไม้ราวกับผ้าขี้ริ้วร้ายๆ ก็ไม่ปาน

“น้องซ่ง เจ้าทำอะไรน่ะ?!”

กันไฉจ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่ตกใจ?!

เมื่อครู่นี้เขาพึ่งจะบอกว่าถูกชะตาเป็นอย่างมาก อยากจะพูดคุยกับ ‘น้องซ่ง’ ดีๆ เสียหน่อย อีกอย่าง น้องซ่งผู้นี้ดูสุภาพเรียบร้อย นึกไม่ถึงว่าถีบเดียวของเขาจะทำให้กันไฉกระเด็นลอยมาไกลขนาดนี้?!

กันไฉห้อยต่องแต่งไปมา สีหน้าตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก “น้องซ่ง นี่มันหมายความว่าอย่างไร”

ซ่งจื่ออวี๋ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับหันไปมองเหล่าบรรดามือสังหารที่เหลือแทน

เหล่าบรรดามือสังหารต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก!

คนที่ถูกซ่งจื่ออวี๋ถีบจนกระเด็นนั้น เป็นถึงพี่ใหญ่ของพวกเขาเชียวนะ!

เจ้าตัวเล็กที่ดูอ่อนแอไม่มีพิษไม่มีภัยผู้นี้ แรงถีบมหาศาลเป็นอย่างมาก!

เมื่อสายตาของซ่งจื่ออวี๋จ้องมองมายังพวกเขา เหล่าบรรดามือสังหารต่างพากันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบอาวุธพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเขาทันที “เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนี่มาจากไหนกัน มีตาหามีแววไม่!”

ถึงแม้ว่าเขาจะมีฝีมือ แต่ดูผอมแห้งแรงน้อยเป็นอย่างมาก

หากทุกคนบุกเข้าไปพร้อมกัน จะต้องล้มเขาได้อย่างแน่นอน!

กันไฉยังคงห้อยอยู่บนต้นไม้ แต่กลับพยายามตะโกนห้ามด้วยความร้อนใจว่า “พวกเจ้าอย่าทำน้องซ่งบาดเจ็บเชียว! เบาๆ มือหน่อย!”

กันไฉกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกลูกสมุนที่อยู่ข้างๆ ห้ามไว้ก่อน “ท่านช่วยหุบปากทีเถิด หากท่านอัญเชิญคนผู้นั้นมา พวกเราได้ตายกันหมดนี่แน่!”

“คนเราจะช้าจะเร็วก็ต้องตายทั้งนั้น”

กันไฉพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “หากตอนนี้ยังไม่พูดออกมา น้องซ่งก็จะฆ่าพวกเราอย่างแน่นอน”

“ตายช้าหน่อยไม่ดีกว่าหรือ”

ทุกคนต่างก็พากันจ้องมองมายังเขาด้วยแววตาที่หวาดกลัว “...”

เขาเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรกัน!?

“น้องซ่ง หากข้าบอกกับเจ้าว่าใครเป็นคนบงการ เจ้าไม่ฆ่าข้าได้หรือไม่ เจ้าดูข้าสิ ทั้งตัวมีเนื้ออยู่ไม่กี่ชิ้น ฆ่าข้าแล้วมีแต่จะเลอะมือเจ้าเสียเปล่า”

กันไฉพูดขึ้นพลางจ้องมองซ่งจื่ออวี๋ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

“มันเป็นผู้ใด”

ซ่งจื่ออวี๋ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“คือ...”

กันไฉกำลังจะตอบกลับ แต่ถูกลูกสมุนที่อยู่ข้างๆ ตะโกนห้ามไว้อีกครั้ง “ท่านไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”

เหล่าบรรดามือสังหารเริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง

ซ่งจื่ออวี๋เริ่มจะหมดความอดทน

กันไฉและเหล่าบรรดาลูกสมุนเหมือนจะรู้สึกได้ บนตัวของเขาไม่มีอาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว ดังนั้นเมื่อครู่นี้เหล่าบรรดามือสังหารถึงได้กล้าที่จะเข้าไปล้มเขา

แต่ใครจะไปรู้ว่าเพียงชั่วอึดใจ เมื่อพวกเขาหันกลับไปดู...

ก็เห็นมือขวาของซ่งจื่ออวี๋ค่อยๆ ยกขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับกระบี่ที่คมกริบ

หากจะบอกว่ามันเป็นกระบี่คม ควรเรียกมันว่ากระบี่น้ำแข็งดูจะเหมาะกว่า

ตัวเรือนกระบี่ใสเป็นอย่างมาก ราวกับว่าหล่อหลอมขึ้นมาจากน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น แต่กลับคมกริบจนน่ากลัว...

กระบี่ของเขาหล่อหลอมขึ้นมาจากภาพลวงตาหรืออย่างไรกัน?!

สรุปแล้วใครตาลายกันแน่ หรือว่าโลกนี้มันบ้าไปแล้วจริงๆ ยังมีคนในใต้หล้านี้สามารถเปลี่ยนวัตถุจากอากาศได้หรืออย่างไรกัน?!

สรุปแล้ว คุณชายซ่งที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเป็นผู้ใดกันแน่?!

ซ่งจื่ออวี๋ชี้ปลายกระบี่ไปที่กันไฉ นัยน์ตาของเขาเย็นยะเยือก พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “พูดมา ว่าใครเป็นคนสั่งการให้พวกเจ้าลอบสังหารพระนัดดาองค์โต?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์